เด็กสาวร้อนรนอยากจะคุยเรื่องที่เพิ่งจะผ่านไปเมื่อสักครู่ แต่พิมพ์ดาวก็เอาแต่พับผ้าทำงานบ้านไม่หยุดเสียทีไม่ยอมเข้าห้องนอนง่ายๆ จนทนไม่ไหว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย
"ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร" พิณตรานั่งลงบนพื้นข้างพิมพ์ดาวที่กำลังพับผ้ากองเบ้อเริ่มใส่ตะกร้า เธอไม่เอ่ยถามถึงผู้ชายคนนั้นในทีแรกเพราะคิดว่าพิมพ์ดาวจะอธิบายและแนะนำให้เธอรู้จักแทน แต่คนพี่กับเงียบไม่พูดหรือบอกอะไรทั้งนั้นทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เป็นเจ้านายคนใหม่ค่ะ คุณไมเคิล"
"แค่นี้เหรอ อยากบอกพิณแค่นี้เหรอ" คนน้องดูหงุดหงิดกนักกว่าเดิมที่ได้ยินคำตอบ
"พิณอยากรู้อะไรล่ะคะ นั่งอยู่เฉยๆ ก็ช่วยพี่พับด้วยก็ดีค่ะ" เด็กสาวจึงคว้าผ้าที่กองอยู่มาพับอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก
"ตอนแรกพิณก็ไม่ชอบจอนแต่ตอนนี้พิณต้องไม่ชอบไมเคิลอีกแล้วเหรอ พิณหวงพี่ ไม่อยากให้คนพวกนั้นอยู่ใกล้พี่"
"ไม่ไว้ใจพี่เหรอคะ"
"ไม่ไว้ใจผู้ชายพวกนั้นค่ะ"
"พิณรู้มั้ย นอกจากพี่จะเจอผู้ชายสองคนนั้นทุกวันแล้ว พี่ยังเจอลูกค้าทั้งหญิงและชายมากหน้าหลายตาไม่ต่ำกว่าสิบคนต่อวัน"
"ที่พี่จะบอกก็คือ เรื่องที่พิณกำลังคิดจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาดค่ะ" เหมือนยิ่งอธิบายเท่าไหร่คนน้องก็ไม่พยายามจะเข้าใจจึงยื่นมือไปบีบคิ้วย่นๆ ของคนตรงหน้าด้วยความหมั่นเขี้ยว
"เอาเป็นว่าพี่จะระวังตัวเอง พยายามไม่หว่านเสน่ห์ค่ะ" ทำให้เด็กสาวเผลอหลุดขำออกมา
"ที่พี่บอกว่าพี่ชอบที่พิณหึงอันนี้ก็จริงนะคะ แต่ถ้าเยอะเกินพี่กลัวว่าพิณจะประสาทเสียไปเสียก่อน"
"ก็พิณรักพี่มากไงคะ ต้องทำยังไงให้คนพวกนั้นไม่มายุ่งกับผู้หญิงของพิณ" เด็กสาวหน้านิ่วใช้ความคิด ต่างกับคนพี่ที่เอาแต่เขินกับคำว่า ผู้หญิงของพิณ นี่วันนี้หล่อนพูดสองครั้งแล้ว
"ทำไมพี่หน้าแดง" สังเกตเห็นพิมพ์ดาวหน้าแดงระเรื่อ คนพี่เบือนหน้าหนีทันทีอายที่พิณตราเอาแต่จ้องเธอ
