5 เดือนต่อมา...
ข้าวฟ่างเดินลากกระเป๋าขึ้นรถแท็กซี่ที่กดคิวที่สนามบิน หลังจากที่จากไปวันนั้นก็ห้าเดือนแล้ว และพอไปได้หนึ่งเดือน เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ไปคนเดียว แต่ยังพา ‘ลูก’ ทายาทของเตชน์ติดท้องไปด้วย และตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็อายุได้หกเดือนหนึ่งสัปดาห์แล้ว ทำให้เธอเดินเหินไม่สะดวก เคลื่อนไหวตัวลำบาก
“ลุงคะ ไม่ต้องขับเร็วก็ได้นะคะ หนูไม่รีบค่ะ” เธอบอกลุงคนขับแท็กซี่แล้วก็ล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลหาเพื่อนรักเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าตนได้ถึงเมืองไทยแล้วและกำลังกลับบ้านพ่อแม่
‘เฮ! ถึงรึยังข้าว’ ตาลเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อนผ่านกล้อง
“ถึงแล้ว แต่ยังไม่ถึงบ้าน กำลังนั่งแท็กซี่ไปบ้าน” ข้าวฟ่างตอบกลับ
‘ถึงบ้านก็อาบน้ำ พักผ่อนนะ นั่งเครื่องหลายชั่วโมง ข้าวกับหลานเราเหนื่อยแย่’
“พอไหวน่ะตาล แค่นี้นะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” แล้วเธอก็กดวางสายจากเพื่อน แล้วมองดูบรรยากาศนอกรถที่ติดกันเป็นพรวน ไม่รู้จะถึงบ้านกี่โมงกันวันนี้
บนชั้นสอง
เตชน์ถอดเสื้อสูทโยนทิ้งบนเตียงนอนแล้วตัวเองก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับเตียงคว้าหมอนมากอดแน่น หลายเดือนก่อนมันมีเจ้าของสองคน ห้องนี้ก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้มีแค่เขาคนเดียวที่อยู่ มองไปมุมไหนตรงไหนของห้องก็เห็นแต่ภาพอดีตภรรยา และภาพเร่าร้อนของตนกับข้าวฟ่างที่มีความสุขกันบนเตียง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกคิดถึงโหยหาคนตัวเล็กแบบนี้กัน ส่วนกับฝ้ายแฟนสาว พอจับได้ว่าหล่อนนอกกายนอกใจ เขาก็จบความสัมพันธ์โดยไม่คิดลังเลแม้แต่น้อย และพอตัดหล่อนออกจากวงจรชีวิตก็รู้สึกโล่งใจ เหมือนว่าก่อนหน้าที่คบกัน เขาแอบซ่อนอะไรไว้ในอกก็ไม่รู้
“เฮ้อ! อีกสองวันประชุม ข้าวจะมาไหมนะ” เขาพึมพำถึงหญิงสาว ตลอดเวลาห้าเดือน เขาส่งไลน์หาเธอตลอด แต่เธอก็ไม่เคยเปิดอ่านและตอบกลับเขาสักครั้ง และหวังว่าพรุ่งนี้ประชุมสำคัญของบริษัท เธอจะต้องมา เพราะเป็นการประชุมผู้ถือหุ้น
เตชน์พลิกตัวนอนหงายแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ออกมาเข้าไลน์เพื่อส่งข้อความหาอดีตภรรยาเหมือนทุกวันที่ทำเป็นประจำ
‘ทำอะไรอยู่ข้าว?’
‘สบายดีไหมข้าว?’
‘ตอบพี่สักครั้งเถอะเด็กน้อย’
‘คิดถึงนะ’
แล้วเขาก็โยนโทรศัพท์ไปข้างๆ แล้วดันกายลุกขึ้นนั่งเมื่อเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น
“คุณเตชน์ทานข้าวค่ะ” เสียงเคาะเงียบพร้อมเสียงตะโกนดังลอดเข้ามาในห้อง
“ฉันทานมาจากข้างนอกแล้ว” เตชน์ตะโกนตอบกลับ
“ค่ะ” แล้วเสียงหน้าห้องก็เงียบมีเพียงเสียงย่ำเท้าเดินจากไป
“อาบน้ำดีกว่าเรา” เตชน์บอกตนเองแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ
เวลา 09.45 น.
บริษัท D.S. LOGISTIC
ในห้องประชุมบอร์ดผู้บริหารทุกคนมากันครบทุกคน ท่านประธานและผู้ถือหุ้นรายย่อยรองจากประธานใหญ่นั่งประจำที่กัน จะเหลือก็แต่ที่นั่งของรองประธานที่ว่างอยู่ แต่แล้วประตูห้องประชุมก็ถูกผลักเปิดออกพร้อมกับร่างอวบอิ่มในชุดคลุมท้องแบบสมัยใหม่เดินอุ้มท้องเข้ามาแล้วดึงลากเก้าอี้รองประธานออกนั่ง
การปรากฏตัวของข้าวฟ่างทำให้ผู้ถือหุ้นในห้องประชุมต่างพากันตกใจกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนของหญิงสาว และคนที่ตกใจกว่าใครเห็นจะเป็นท่านประธาน อดีตสามีของเธอที่ตอนนี้ดีดตัวลุกขึ้นอัตโนมัติ
“สวัสดีค่ะคุณน้า คุณอาทุกคน สวัสดีค่ะพี่เตชน์” เธอเอ่ยทักทายทุกคนพร้อมกับโปรยยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะข้าว” เสียงเข้มเผด็จการเอ่ย แล้วทุกคนที่กำลังฮือฮากับการปรากฏตัวของข้าวฟ่างก็เงียบกัน
“ประชุมก่อนเถอะค่ะ” ข้าวฟ่างตอบกลับอดีตสามี เธอรู้ว่าเขาอยากคุยอะไร และรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นแบบนี้แน่นอนถ้าเห็นตนท้องโตแบบนี้
“ได้!” เตชน์ตอบกลับสั้นๆ แล้วการประชุมผู้ถือหุ้นก็เริ่มขึ้นเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากันครบ