บ่วงรักเมียขัดดอก 1. ชีวิตยิ่งกว่าละคร

1984 คำ
“นังแสนดีอยู่ไหน” พอกลับมาถึงบ้านก็ร้องเรียกลูกเลี้ยงด้วยความเกรี้ยวกราดเหมือนทุกครั้ง แสนดี สาวน้อยวัย 19 ปี ก็รีบขานรับวิ่งออกมาต้อนรับแม่เลี้ยงอย่างสุดใจทันที หากช้ากว่านี้มีหวังโดนดีแน่นอน แต่ใช่ว่ามาเร็วจะไม่โดนดี “คะ แม่สุดใจ” เธอขานรับแล้ววิ่งเข้ามาหาแม่เลี้ยงที่เพิ่งทิ้งตัวนั่งลงโซฟา “กูหิว มีอะไรกินมั่งวันนี้” หล่อนกราดเสียงถามลูกเลี้ยง “มีข้าวไข่เจียวค่ะ แม่สุดใจ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก “ฮะ! ข้าวไข่เจียวอีกแล้ว กูเบื่อ มึงทำไมไม่ทำอย่างอื่นให้กูกินมั่งฮะนังแสนดี” สุดใจดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความเดือดดาล ไม่บอกก็เดาได้ว่าเล่นเสียที่บ่อนมาอีกแล้วถึงมาใส่อารมณ์กับตนแบบนี้ แสนดีได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าสู้และพูดตอบ “ทำไมเงียบ กูอยากกินข้าวขาหมู ไปซื้อมาให้กูเดี๋ยวนี้นังแสนดี! แล้วน้องกิ่งแก้วไปไหน กลับบ้านรึยัง” นางชี้นิ้วสั่งลูกเลี้ยงและถามถึงลูกสาวของตนเอง “ซื้อมาเผื่อกิ่งแก้วลูกกูด้วยล่ะ ส่วนข้าวไข่เจียวมึงก็กินคนเดียวของมึงไปเถอะนังแสนดี” “ค่ะ แม่สุดใจ” เธอรับคำสั่ง แต่ยังไม่ไปไหนยังนั่งกับพื้นพรมที่เดิม “ทำไมไม่ไปล่ะ มานั่งเสนอหน้าอยู่ที่นี่ทำไม” “เงินค่ะแม่สุดใจ” “กูจะเอาที่ไหนมาให้มึงนังแสนดี มึงก็ไปหามาซื้อให้กูกินสิ” “แสนดีไม่มีแล้วนะคะแม่สุดใจ เงินทุกบาททุกสตางค์ของแสนดี แม่สุดใจเอาไปหมดแล้ว” “อ๋อ...มึงว่ากูเอาเงินมึงไปหมดเหรอนังแสนดี เผียะ!” แล้วมือเหี่ยวย่นก็ยกขึ้นตวัดฟาดตบหน้านวลเนียนของลูกเลี้ยงเต็มแรงเกรี้ยวกราด “กูไม่กินก็ได้ งั้นเอาข้าวไข่เจียวมาให้กู กูหิว” แล้วนางก็ทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาตัวเดียวในห้องโถง ในบ้านหลังนี้ข้าวของแทบจะไม่มีเหลือแล้ว แม่เลี้ยงติดการพนัน เจ้าหนี้ทยอยมายึดทีละชิ้นสองชิ้น อีกไม่นานคงเหลือแค่บ้านเปล่าๆ แล้ว แสนดียกมือกุมแก้มข้างที่โดนตบ น้ำตาคลอลุกเดินออกไปเพื่อนำข้าวมาให้แม่เลี้ยงทาน ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ต่างจากนางเอกในละครหลังข่าวตอนเย็นนักหรอก หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เธอต้องตื่นแต่เช้าเตรียมอาหารให้แม่เลี้ยงกับน้องสาว ลูกติดแม่เลี้ยง งานบ้านทุกอย่างในบ้านหลังนี้ เธอรับผิดชอบทุกอย่าง เป็นแบบนี้ตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบ ตั้งแต่พ่อจากไป เธอก็อยู่กับแม่เลี้ยงมาตลอด อยากจะเรียนต่อก็ไม่ได้เรียน แม่เลี้ยงบอกจะเรียนไปทำไมหนักหนาเป็นผู้หญิง