"งั้นพี่รอพิณอยู่นี่แป้บนึงนะ เดี๋ยวมา" คนน้องรีบลุกออกจากห้องไปไม่นานก็เดินเข้ามาพร้อมกับขวดไวน์และแก้วเพียงหนึ่งใบ พิมพ์ดาวหันไปเจอเข้าก็ขำออกมาด้วยสงสัยว่าเด็กสาวนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรกันถึงต้องดื่มของมึนเมาเวลานี้
"นี่จะมอมตัวเองเหรอคะ" เธอมั่นใจว่าเด็กสาวตั้งใจนำมาเพื่อดื่มคนเดียวเพราะมีแค่แก้วทรงสูงใบเดียว
"จะเอามามอมพี่นั่นแหละ เขาว่าคนเมาไม่โกหก"
"พี่ไม่มีเรื่องอะไรต้องโกหกค่ะ" พูดไปสายตาก็เอาแต่จ้องมองคนน้องที่ตั้งใจรินไวน์ราคาแพงลงในแก้ว
"พิณไม่รักพี่" พร้อมกับกระดกของเหลวสีเข้มลงคอจนหมดแก้ว
"คนโกหกต้องดื่ม พี่อยากพูดโกหกบ้างมั้ย" พร้อมกับส่งแก้วไวน์ที่เพิ่งรินให้กับพิมพ์ดาวอย่างท้าทาย ยื่นมือออกไปเตรียมจะรับแก้วมาถือแต่ถูกดึงกลับไป
"วางก่อนค่ะ" ส่งสายตาดุๆ ไปยังมืออีกข้างของพิมพ์ดาวที่กำลังจัดผ้ากองโตไม่เสร็จเสียที จะมีสักวินาทีมั้ยที่คนรักจะไม่สนใจงานบ้านงานเรือน
"ค่ะ เลิกแล้ว" เลื่อนกองผ้าตรงหน้าให้ไกลออกไปและหันไปหาคนน้องยกสองมือขึ้นอย่างยอมแพ้
"ตาพี่แล้วค่ะ" ส่งแก้วให้ คราวนี้พิมพ์ดาวคว้ามาถือไว้พร้อมกับใช้ความคิดสักพัก
"พี่ เกลียดพิณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ" พร้อมกับรีบกระดกลงคออย่างยากลำบาก
"ครั้งแรกที่เจอคือตอนไหน ที่บริษัทเหรอคะ" เด็กสาวสงสัยเพราะเท่าที่จำได้ก็น่าจะเป็นตอนที่เธอแวะเวียนเข้าไปหาพี่ชายหรือหาเจ้านายคนสวยของพิมพ์ดาว ไม่ได้สังเกตหรือเห็นคนพี่อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
"ไม่ใช่ค่ะ หน้าจอทีวี"
"พี่รักพิณจริงๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ ทำไมล่ะ"
"พิณถามพี่เยอะจัง พี่เสียเปรียบเเล้วนะคะ" เพื่อเป็นการตัดปัญหาเด็กสาวจึงรินไวน์ใส่แก้วอีกแล้วทำท่าจะคว้ามาดื่มแต่ถูกคนพี่ห้ามไว้ด้วยการยกออกห่าง
"ไม่ต้องมอมตัวเองเหมือนที่บอกแต่เเรกก็ได้ค่ะ เพราะถ้าอยากรู้พี่จะบอกให้"
"งั้นรีบบอกเลยค่ะ" เด็กสาวร้อนรน
"ละครเรื่องแรกของพิณไงคะ เด็กน้อยนิสัยเสีย ตาโตๆ หน้ากลมๆ นั่นแหละค่ะถูกใจพี่
"ยิ่งในจอกับนอกจอไม่ต่างกันเลยนั่นยิ่งทำให้พี่ชอบ"
"นี่หลงรักคนเลวเหรอคะ ละครเรื่องแรกพิณโคตรเลวเลยนะนั่น แต่ก็ทำให้ดังมากด้วย"
"ค่ะ" พิมพ์ดาวยิ้มกับท่าทางตื่นเต้นดีใจของคนน้อง ไม่ลืมยื่นแก้วคืนให้
"ตาพิณแล้วค่ะ" พอรับมาปุ้บก็รีบกระดกดื่มทันทีไม่สนใจคนพี่ทีทำท่าห้าม
"พิณ ไม่ชอบที่พี่ถอดเสื้อผ้า"
"บ้า ทำไมอยู่ๆ ถึงเข้าเรื่องนี้" พิมพ์ดาวเริ่มไปไม่เป็นกับคำที่เด็กสาวเอ่ยออกมา
"พี่ไม่เชื่อเหรอ ถอดเสื้อสิ"
"ไม่เอาค่ะ พี่เหนื่อยมาทั้งวันเเล้ว"
"พูดจริงหรือโกหกคะ" ยื่นแก้วให้คนพี่พร้อมกับใบหน้ายียวน มีหรือที่พิมพ์ดาวจะปล่อยให้ตัวเองได้คิดนาน คงเพราะฤทธิไวน์ที่รีบดื่มเกินจนทำให้สมองส่วนความคิดช้าลง รับแก้วไวน์มาดื่มจนหมดรวดเดียว นี่เธอคงบ้าไปแล้ว กลายเป็นว่าเป็นเธอเองที่ถูกเด็กสาวมอม
"อย่าค่ะ" คนพี่เริ่มนั่งไม่ตรงซึ่งคนน้องก็จู่โจมทันที พิมพ์ดาวถูกดันลงจนแผ่นหลังติดพื้น มือปลาหมึกเลิกเสื้อตัวหนาขึ้นมากองที่อกทำให้เห็นเนินเนื้อพ้นบราสีอ่อนได้อย่างเต็มตา
"ทำไมคะ" เสียงพิณตราเอ่ยถามคนที่กำลังคิดช้าหัวหนักอื้อ
"พี่แค่กำลังมึน" ไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ ก็ถูกคนน้องจู่โจมที่ซอกคอ มือยาวปัดป่ายกองผ้าให้พ้นตัว ตามลงไปคล่อมคนรักติดๆ มือพิมพ์ดาวถูกตรึงไม่ให้ขยับไปไหนด้วยนึกรำคาญคนพี่ที่พยายามจะดันตัวเธอออก
"งั้นเราอาจต้องไปที่เตียง" เด็กสาวกระซิบแผ่วเบาข้างหูคนพี่
"อย่าค่ะ ตรงนี้ก็ได้" ดึงคอเสื้อคนน้องที่เตรียมลุกออกจากตัวให้ก้มลงมาหาเธอใหม่ พร้อมกับประกบปากทันที ฤทธิ์ไวน์ที่เพิ่งลิ้มรสเข้าไปกำลังอบอวลอยู่ในปากของคนทั้งคู่ ไวน์ราคาแพงที่เทออกจากขวดแล้วดื่มจากแก้ว ไม่ทำให้รสชาติเลอเลิศเท่ากับการผสมผสานผ่านปากและลิ้นของกันและกันที่กำลังมอบความหอมหวานได้อย่างลงตัว
"เราไม่ได้มีอะไรกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ" ช่วงนี้พิณตราทั้งงานเยอะและกลับบ้านดึก ไม่เพลียจนหลับไปก่อนก็อดสงสารแม่ศรีเรือนที่ไม่หยุดทั้งงานนอกบ้านและในบ้าน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่โหยหาการพักผ่อนแต่พิมพ์ดาวก็ต้องการเช่นกัน
"คืนนี้พี่ต้องเหนื่อยใช่มั้ยคะ" คนพี่เอ่ยถามเสียงหวาน
"ให้ตอบจริงหรือโกหกล่ะ" เด็กสาวยังยียวนไม่เลิก
"พี่ว่า..."
'ติ๊ง ต่อง' ไม่ทันที่จะเอ่ยได้จบประโยค เสียงกริ่งที่คุ้นเคยสำหรับวันนี้ก็ดังขึ้นอีก
"โอ้ยยยยย! " เด็กสาวร้องออกมาด้วยความโมโห
"รอบนี้เดี๋ยวพี่ไปเปิดเองค่ะ" พิมพ์ดาวเอ่ยทำลายอารมณ์คนน้อง อยากจะขำออกมากับท่าทางขัดใจเหมือนเด็กของคนรัก
"มาทำไมเนี่ย" คนที่มาใหม่ในยามวิกาลคราวนี้คืออีวา
"ฉันเหงา" อีวาพูดอย่างน่าสงสาร
"แล้วทำไมถึงไม่ทำเหมือนที่อย่างที่เคยทำ" แอบกระซิบกลัวพิมพ์ดาวที่อยู่ข้างบนจะได้ยิน
"ฉันเบื่อ อยากจริงจังกับใครสักคน"
"อย่าบอกนะว่าฉัน" เด็กสาวตาโต
"ก็อยากได้อยู่อะนะ" พร้อมกับใช้นิ้วไต่ที่ขาเด็กสาว แต่ถูกปัดออกอย่างแรง จนอีวานึกขำกับท่าทีหวงเนื้อหวงตัวไม่เหมือนเมื่อก่อน
"แต่ติดตรงที่เธอมีแฟนแล้วและฉันก็ไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของ" พูดแค่นั้นต่างคนก็ต่างหันหน้าหนีออกจากกัน คนนึงโล่งอก ส่วนอีกคนก็ด้วยความหมั่นไส้ในความหลงผู้หญิงของพิณตรา
"แล้วบอกคุณดาวหรือยังเรื่องงาน" อยู่ๆ คนที่ชอบกวนก็เปลี่ยนเรื่อง
"ยังบอกไม่หมด" เด็กสาวทำหน้าลำบากใจ
"งั้นเดี๋ยวฉันบอกเอง คุณดาวน่าจะไม่ขัดอยู่แล้ว"
"ไม่ต้อง! เรื่องนี้ฉันต้องพูดเอง เธอเป็นคนนอก ไม่ต้องยุ่งเลย"
"จ้า แม่คุณ รีบๆ เข้าล่ะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยและฉันก็อยากได้รถคันใหม่เสียเต็มแก่แล้ว"
"รู้แล้วน่า" เด็กสาวรู้สึกหนักใจกับคำพูดกดดันของผู้จัดการส่วนตัว
"ฉันเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะคะ เผื่อคุณอีวาจะค้างที่นี่" พิมพ์ดาวลงมาเอ่ยขัดจังหวะทั้งคู่
"ค่ะ/ไม่" อีวายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะค้างที่นี่ส่วนพิณตรากลับตรงกันข้าม
"ฉันจะค้างที่นี่ค่ะ" อีวาหันไปย้ำอีกรอบ ยิ่งพิณตราไม่ชอบใจนักเธอยิ่งสนุก
พิณตรานอนพลิกตัวไปมาอย่างนอนไม่หลับเพราะตอนนี้บนเตียงที่เธอใช้นอนร่วมกับคนรักดันมีอีวามาเพิ่มอย่างหน้าตาเฉย ราวกับจะกวนประสาทตัวเองเหงาไม่มีคู่แต่มาคอยขัดคอคนอื่นอยู่เรื่อย เด็กสาวคิด
"โอ้ย! " อยู่ๆ พิณตราก็ลุกขึ้นนั่งแถมยังร้องเสียงหลงด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ทำให้คนที่เคลิ้มๆ อย่างพิมพ์ดาวและอีวาลืมตาตื่นและลุกขึ้นนั่งตามด้วยความตกใจ
"มีอะไรคะ" พิมพ์ดาวจับเเขนคนรักและเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
"พิณจะนอนตรงกลาง" หันบอกพิมพ์ดาวก่อนจะคลานข้ามขาคนพี่ไปแทรกกลางระหว่างพิมพ์ดาวและอีวา ทั้งคู่ต่างรีบขยับหนีให้ แต่ก่อนคนเรื่องมากจะทิ้งตัวลงนอนก็ไม่ลืมหันไปมองค้อนอีวา ทำให้คนอายุมากกว่าทั้งสองรู้ที่มาที่ไปของอาการกระฟัดกระเฟียดของเด็กสาวทันที