เสียงพูดไม่จริงใจ เนื่องจากแอบมองประกายดาวขายของตั้งแต่เนื้อย่างเสียบไม้เรียงเต็มถาดยาว จนหมดเกลี้ยง รอยยิ้มของหล่อนเลือนหายทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา ติณณภพสบสายตาคู่อ่อนล้าที่เบือนหนีไปทางอื่น เขายืนเก๊กหล่อหน้าร้าน ขวางทางคนเดินถนนที่ต้องหลบชายหนุ่ม ทั้งที่ขอบทางแคบนิดเดียว จะหลบเขาทีไรต้องคอยมองถนนให้ดี ปากซอยมีรถเล็กรถใหญ่ขับเข้าออกตลอดเวลา กลิ่นหอมของเนื้อย่างยั่วน้ำลายคนที่ไม่เคยกินอาหารร้านรถเข็น หล่อนใส่ถุงมือ ปิดปาก ท่าทางสะอาดใช้ได้ แต่ติดภาพจำเจตนิพัทธ์อ้วกใส่หน้าร้าน แค่นึกภาพตามให้ฟรีเขายังไม่กล้ากิน “สบายดีไหม” “...” มองออกว่าประกายดาวจงใจไม่ตอบ และยืนหันข้างให้ หล่อนดับถ่านไฟร้อน เก็บร้าน ยกเก้าอี้พลาสติกวางด้านบน ผูกขาเก้าอี้ด้วยสายไฟติดกับตัวรถไม่ให้หล่นระหว่างทาง “ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ” “ก็ดี” ประกายดาวตอบห้วน ไม่มองหน้าเขา “นึกว่าอยู่กรุงเทพฯ มาขายของที่นี่นา