จบแค่มัธยมปลายก็พอแล้ว เธอจึงจบแค่นั้น แต่น้องสาวลูกติดแม่เลี้ยงกลับได้เรียนโรงเรียนดีๆ และท่านก็จะส่งลูกสาวท่านเรียนต่อด้วย ทั้งๆ ที่เงินพวกนั้นคือเงินที่พ่อทิ้งไว้ให้เธอ แต่ตอนนี้มันแทบไม่เหลือแล้ว เพราะท่านเอาไปเล่นพนันแทบจะหมดแล้ว เผลอๆ อีกไม่นานก็จะไม่มีที่ซุกหัวนอนกัน มือหนาเปิดอ่านเอกสารสัญญากู้ยืมเงินและโฉนดบ้านที่ลูกหนี้ตนเองนำมาค้ำประกันเงินกู้ก็ยกยิ้มมุมปาก ตอนนี้เลยกำหนดชำระหนี้มาสองเดือนแล้ว แถมขาดส่งดอกด้วย “ทำไมยัยคุณนายสุดใจถึงไม่ส่งดอกเบี้ยเราสักที ไม่ส่งทั้งดอกทั้งต้น ถึงเวลาไปทวงแล้วไหมไอ้อ่ำ” จ้าง หนุ่มเงินกู้ หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี ย่าง 41 ปี เอ่ยขึ้นพร้อมกับโยนแฟ้มเอกสารให้อ่ำ คนสนิทตนดู เขาเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ที่ร่ำรวยที่สุดในละแวกนี้ และไม่มีใครไม่รู้จักและไม่เป็นหนี้เขาเช่นกันในอำเภอแห่งนี้ในจังหวัดสุพรรณบุรี “ครับเสี่ย เราจะไปทวงที่บ้านของหล่อนหรือจับตัวมาที่สำนักงานครับ” “ไปที่บ้านดีกว่า ฉันจะไปดูบ้านด้วยว่าสภาพเป็นยังไงและขายได้ราคาไหมถ้ายึดมา” “ครับเสี่ย เดี๋ยวผมไปเตรียมรถนะครับ” “อือ...ไม่ต้องให้คนติดตามไป รอบนี้ฉันจะไปดูก่อนว่าทางหล่อนเป็นยังไง ถ้ายุ่งยากค่อยให้คนของเราตามไปสมทบ” “ครับเสี่ย” อ่ำรับคำแล้วเดินออกไปจัดการตามคำสั่ง จ้างเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วก็ยกมือขึ้นนวดขมับให้ผ่อนคลาย เขาเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ แต่ก็ไม่ได้ใจโฉดแบบตามข่าว เขาให้โอกาสลูกหนี้เสมอ แต่ก็สำหรับคนที่ควรได้รับมันเท่านั้น สำหรับบางคนก็ต้องเล่นบทโฉดบ้าง และลูกหนี้รายนี้พอจะรู้มาบ้างว่าเป็นยังไง จึงอยากไปหยั่งเชิงหล่อนดูก่อนว่าจะเอายังไงกับเงินก้อนที่กู้ไป เขาให้เงินหล่อนไปก็อยากได้เงินคืน ไม่ได้ต้องการโฉนดที่ดินของคนอื่น แถมยังสืบรู้มาอีกว่าบ้านและโฉนดที่ดินเป็นของลูกเลี้ยงหล่อนไม่ใช่ของหล่อน คิดแล้วก็สงสารเด็กน้อยคนนั้นที่ต้องอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงใจยักษ์ใจมารอย่างนาง น้องสาวกับแม่เลี้ยงออกไปข้างนอกในวันนี้ เธอจึงอยู่บ้านคนเดียว เก็บกวาดทำความสะอาดบ้านตระเตรียมข้าวปลาอาหารไว้รอทั้งสองกลับบ้านเหมือนทุกวัน พอทำทุกอย่างเสร็จก็ตั้งใจจะซักเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง แต่เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น เธอจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เตี้ยสำหรับนั่งซักผ้าแล้วล้างมือในกะละมังน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนจะเช็ดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ให้แห้งแล้วรีบเดินสาวเท้าเร็วๆ ไปประตูหน้าบ้านไปส่องดูว่าใครมา “มาหาใครคะ?” เสียงเล็กหวานสดใสดังขึ้นทำให้มือใหญ่ต้องยกขึ้นถอดแว่นกันแดดส่งให้คนติดตามถือไว้แล้วมองจ้องใบหน้าสวยจิ้มลิ้มเปียกชื้นเหงื่อแล้วสำรวจร่างเล็กผ่านช่องประตูรั้วบ้าน แม้จะแต่งตัวโทรม ผมยุ่งเหยิง แต่สาวน้อยตรงหน้าก็ทำให้จ้างสะดุดลมหายใจตนเองไปได้ครู่หนึ่ง โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ “มาหาใครคะ?” เสียงเล็กหวานดังขึ้นด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง ทำให้หนุ่มใหญ่มีสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว “เรามาหาคุณนายสุดใจครับ” เป็นอ่ำ คนสนิทเอ่ยตอบแทนนายของตน “มาทวงหนี้เหรอคะ ตอนนี้แม่สุดใจไม่อยู่บ้านค่ะ” เธอรู้ทันทีว่าทั้งสองคือใครเมื่อถามถึงแม่เลี้ยงตน “ขอเข้าไปข้างในบ้านได้ไหมครับ พอดีเราติดต่อคุณนายสุดใจไม่ได้ครับ” เป็นอ่ำคนเดิมพูดตอบ ส่วนเจ้านายของอ่ำเอาแต่จ้องใบหน้าสวยจิ้มลิ้มและปากน้อยอวบอิ่มธรรมชาติขยับพูดคุย มันช่างน่าดูเหลือเกินสำหรับเขา แสนดีขมวดคิ้วครุ่นคิดและมองสำรวจชายหนุ่มทั้งสอง ดูแล้วไม่ได้น่ากลัวแบบพวกเจ้าหนี้รายก่อนๆ ก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเปิดประตูบ้านให้ทั้งสองเข้ามารอแม่เลี้ยงตนในบ้าน “เชิญค่ะ” อือ! เป็นหนุ่มใหญ่ครางรับคำเชิญแล้วเดินผ่านประตูรั้วบานเล็กของบ้านเข้าไปด้านในตามหลังร่างเล็ก สายตาเข้มดุดันจดจ้องมองร่างเล็กเปราะบางเพรียวระหงเดินนำหน้าอย่างสนใจ ตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มมา เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ แต่กับเด็กสาวไร้เดียงสาที่เดินนำหน้าตรงหน้านี้มันให้ความรู้สึกแปลกๆ โดยตัวเขาเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นทั้งๆ ที่เด็กสาวก็ไม่ได้สวยมากเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้มองเพลินไม่เบื่อหน่าย ยามเธอพูดและเคลื่อนไหวทำให้เขาอยากมองเรื่อยๆ มองแบบไม่เบื่อ ไม่มีจริตมารยาเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมา ผู้หญิงที่เจอมักใช้มารยาหญิงเข้าหาเขา แต่กับเด็กคนนี้แตกต่าง หรือเพราะยังเด็กกันนะถึงทำให้ไม่มีจริตหญิงเหมือนที่เคยเจอ เลยทำให้รู้สึกแปลกแยกต่างจากที่เคยเจอ พอพาแขกของแม่เลี้ยงเข้ามาในบ้าน แม้จะรู้สึกอายกับสภาพบ้านที่โล่งโจ้ง แต่ทำยังไงได้ในเมื่อพาทั้งสองเข้ามาในบ้านแล้ว แสนดีพาทั้งสองไปนั่งโซฟายาวตัวเดียวที่อยู่ห้องโถงของบ้าน และมีโต๊ะกลางเล็กๆ วางอยู่ตรงหน้าทั้งสอง “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้ค่ะ” แสนดีแทนตัวเองว่า ‘หนู’ กับแขกทั้งสองคนของแม่เลี้ยงแล้วเดินจากไป จ้างที่นั่งบนโซฟาเลิกคิ้วแหงนเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิทที่ติดตามตนมาด้วยสายตาตั้งคำถาม อ่ำที่ยืนข้างเจ้านายของตนเองข้างโซฟาที่นั่งได้แต่อมยิ้มน้อยๆ เพราะมองสายตาของเจ้านายออกว่าตอนนี้อยากถามอะไรตน “ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอไอ้อ่ำ?” เมื่อคนสนิทไม่ตอบจึงเปล่งเสียงออกมาจากริมฝีปากหนาสีเข้มจากการดูดบุหรี่มาเป็นเวลานานของตน “ไม่นะครับ เพียงแต่เด็กเมื่อกี้เด็กเท่านั้นเอง” อ่ำตอบนายของตน “แล้วมันต่างกันยังไงไอ้อ่ำ นั่น...เด็กนั่นมานั่นแล้ว” แล้วเขาก็บุ้ยปากไปทางสาวน้อยที่เดินถือถาดใบเล็กมาทางตนและในถาดมีแก้วน้ำสองใบอยู่ในถาด “น้ำนะคะ” แสนดีเอ่ยพร้อมหยิบแก้วน้ำออกจากถาดวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าทั้งสอง “ขอบใจ” “มีอะไรเรียกใช้หนูได้นะคะ หนูจะไปทำงานที่หลังบ้าน” แสนดีบอกทั้งสอง “อายุเท่าไหร่แล้วเรา เราเป็นลูกเลี้ยงของคุณนายสุดใจเหรอ?” จ้างอยากให้สาวน้อยอยู่คุยกับตนจึงเอ่ยถามขึ้น “ปีนี้อายุสิบเก้าปีค่ะ เป็นลูกเลี้ยงติดสามีของแม่สุดใจค่ะ” “อ้อ...ไม่ได้เรียนต่อเหรอ?” เด็กวัยนี้ควรจะเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่มาอยู่บ้านแบบนี้ “ไม่ได้เรียนค่ะ หนูจบแค่มัธยมปลายแล้วก็ออกมาทำงานและช่วยงานที่บ้าน” สาวน้อยที่นั่งพับเพียบกับพื้นเอ่ยตอบ “แล้วอยากเรียนต่อมหา’ลัยไหม?” “อยากค่ะ แต่คงเป็นไปไม่ได้ ทุกวันนี้หนูก็ทำงานที่ร้านกาแฟและช่วยงานที่บ้าน แค่นี้ก็หมดไปแล้ววันๆ หนึ่งค่ะ ไม่มีเวลาไปเรียนหรอกค่ะ อีกอย่างไม่มี ‘เงิน’ ด้วยค่ะ” เธอบอกเขา ไม่รู้ทำไมแสนดีถึงบอกกับชายแปลกหน้าที่เพิ่งเจอครั้งแรก แต่เธอรู้สึกได้ถึงความเอ็นดู อบอุ่นจากดวงตาคู่คมของเขา “อือ...งั้นวันนี้ฉันกลับก่อนแล้วกัน วันหลังฉันจะมาใหม่” แล้วจ้างก็ลุกขึ้นจากโซฟาราคาถูกเต็มความสูง “ไม่อยู่รอแม่สุดใจแล้วเหรอคะ?” สาวน้อยลุกขึ้นพร้อมคำถาม “ไม่ล่ะ ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระต่อ” “อ้อ...ค่ะ หนูไปส่งหน้าบ้านนะคะ” แล้วสาวน้อยก็เดินไปส่งทั้งสองที่หน้าบ้านพร้อมยกมือไหว้ลา พอรถของทั้งสองแล่นจากไปไกลก็ปิดประตูรั้วบ้านเข้าบ้านไปเก็บแก้วแล้วไปซักผ้าตัวเองต่อ วันหยุดมีแค่วันเดียวต้องใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า และต้องทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแม่เลี้ยงกับน้องสาวจะกลับมาบ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม