“ถังช่ายเจ้าอย่าวิ่งเร็วได้หรือไม่ ข้าคลื่นไส้”
เหม่ยฮวาที่ถูกอุ้มกระเตงไปมา อีกแล้ว.. กำลังก้นด่าคนตรงหน้าที่พานางมาด้วยวิธีที่นางเกลียดที่สุด ถึงแม้จะเป็นครั้งที่สองแต่นางก็ยังไม่ชินสักที แง
“จวนจะถึงแล้วขอรับ”
เมื่อครั้นทหารเฝ้ายามนั้นแยกย้ายออกไปเพราะยามที่เฉินฉือมาที่นี่เขามักจะไล่ทุกคนออกไปให้หมดตอนนี้จึงเป็นเวลาดีที่จะลอบเข้ามา ถังช่ายที่แม้จะไม่อยากทำตามขอร้องของนางเมื่อรู้ว่านางจะให้เขาพาในวังมาที่ตรงนี้! แต่บุรุษชายชาติทหารอย่างเขาพูดแล้วจะไม่คืนคำ จึงได้แต่ภาวนาขอให้ท่านประมุขจะไม่ฆ่านางและฆ่าเขาไปเสียก่อน
เหม่ยฮวาเบือนหน้าออกมามองด้านหน้าลมที่ตีแรงจนหน้าสวยบูบี้ทำให้หน้านางนั้นดูน่าขับขันไม่น้อย แต่นางมีหรือจะสนใจ นางหรี่ตามองภาพเบื้องหน้าที่เริ่มเห็นเป็นหินขนาดใหญ่ล้อมกันทั้งสี่ทิศ ตรงกลางส่องแสงสว่างออกมาความระยิบระยับที่กระทบกับหินนั้นทำให้ภาพตรงหน้านั้นเหมือนภาพศิลปะชั้นเลิศ
วันนี้นางแต่งมาอย่างจัดเต็มเชียวแหละ ยืมเครื่องประทินโฉมต่างๆ จากพวกพี่ๆ ตำหนักนอก แต่ชุดของพวกนางนี่ช่างน้อยชิ้นเสียเหลือเกิน ตอนนี้นางใส่เพียงเสื้อในที่บางเบาคาดอกรัดแน่นจนดันเนื้อตูมล้นทะลักออกมา ผ้าคลุมที่สวมทับมานั้นไม่ช่วยให้อบอุ่นแต่อย่างใดเพราะมันบางยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่ หรือคนเผ่ามารนั้นขี้ร้อนกัน
นางเริ่มเพ่งสายตามองตาหาร่างบางที่คาดว่าน่าจะต้องใกล้มาถึงตรงนี้แล้วอย่างแน่นอนซึ่งมองจากมุมนี้ทำให้เห็นภาพเบื้องล่างไม่ยากนัก พลันสายตาก็ไปปะทะกับร่างบางที่กำลังวิ่งตรงมาทางนี้ใกล้จะถึงเต็มที
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ
“ถังช่ายเร่งความเร็ว! เร็วๆๆๆ ถังช่ายยย”
นางรีบตีไปที่ไหล่ของถังช่ายอย่างแรงพร้อมกับลุ้นตัวโก่งเมื่อเห็นว่าแม่นางเอกจะเดินเข้าไปแล้ว ถังช่ายนิ้วหน้าก่อนจะรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ปลายเท้าและร่างกายช่วงล่างเร่งความเร็วตามความต้องการของนางเพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงที่หมาย หากแต่การเร่งความเร็วกระทันหันนั้นทำให้ร่างบางที่ขี่หลังเขาอยู่นั้นร่วงตกลงไปยังเบื้องล่างทันที
“เห้ยยยย”
เสียงหวานใสตกใจตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับหลับตาแน่น ตายแน่ ตายแน่ ตายแน่ๆ เว้ย
ฟึบ
นางที่คิดว่าจะต้องตกลงไปคอหักตายแน่ ๆ กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ กลับรู้สึกถึงความร้อนรุ่มจากแขนแกร่งที่เข้ามารับตัวนางไว้ได้ทาง ลมหายใจแผ่วร้อนบนใบหน้านางนั้นทำให้นางปรือตาขึ้นมามองอย่างช้าช้า ภาพเบื้องหน้าทำให้นางแทบจะหยุดหายใจ ใบหน้าคมขายที่ตอนนี้ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม อักขระแปลกประหลาดสีดำฉายฉัดขึ้นมาบนใบหน้าซีกขวาของเขา ผมที่เคยสีดำสนิทบัดนี้มีสีแดงเข้มแซมอยู่เช่นเดียวกับสีดวงตาของเขา ยิ่งขับให้เขาดูขมเข้มและชั่วร้ายจนใจนางกระตุก
นางตกอยู่ในภวังค์โดยสมบูรณ์
เฉินฉือที่กำลังเดินเข้ามาเพื่อแช่ในบ่อน้ำเหมือนยามปกติ วันนี้กลับผิดปกติที่กลับมาสตรีนางหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟ้า ใบหน้างดงามที่โดนแต่งแต้มยิ่งขับให้ใบหน้าสวยดูดโดดเด่นหน้ามอง ชุดบางเบาสีแดงยามนางลงมาจากบนฟ้าเขาตาพร่าไปกับความงดงามนั้น ทำให้กายขยับไปรับนางโดยไม่ทันคิด
เขามองสตรีในอ้อมแขนของตนที่ทำสายตาหยาดเยิ้มเหมือนจะกินเขาเข้าไปทั้งตัวพร้อมกับคำพูดน่าไม่อายของนางทำให้และชุดที่นางใส่เป็นชุดในเผ่ามารของเขาแต่หากเป็นชุดที่ไว้ปรนนิบัติบุรุษ ใครให้นางเอามาใส่กัน เขาปวดหัวยิ่งนัก
เหม่ยฮวาที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์แห่งความหล่อกร้าวใจของพระรองในดวงใจก็เผลอหลุดความคิดออกมา
“โคตรหล่อเลยอ่ะ อยากได้” เหม่ยฮวาคิดแต่กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าความคิดของนางนั้นดังออกมาจนร่างสูงตรงหน้าเลิกคิ้วสูง
“หึ” เขากระตุกยิ้มที่มุมปากนางคิดจะเกี้ยวเขาจริงงั้นรึ
"ท่านประมุข เหม่ยฮวา.."
ทางด้านฮุ่ยหลิง
นางเพียงรู้สึกผิดที่ทำร้ายจิตใจเขา และด้วยความเป็นภูติแห่งการรักษานั้นทำให้นางไม่อาจจะละเลยคนที่กำลังบาดเจ็บอยู่ได้ นางจึงถามไถ่นางกำนัลในวังถึงเขา พวกนางก็บอกแต่โดยดี นางกำนัลเองเมื่อหญิงสาวนางนี้ที่เห็นท่านประมุขพามาตั้งแต่วันแรกและยังไปมาหาสู่นางอยู่บางครั้งทำให้คิดเอาเองว่าคงเป็นสตรีที่ท่านประมุขพึงใจ เพราะไม่มีหญิงสาวคนใดได้ย่างกรายเข้ามาภายในวังเขตในนี้อย่างแน่นอนจึงได้บอกทางลับไปให้แก่นาง
เมื่อมาถึงนางกลับต้องแปลกใจที่ท่านประมุขยามนี้อยู่กับสตรีผู้หนึ่ง ทั้งที่ตั้งแต่เข้ามาที่แห่งนี้นางเป็นผู้เดียวในวังหลวงแห่งนี้รวมถึงผู้คนที่ให้ความสำคัญกับนางยิ่งเพราะนางเป็นสตรีที่ท่านประมุขโปรดปราน จึงได้สิทธิ์ให้อยู่ในวังภายในแห่งนี้มิใช่วังหลังหรือตำหนักนอก แต่ยิ่งนางพินิจมองเท่าไหร่กลับยิ่งจดจำใบหน้านั้นได้ขึ้นใจว่านางคือ เหม่ยฮวา ใจพลันจับความรู้สึกสายหนึ่งที่นึกไม่ยินยอมกับภาพตรงหน้า แต่เพียงเท่านั้นนางก็ยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกแล้วก้าวขาออกไป