(ปลานิล)
มหาวิทยาลัย K
กึก!!ปึก!!
“เฮ้ย!!ปลานิลทำไมเดินไม่ดูเลยละดูสิพื้นถลอกแล้วมั้ง? ฮ่า ๆ ”
“ไอ้เกมส์มึงควรห่วงคนไม่ใช่พื้นเว้ย!!แต่ว่าพื้นมันมีราคามากกว่ายัยปลาเน่านี่เนอะ ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะของเพื่อนในห้องทำให้ฉันอายมากไม่กล้ามองหน้าใครเลย
“ฮึก!”
“จะร้องไห้อีกแล้วเหรอวะปัญญาอ่อนเกินวะปลาเน่าแค่นี้ทำเป็นน้ำตาไหล!” หมับ! เกมส์กระชากแขนของฉัน
“นะนิลขอโทษ ฮึก!”
“ขอโทษเรื่องอะไรวะ?”
“ระเรื่องที่ร้องไห้ไง นิลไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้นะแต่มันห้ามไม่ได้ ฮึก!” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาฉันทั้งกลัวและอยากร้องไห้ออกมาแต่ก็ต้องพยายามเงียบเอาไว้ไม่อย่างนั้นฉันจะโดนแกล้งมากกว่าเดิม
ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยราคาแพงมากฉันไม่มีปัญญาเข้ามาเรียนหรอกแต่เพราะว่าได้ทุนการศึกษาฉันเลยได้มาเรียนและแน่นอนว่าฉันเป็นคนแรกและคนเดียวในมหาวิทยาลัยที่ได้ทุน คนอื่นเป็นเด็กที่พ่อแม่ส่งเสียมาเรียนและเป็นคนมีเงินทั้งนั้น อาจจะมองว่าเหมือนนิยายที่คนอ่อนแอโดนรังแกแต่มันเป็นเรื่องจริงฉันเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเหมือนกัน บอกให้ก็ไม่ได้ทำได้แค่อดทนและเรียนต่อให้จบเท่านั้น
“งั้นฉันห้ามให้ดีไหม?” เสียงของควีนดังขึ้นและ
พรึ่บ!!
“อึก!!!” และเอาผ้ามาปิดจมูกของเพื่อนฉันเธอเข้ามาช่วยจับไม่ให้ฉันดิ้นและกดผ้าให้แน่นขึ้นจนฉันกำลังจะหายใจไม่ออกแล้ว
“เฮ้ย!ควีนพอก่อนเดี๋ยวตายพอดี”
“เฮือกก!!แฮ่ ๆ แค่ก ๆ” ฉันรีบหายใจและไอออกมาอย่างทรมาน
“ซอรี่!!สงสัยเล่นแรงไปหน่อยแต่ว่านี่คือผลที่เธอไปบอกอาจารย์เรื่องที่ฉันแกล้งแก!!” เพี๊ยะ!!ควีนตบหน้าฉันอย่างแรง
“ฮึก!!ขะขอโทษนะควีนตะแต่อาจารย์ถามนิลเลยต้องบอกไป...” เพี๊ยะ!!
“งั้นก็รับกรรมไปเถอะ!!!” ปึก! ควีนถีบที่หน้าท้องฉันจนล้มไปกองที่พื้น
เมื่อวานนี้อาจารย์ตะวันมาถามเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเขาเห็นว่าฉันโดนเพื่อนแกล้งบ่อย ๆ เขาเลยเรียกไปพบและถามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตอนแรกฉันก็ไม่กล้าเล่าหรอกเพราะกลัวว่าพวกควีนจะรู้เรื่องแต่อาจารย์บอกว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้และเขาจะพยายามหาทางช่วยเอง ฉันเลยเปิดใจและเล่าทั้งหมดให้ฟังแต่แล้ว...ควีนก็รู้จนได้ ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้ได้ยังไง
“อะอาจารย์ถามนิลเลยบอกไปแค่นั้นเอง”
“คิดว่าอาจารย์นั่นจะช่วยได้จริงเหรอมันก็แค่อัตราจ้างธรรดา ๆ ทั่วไปไม่ได้มีอำนาญอะไรแค่ขู่นิดหน่อยก็กลัวจนกลัวจนหัวหดแล้ว”
“ฮึก!!ฮืออออ!!”
“เงียบ!!อ่อ ที่ผ่านเธอก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนิแล้วทำไมถึงเล่าให้อาจารย์ตะวันฟังได้ข่าวว่าเข้าไปคุยกันลับ ๆ อย่าบอกนะว่าเธอกับอาจารย์ตะวัน...”
“มะไม่ใช่นะ!!!นิลไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น?!”
“ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่าทำอะไรอย่าร้อนตัวสิปลานิลเน่า หึ” ควีนเอามือมาบีบแก้มฉัน
“อึก!!”
“ต่อไปนี้อย่าคิดพูดอะไรกับใครอีกไม่อย่างนั้นจะจบไม่สวย!” ปึก!! ควีนผลักหัวของฉันและเดินข้ามฉันออกไป
หอพักเจ๊ข้าวซอย
“โอ้โห้!!!สภาพ!!นังชะนี?!” กึก!! ฉันกำลังเดินเข้าหอก็เจอเจ๊ข้าวซอยเจ้าของหอนี้พอดี ฉันก้มหน้าทันทีเพราะไม่อยากให้เธอเห็นสภาพตอนนี้ของฉัน
“...”
“ไม่ต้องก้มหน้าหลบเลยย่ะ!!ชะนี!!โดนแกล้งอีกแล้วบอกว่าให้สู้!!ให้สู้ทำไมไม่เชื่อ?!” เจ๊ข้าวซอยคือคนที่รู้เรื่องของฉันดีที่สุดเพราะบ่อยครั้งเธอก็มาทำแผลให้ฉัน เจ๊ข้าวซอยเป็นกะเทยที่สวยมากถ้าเป็นผู้ชายก็คงหล่อมากเหมือนกัน
“ฮึก!!จะให้นิลสู้ยังไงไหวอ่าาา~ ฮือออออ!!!พะพยายามสู้พวกนั้นก็เอาคืนมากกว่าเดิมไปฟ้องอาจารย์ก็ไม่ได้ผลเพราะอาจารย์ไม่สนใจเด็กทุนอย่างนิล ฮือออ!!!เจ๊ไม่เข้าใจหรอกว่ามันทรมานแค่ไหน ฮึก ๆ เจ๊ก็พูดได้เพราะเจ๊ไม่ได้โดนเหมือนนิล ฮืออออออ!!!” ไม่ใช่ว่าไม่พยายามสู้แต่มันสู้ไม่ได้!!
หมับ!!
“โอ๋ ๆ นะลูกสาวเจ๊ขอโทษที่พูดไม่คิด เฮ้อออ!!!เด็กพวกนั้นนี่ก็ยังไงทำไมต้องมาแกล้งกันด้วย!!!มหาวิทยาลัยก็ไม่ทำอะไรถ้าไม่ดูแลใส่ใจจะรับนักศึกษาทุนทำไม?!” เจ๊ข้าวซอยพูดอย่างโหโม
ห้องพักปลานิล
พรึ่บ!
“จ๊ะพ่อ...นิลสบายมากเลยอีกไม่กี่ปีก็จบแล้วจ๊ะ”
(เพื่อนเป็นยังไงบ้างละยังดีกันอยู่ไหม?) คำถามของพ่อทำให้ฉันชะงักไป ฉันไม่กล้าบอกเพราะกลัวพ่อเป็นห่วงและให้ลาออกถ้าไม่เรียนที่นี่พ่อก็ไม่สามารถส่งฉันเรียนที่ไหนได้แล้วละเพราะบ้านเราจนมาก
“ดีสิจ๊ะเพื่อนดีสังคมดีมากเลยไม่งั้นนิลจะเรียนมาจนจะปีสามได้ยังไงเนอะ”
(นั่นสิถ้าเพื่อนดีเราก็ควรดีกับเขาเยอะ ๆ นะ มีแต่คนรวยทั้งนั้นนิ)
“จ๊ะพ่อแล้วพ่อสบายดีไหม?”
(ก็เรื่อย ๆ แหละรับจ้างทั่วไป ๆ วัน ๆ ก็พอได้อยู่ พ่อขอโทษนะที่ส่งเสียอะไรมากไม่ได้)
“ไม่เป็นไรเลยพ่อนิลอยากเรียนเองก็ควรหาทางเองสิจ๊ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะพ่อนิลต้องไปทำงานแล้วอะ”
(ได้ ๆ งั้นค่อยคุยกันใหม่นะลูกพ่อคิดถึงนะ)
“นิลรักพ่อนะ” ฉันมีพ่อคนเดียวอายุก็มากแถมยังมีโรคประจำตัวอีก ความจริงมาเรื่องไกลแบบนี้ฉันก็เป็นห่วงพ่อแต่ถ้ายังอยู่ที่นั่นก็คงไม่ได้เรียนหนังสือแน่ เฮ้อออ!! เมื่อไหร่จะเรียนจบนะ
หลายวันต่อมา
สนามกีฬามหาวิทยาลัย K
ปึก!!
“ทำซะ!!” ควีนโยนไม้ถูให้ฉันวันนี้เรามีเรียนพละเป็นวิชาเสริมเข้ามานอกจากวิชาหลักและกีฬาของเราก็คือบาสเกตบอล
“อาจารย์บอกว่าให้ช่วยกัน...”
“กล้าเถียงเหรอฉันบอกให้ทำก็ทำสิ!!” ควีนผลักไหล่ฉันเพราะงั้นฉันเลยไม่มีทางเลือกและต้องทำความสะอาดสนามทั้งหมด
ปึก! ปึก! ปึก!
“เร็วหน่อยยัยปลาเน่า!” แต่ระหว่างที่ฉันกำลังทำความสะอาดเพื่อนคนอื่นก็ปาลูกบอลหนัก ๆ ใส่ฉันไม่หยุด
“ถ้าจะยังเล่นบอลงั้นนิลไปถูตรงนู้นก่อนแล้วกัน” ฉันพูดและเดินไปที่อัฒจันทร์
“หนีเหรอวะ?!” ปึก!!!เกมส์ปาลูกบาสใส่ฉันอย่างแรง
“ไม่ใช่นะนิลแค่จะถูที่นี่ก่อน” ฉันขึ้นมาบนสุดของอัฒจันทร์เพื่อทำความสะอาด
“อ่อเหรองั้นถูต่อไปนะ ^^”
“อะอืม” ปึก!! ปึก!! ปึก!!พวกนั้นก็ปาบอลใส่มาไม่หยุดเลยฉันเจ็บไปหมดแล้ว
ปึกกกก!!
“ว้ายยยย!!” และลูกบอลที่ปามาอย่างแรงและหลายลูกทำให้ฉันล้มแล้วพัดตกจากอัฒจันทร์ลงมาทันที
“เฮ้ยยยยย!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!” ตุบ! ตุบ! ปึก!!!!!!
“เหี้ยยยย!!ตายไหมวะน่ะ?!!” เสียงร้องของทุกคนฉันได้ยินแต่ว่าไม่สามารถขยับตัวได้มันชาไปหมดและกลิ่นเลือดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮึก!!ทำไมทุกคนต้องแกล้งฉันด้วย...” ฉันพูดออกมาเสียงเบา
“แม่งเอ๊ยย!!ทำไมไม่ทรงตัวดี ๆ วะ!!”
“ฉันไม่อยู่แล้วฉันไม่เกี่ยวนะ!!” และบางคนก็หนีออกไปไม่ได้หันมามองฉันเลย
“กลัว...พ่อจ๋า...” ฉันพยายามเอ่ยปากออกมา
“โทรหารถพยายามดิ!!” เกมส์ที่พูดและมองมาทางฉันเราสบตากันก่อนฉันจะเอ่ยออกไป
“ยะอยากให้ฉันตายจริง ๆ เหรอ ฉันกลัว...” ฉันพยายามยื่นมือหาใครสักคนแต่แล้วโลกก็ดับสนิท