ตอนที่2 ร่วมแรงร่วมใจ

1515 คำ
ตอนที่2 ร่วมแรงร่วมใจ ปลายยามอู่ (11.00 – 12.59 น.) แสงแดดส่องไปทั่วผืนป่าอันเขียวขจี สองสามีภรรยาเดินประมาณหนึ่งเค่อ (15นาที) ก็มาถึงกระท่อมบ้านพักของตนเองที่มีเนื้อที่โดยรวมหนึ่งหมู่ (1ไร่จีน) ชายหนุ่มนั้นไม่ได้มีที่นาหรืออะไรมาก เขามีแค่ที่ดินในบ้านเท่านั้น กระท่อมไม้ห้องเดียวรั้วไม้ผุพังตามกาลเวลา ซือซือมองดูแล้วก็อยากให้สามีล้อมรั้วให้มิดชิดนัก เพราะนางนั้นกลัวสัตว์ป่าบุกเข้าบ้านยามวิกาล "ท่านพี่เหนื่อยไหมเจ้าคะ" "ไม่เหนื่อยหรอกมีภรรยาแสนดีถามไถ่อย่างนี่ต่อให้แบกหินสิบชั่งข้าก็ไม่เหนื่อย" "นี่ท่าน" "ฮ่าๆๆ" สองสามีภรรยานั่งข้างๆ กัน ก่อนที่ร่างบางจะไปตักน้ำดื่มมาให้ผู้เป็นสามีดื่ม ร่างหนาดื่มและพักพอหายเหนื่อยก็เริ่มทำงานต่อ ชายหนุ่มผ่าไม้ไผ่ยักษ์แบ่งซีกเป็นชิ้นๆ ซือซือก็ไม่น้อยหน้าหยิบเสียมเหล็กไปขุดหลุมเพื่อปลูกต้นผิงกั่วป่าสามต้นที่ได้มาทันที หญิงสาวเลือกปลูกตรงหน้าบ้านทั้งสามต้นเพราะตรงหน้าบ้านไม่มีต้นไม้หรือดอกไม้อะไรมีแค่ความว่างเปล่าตามประสาบ้านของผู้ชายตัวคนเดียว ซือซือขุดและลงมือปลูกต้นผลไม้ป่าอย่างใส่ใจไม่นานต้นผิงกั่วในป่าก็ถูกปลูกในบ้านของตนเองเรียบร้อย 'รีบๆ โตนะ' "ซือซือเสร็จแล้วหรือยัง" "เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านพี่" "มาช่วยข้าจับไม้ไผ่หน่อย" "เจ้าค่ะ" กระท่อมหลังเล็กๆ ได้มีการต่อเติมมีห้องอาบน้ำด้านหลังบ้าน ปกติครัวของบ้านโล่งว่างเปล่า ชายหนุ่มตีไม้ไผ่ให้ครอบคลุมทั้งครัวและต่อเติมห้องอาบน้ำด้านหลังให้ภรรยาหมาดๆ ของตนเอง สองสามีภรรยาช่วยกันเกือบหนึ่งชั่วยาม (2ชั่วโมง) ถึงแล้วเสร็จ ก่อนที่ชายหนุ่มจะบอกภรรยาว่าจะไปตัดไม้ไผ่มาเพิ่มอีก ให้นางนั้นรั้งรออยู่ที่บ้านไม่ต้องไปตาม ไม่นานชายหนุ่มก็มาจากป่าอีกครั้งพร้อมไม้ไผ่ลำโตๆ มากองไว้ที่บ้านชายหนุ่มนั่งผ่าไม้ไผ่อย่างไม่รู้จักเหนื่อย ไป๋ซือซือเห็นแล้วก็รู้สึกดีกับชายหนุ่มไม่น้อยงานหนักก็ไม่เคยให้นางทำให้ทำแต่งานสบายๆ เบาๆ พอนึกไปแล้วก็ทำให้นางนั้นยิ้มออกเองโดยไม่รู้ตัว 'ท่านดีกับข้าขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ดีกับท่าน' ความดีของถังซานนั้นแน่นอนว่าชนะใจของนางไปแล้ว ซือซือที่เห็นสามีทำงานจนเหงื่อโชกไปทั้งตัว ก็ลุกไปปอกผลไม้ใส่จานรอสามี ร่างหนานั้นทำการซ่อมแซมผนังบ้านอย่างดี อันไหนที่เคยมีรูกว้าง ชายหนุ่มก็จัดการนำไม้ไผ่ไปอุดปิดจนตอนนี้กระท่อมเก่าๆ ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิมไม่น้อย ทั้งยังมีห้องอาบน้ำอยู่ใกล้บ้านอีก นางมองดูแล้วก็รู้สึกดีเหลือเกินที่สามีให้ความสำคัญกับนางขนาดนี้ "ท่านพี่มาพักดื่มน้ำทานผลไม้เจ้าค่ะ" "เดี๋ยวข้าไปขอซ่อมตรงนี่สักครู่" "เจ้าค่ะ ข้าไปทำอาหารเย็นรอนะเจ้าคะ" "ไปเถอะ" สองสามีภรรยามือใหม่ต่างพากันทำหน้าที่ของตนเองอย่างขยันขันแข็งร่างบางเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆ ของบ้านมีห้องครัวนี้มีเตาสองเตา มีชั้นวางของใหม่ที่สามีน่าจะเพิ่งทำได้ไม่นาน เป็นชั้นสามชั้นเครื่องปรุงของบ้านก็มีน้ำมันหมูหนึ่งไหใหญ่ น้ำตาลหนึ่งไหเล็ก แถมยังมีเกลือหยาบๆ ประมาณหนึ่งกำมือพอให้ปรุงกับข้าวให้มีรสชาติไปได้เป็นเดือน ร่างบางนำหน่อไม้ไปเก็บไว้ในชั้นสองอย่างเป็นระเบียบทั้งผักกาดป่าก้านอวบๆ ก็ถูกล้างจนสะอาด ก่อนที่สายตาของนางนั้นจะสะดุดที่ข้าวสารครึ่งถัง ดูท่าไม่ถึงเดือนคงจะหมดแน่ๆ ทำให้คิ้วของนางนั้นขมวดเองอย่างไม่ตั้งใจ ใบหน้าของนางนั้นฉายแววกังวลใจและทุกข์ไปพร้อมๆ กันแล้วจึงถอนหายใจดังๆ ให้ตัวเอง นางนั้นก็จนสามีก็จนเช่นกัน ชะตาชีวิตของนางและสามีช่างเหนื่อยโดยแท้!! หลังจากที่ทำใจได้นางก็ได้ทำการหุงข้าวเย็นและลงมือทำกับข้าวทันที ยังไงชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ต้นยามโหย่ว (17.00 – 18.59 น.) พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว กระท่อมไม้ไผ่เล็กๆ จุดเทียนไฟหนึ่งเล่มบนโต๊ะอาหาร สองสามีภรรยาเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเตรียมทานอาหารเย็นต่อ แกงหน่อไม้ใส่เนื้อแห้งร้อนๆ โชยกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้านหลังน้อย ผัดผักกาดป่าก็ไม่น้อยหน้านางใส่น้ำมันหมูหนึ่งช้อนและยังปรุงรสด้วยเกลือน้ำตาลก็ส่งกลิ่นหอมน่าทานออกมาทั่วกระท่อมหลังน้อย สองสามีภรรยานั่งสบตากันก่อนจะนั่งทานอาหารกันสองคน ถังซานยกช้อนมาชิมน้ำแกงก่อนจะตาโตด้วยความอร่อย "ทำอาหารอร่อยจริงๆ เลยนะเจ้าน่ะ" "ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่" "ข้าไม่เคยกินน้ำแกงมานานมากปกติกินแต่เนื้อแห้งกับไก่ย่าง” "งั้นต่อไปข้าทำให้ท่านพี่ทานทุกวันดีไหมเจ้าคะ" "ดีสิ" สองร่างนั่งคุ้ยขาวกันอย่างเอร็ดอร่อยด้วยน้ำแกงร้อนๆ ตอนนี้นางก็เริ่มสนิทกับสามีคนนี้ไม่น้อย ชายหนุ่มนั้นทั้งใจดีและอ่อนโยน แค่มีตัวโตผิดกับนิสัยไปหน่อย อาหารทั้งสองอย่างนั้นถูกทานไปโดยสองสามีภรรยาจนหมดเกลี้ยง ก่อนที่ทั้งสองจะทานผิงกั่วคนละครึ่งลูกตบท้ายแบ่งกันทานอย่างสุขใจ หลังจากที่จัดการเก็บกวาดจนเรียบร้อยสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันก็เข้านอนทันทีแสงเทียนวูบไหวเป็นจังหวะไม่นาน ก่อนจะถูกดับลงโดยร่างหนา เช้าตรู่ของวันใหม่สองสามีนอนกอดกันแน่นไม่คลาย ชายหนุ่มตื่นตื่นแต่ก่อนจะเห็นภรรยานอนตัวสั่น ร่างบางตัวร้อนจี๋ ชายหนุ่มตกใจรีบลุกขึ้นทันที ก่อนจะเอามือหนาแนบกับหน้าผากของหญิงสาวก่อนจะตกใจกับอาการตัวร้อนของภรรยา ถังซานรีบสวมเสื้อผ้าก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมร่างของหญิงสาวให้อบอุ่นก่อนจะไปต้มน้ำร้อนและทำโจ๊กใส่ไข่ให้ภรรยาของตนเองพลางคิดในใจและโทษตัวเองไปด้วยที่ไม่ยับยั้งชั่งใจตนเอง 'สงสัยจะเคี่ยวกรำภรรยามากไป' "ซือซือลุกขึ้นมาทานโจ๊กเถอะ" "อือ" "ลุกไหวไหมปวดหัวหรือเปล่า" "ไม่ปวดเจ้าค่ะแค่มึนหัวนิดหน่อย" "เจ้าทานโจ๊กก่อน ข้าจะไปซื้อยาให้ข้าไม่เคยป่วยมาก่อนเลยไม่มียาเก็บไว้น่ะ" ร่างหนาช้อนตัวหญิงสาวให้พิงกับหัวเตียงก่อนจะค่อยๆ ป้อนโจ๊กไข่ให้ร่างบางอย่างระมัดระวังทั้งเป่าทั้งดูจนแน่ใจใจหลังจากที่ภรรยาตัวน้อยทานจนอิ่มถังซานก็ไปเก็บถ้วยโจ๊กก่อนจะตักน้ำร้อนผสมน้ำอุ่นเพื่อมาเช็ดตัวภรรยาตัวน้อยตรงหน้าจดสะอาดหมดจด จนทำให้คนที่ถูกเช็ดตัวนั้นเกิดอาการหน้าแดงเพราะความเขินอาย "ท่านพี่พอแล้วเจ้าค่ะ" "ก็ได้ๆ เจ้านอนพักผ่อนนะเดี๋ยวข้าไปซื้อยามาให้" "เจ้าค่ะ" ร่างหนาของถังซานหยิบหมวกสานสีดำที่มีผ้าสีดำโปร่งยาวปกปิดใบหน้า ก่อนจะเดินตามทางไปอย่างรวดเร็วชายหนุ่มเดินไปตามทางไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพราะชายชราของบ้านนี่เคยเป็นลูกจ้างขายยามาก่อนในตัวเมือง ก่อนจะลาออกกลับมาบ้านเกิดมาทำสวนและขายยาไปพร้อมๆ กัน หญิงสาวในหมู่บ้านต่างพากันกระซิบกันเวลาเจอชายหนุ่มชุดดำสวมหมวกปกปิดความอัปลักษณ์ของใบหน้า กลุ่มเด็กสาวที่กำลังซักผ้าอยู่พากันพูดสนุกปากโดยไม่สนว่าคนตรงหน้าได้ยินจะโกรธไหม 'ดูๆ เจ้าอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านนั้น' 'พี่เขยเจ้าไม่ใช่หรือไป๋เชียน' 'นังบ้าพูดมาได้ไงนังไป๋ซือซือข้าไม่นับญาติ' 'สงสารไป๋ซือซือจริงๆ ได้แต่งกับคนอัปลักษณ์เป็นข้าจะไม่ยอมแต่ง' 'เหอะ คนชั้นต่ำก็ต้องเหมาะกับคนชั้นต่ำสิ' 'เจ้าอัปลักษณ์นั้นไปไหนกันนะ' 'ไปซื้อยาด้วยสงสัยไป๋ซือซือจะเลือดตกยางออก' 'สมน้ำหน้าใครให้ได้สามีไม่ดีละ ฮ่าๆ' 'ฮ่าๆ' 'ไปๆๆ เจ้าอัปลักษณ์เดินมาแล้ว'  ถังซานที่ได้ยินกลุ่มหญิงสาวว่าตนเองอัปลักษณ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะตนเองชินและชากับชื่อนี่มานานแล้ว ก่อนจะเมินหน้าออกแล้วรีบเดินไปที่ท้ายหมู่บ้านเพื่อกลับไปต้มยาให้ภรรยาของตนเองที่นอนรออยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม