บทที่ 6 อยากกินไม่กล้ากิน

1400 คำ
หญิงสาวถึงกับสะอึกเธอไม่กล้าอ้าปากปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่สายขาย แค่มาหาเงินใช้ชั่วคราวเท่านั้น แม้การทำงานอย่างนี้จะถูกแทะโลมหรือลวนลามบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่เธอก็พอมีวิธีเอาตัวรอด ที่ผ่านมาแขกของเจ๊เจนส่วนใหญ่จะเป็นคนฐานะดีและมีมารยาท หากเห็นท่าทีไม่เต็มใจก็จะไม่เซ้าซี้ ส่วนพวกที่ร่ำรวยแต่กักขฬะ เจ๊เจนก็พร้อมจะเชิญแขกออกจากร้านในทันทีเพราะเห็นว่าคนพวกนี้หากเคยกร่างได้ต่อไปก็ย่อมจะสร้างปัญหาให้เสียหายต่อชื่อเสียงของเล้าจน์ “เอ่อ...ขอเป้คิดก่อนได้ไหมคะ? พอดีเป้ยื่นสมัครงานไว้หลายที่ ช่วงนี้เขากำลังเรียกไปสัมภาษณ์ค่ะ” แจ็คยิ้มน้อยๆ เขารู้สึกชื่นชมที่หญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดจะล้างมือในอ่างทองคำออกจากวงการเทาๆ เพื่อไปสร้างอนาคตในการทำงานบริษัท ยิ่งได้ยินว่าเธอจบคณะวิทยาศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์ก็ยิ่งพอใจ “ไม่ไปทำกับเฮียก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าหางานไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวเฮียจะแนะนำบริษัทเพื่อนให้” ยิ่งได้ยินคุณแจ็คแสดงความเมตตา ปูเป้ก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ล้วงความลับของเขาเอาไปบอกเจ๊เจน แต่จะทำยังไงได้เจ๊เจนก็มีบุญคุณกับเธอไม่น้อย มิกกี้นั่งจ้องท่าทางกระอักกระอ่วนของเธอด้วยความข้องใจ โดยธรรมดาของสาวไซด์ไลน์หากได้ข้อเสนอดีอย่างที่แจ็คให้ ทุกคนล้วนรีบกระโจนเข้าหา สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาเห็นว่าปูเป้ขยันขันแข็งและทำความสะอาดได้เรียบร้อยน่าพอใจ จึงจ้างเธอในฐานะแม่บ้านเพราะรู้ว่าช่วงนี้เธอกำลังขาดรายได้ จากนั้นก็แนะนำเธอให้ผู้จัดการคอนโด ทำให้เธอไปรับงานเพิ่มอีกหลายห้อง มิกกี้ข้องใจว่าเธอสู้งานหนักขนาดนี้ ทำไมถึงต้องไปทำงานกลางคืนด้วย? แจ็คมองตามหลังปูเป้ที่เดินกลับห้อง เขาหันหน้าไปหามิกกี้ “มึงว่าน้องเขาคิดจะออกจากวงการจริงไหมวะ?” “ไม่รู้สิ กูก็ไม่เห็นว่าเขามีคนเลี้ยงนะ ยังไปรับงานทำความสะอาดงกๆ แต่ละวันก็ทำตั้งหลายห้อง ถ้าคิดจะล้างมือจริงๆ ก็นับว่าเป็นคนที่ใจแข็งมากทีเดียว ทำงานกลางค*****นไม่ใช่น้อย” มิกกี้โคลงศีรษะ เขาคอยแอบเธออยู่บ่อยๆ ในยามที่เธอมาดูแลและทำความสะอาดห้องของเขา เธอสวมเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มรวบผมเรียบร้อย มิกกี้ประเมินรูปร่างของเธอแล้วต้องคอยกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ สัดส่วนของปูเป้นับว่าเร้าใจนัก ใบหน้า สะโพก อก เอว เขายิ่งมองก็ยิ่งถูกใจแต่เขามีกฎจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่ทำงานในแวดวงเดียวกันเพื่อมิให้เกิดความวุ่นวาย “คนกลับใจได้จริงมันหายากนะ ถ้าปูเป้ทำได้กูก็ยินดีกับน้องมันด้วย” แจ็คยิ้มน้อยๆ ยกน้ำเย็นขึ้นจิบ “วงการนี้มันเงินดีนะมึง จะมีคนทำใจได้เหรอ? เคยหาเงินได้เดือนหนึ่งเป็นแสน ต้องไปทำงานรับเงินเดือนหลักหมื่น กูเห็นมาเยอะแล้วไม่นานก็กลับมาทำอีก” มิกกี้ถอนหายใจ ลึกๆ เขารู้สึกเสียดาย หากเธอเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาทั่วไปเขาก็คงจะจีบเธอไปแล้ว “มึงไม่ดูสายตาน้องเขาเหรอ? กูว่าเขาตั้งใจดี มึงนี่ระแวงยิ่งกว่ากูซะอีก” แจ็คหัวเราะหึๆ “หรือว่ามึงเสียดาย กูว่าปูเป้ทั้งหน้าทั้งหุ่นจัดว่าแจ่มเลยนะมึง” “แต่ยังไงเขาก็เป็นคนที่กูขีดเส้นใต้ไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่ง” มิกกี้ทำเสียงเข้ม เขาไม่อยากให้เกิดปัญหาอย่างที่เคยเห็นมา “อืม...ตอนนี้กูชักอยากรู้ซะแล้วว่า ปูเป้นี่ดีอย่างที่สร้างภาพหรือเปล่า?” แจ็คที่ฟังมิกกี้สรรเสริญเยินยอปูเป้เรื่องความซื่อสัตย์และขยันขันแข็งยิ้มน้อยๆ คล้ายจะกระเซ้าเพื่อนซี้ ผ่านไปร่วมสามสัปดาห์ มิกกี้เริ่มคุ้นเคยกับปูเป้ บางครั้งเธอก็ทำอาหารง่ายๆ กินเองและเผื่อแผ่มาถึงเขาด้วย ขาของเขาหายดีแล้ว บางคราวชาหนุ่มก็เดินไปกดกริ่งหน้าห้องเธอแทนการโทรศัพท์ไปเรียก ปูเป้ทำอาหารเย็นเผื่อมิกกี้เพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาทำให้เธอได้งานทำความสะอาดในคอนโดมิเนียมเพิ่มอีกหลายห้องทำให้ตลอดหกวันเธอหาเงินได้ไม่ขาด อีกทั้งยามนี้ค่าแรงแพงขึ้นมากเพราะความเสี่ยงจากโรคระบาด ทำให้ปูเป้รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะการว่างงานหมายถึงการที่ต้องเอาแต่ใช้เงิน ปูเป้เอาเรื่องที่แจ็คเสนองานให้ไปบอกกับแพมมี่ ฝ่ายนั้นได้ยินก็ตาโตเพราะรายได้ที่แจ็คให้มากกว่าที่เจ๊เจนให้ถึงเท่าตัว “จริงอ่ะ? คุณแจ็คน่ะนะ คิดจะจ้างแกไปทำงานด้วย” “เออ...ฉันนี่ขาสั่นพั่บๆ เลยแก กลัวเขาจะจับได้” “จับไม่ได้หรอกน่า...เรื่องแบบนี้มันรั่วง่ายจะตาย กระแสโซเชียลมันแรงนะ พวกที่เคยไปเที่ยวก็อาจจะส่งไปอวดเพื่อน เล่าให้เพื่อนฟัง ใครจะมานั่งระแวงแกล่ะ?” “ฉันไม่ได้กลัวคุณแจ็ค ฉันกลัวคุณมิกกี้ต่างหาก สายตาเวลามองฉันงี้เหมือนจะสแกนหาความลับเลยอ่ะ อยู่ไปอยู่มาฉันเพิ่งรู้สึกว่าเขาน่ากลัวกว่า คุณแจ็คซะอีก” “แล้วแกไม่อยากจะไปทำงานกับคุณแจ็คเหรอ? เงินดีขนาดนี้ เดี๋ยวฉันไปด้วย เราลองไปดูกันสักรอบ” เมื่อแจ็คกลับมานอนที่คอนโดอีกครั้ง ปูเป้จึงไปตอบรับข้อเสนอของ แจ็คต่อหน้ามิกกี้ ชายหนุ่มที่ยังคงใส่เฝือกที่แขนรู้สึกสลดใจวูบหนึ่ง ‘คนเคยหาเงินได้ง่าย จะกล้าทิ้งอาชีพนี้ไปได้ไงกัน?’ ทว่าสิ่งที่เขาคิดกลับพลิกอีกตลบเมื่อปูเป้เอ่ยเงื่อนไข “คุณแจ็คค่ะ เป้อยากทำงานกับคุณแจ็คก็จริงแต่ก็เลือกตกลงเป็นงานๆ ขอทำงานสัปดาห์ละหนึ่งวันค่ะเพราะไม่อยากให้ตารางานทำความสะอาดบกพร่องค่ะ” แจ็คทำตาโต ในเมื่อเธอรับงานกับเขาคืนหนึ่งก็ได้มากกว่าทำความสะอาดตั้งครึ่งเดือนทำไมยังคิดจะทำรับจ้างทำความสะอาดอยู่อีก? “เป้ มองงานทำความสะอาดเป็นเหมือนงานประจำค่ะ ส่วนงานที่รับปากคุณแจ็คไว้เป็นงานพิเศษ เป้ไม่อยากรับงานเกินสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อไม่ให้งานกระทบกับงานประจำค่ะ ต่อให้เงินทำความสะอาดเทียบไม่ได้กับงานกลางคืน แต่มันทำให้เป้ได้ใช้ชีวิตปกตินะคะ” ปูเป้ไม่อยากจะอธิบายให้มากความ การทำงานกลางคืนได้เงินมากก็จริงแต่กลับทำลายความเป็นปกติของชีวิตไปจนหมดสิ้น เธอต้องแลกกับสุขภาพที่ทรุดโทรมเพราะต้องนอนดึกทั้งยังต้องดื่มเอาใจลูกค้า ความตึงเครียดที่เกิดจากการที่ต้องคอยระมัดระวังตนเองจากการถูกลวนลามก็ทำให้หลายครั้งเธอหงุดหงิดและอารมณ์ร้ายขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะมาทำงานนี้เธอก็ตั้งไว้ว่าจะทำงานเก็บเงินเพื่อเอาไว้ใช้ในช่วงที่ยังตกงานแต่ใครจะรู้ว่าหลังจากเรียนจบมาแล้วภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยแล้วยังเกิดโรคระบาดลุกลามไปทั่วโลก ทำให้เธอต้องตกงานยาว “อืม...เด็กมึงนี่มาแปลกนะมิกกี้ หรือว่าจะเป็นพวกเลือกแขกแล้วไปรับงานต่อข้างนอก” แจ็คยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินว่าเธอขอรับงานเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง มิกกี้ขมวดคิ้ว “กูว่าเขาดูไม่ค่อยเล่นหูเล่นตาเหมือนคนที่พวกเราเห็นมานะ” “นี่มึงไม่รู้จริงๆ เหรอ? กูได้ยินปูเป้พูดกับพนักงานหญิงที่เคาน์เตอร์ว่ามึงกับกูเป็นแฟนกัน นี่ไง? เหตุผลที่เขาไม่ได้สนใจมึง” *********************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม