สตรีน่าปวดหัว

2278 คำ
พรึบ “อ้ะ” ร่างสูงโน้มตัวลงมาแล้วช้อนคนร่างเล็กแนบอก เขาเพิ่งสังเกตว่านางนั้นสูงเพียงแค่หน้าอกเขาเท่านั้นตัวนางช่างเล็กเสียจริง เขาเห็นนางเดินกระเพลกไปมาก็คิดได้ว่านางคงจะได้รับบาดเจ็บจากตอนโดดหนีไอมารสองตัว ร่างเล็กที่เดินกระเพลกไปมาพร้อมกับนิ่วหน้าเหมือนเจ็บมากแต่ก็ไม่ปริปากบอกให้เขาช่วยนี่มันทำให้ขัดใจเขาเสียจริง สตรีอะไรช่างอ่อนแอ! นางตกใจที่จู่ๆ เขาก็อุ้มเธอขึ้นมา กรี๊ดดทุกคนเขาอุ้มชั้น เธอก้มมองร่างสูงที่ทำหน้าเย็นชา ก็แอบคิดในใจไม่ได้ว่าพระรองของนางช่างน่ารักและแสนดีจริง ๆ หรือจริงๆ แล้วในนิยายที่กล่าวว่าเขาทั้งโหดร้ายอำมหิตนั้นจะไม่จริง ….. ผ่านไปไม่ถึงครึ่งเค่อ ตุ้บ “ลงไปซะ” อ๋อยยยยย “ทะ ท่าน อย่าทำแบบนั้นได้อีกหรือไม่เจ้าคะ รู้เจ้าค่ะว่าเก่งมากแต่ไม่ต้องรีบมากขนาดนั้นได้ไหมข้าจะอ้วก แหวะ” เหม่ยฮวาคลานลงจากแขนแกร่งด้วยสีหน้าโครงเครง ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นนางก็ฟุบลงตรงพื้นทันที นางแทบอยากจะสำลอกทุกอย่างที่กินมาวันนี้จนหมด ไม่คิดว่าเขาจะอุ้มนางแล้วใช้วิชาตัวเบาพานางมาถึงที่วังหวงเซิงเร็วขนาดนี้ มันยิ่งกว่าความเร็วแสง! นางรู้สึกเหมือนหายไปจากตรงนั้นเพียงเสี้ยววิแล้วมาโผล่ตรงนี้เลย ให้ตายเส้! นางยังไม่ทันได้ตื่นเต้นกับการบินบนฟ้าครั้งแรกของนางเลย คิดปุ๊บก็หันไปมองค้อนคนข้างตัวที่เพียงแค่เปรยตามองมาพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำไม่อ่อนโยน! ก่อนจะเดินหายไปข้างในทันที “อย่าสำออย” พูดเพียงเท่านั้นแล้วก็สะบัดตูดหนีไปทันที “ระ รอข้าด้วยเฉินฉือ อุแหวะ” ใจร้ายงะ ขอถอนคำพูดที่ว่าท่านใจดี แง และแล้วก็อวสานอาหารเย็นเจ้าค่ะ หลังจากที่สำลอกทุกอย่างออกมาจนหมด ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหานางแล้วพานางเข้ามาภายในและแนะนำตัวว่าเขาชื่อ ถังช่าย เป็นหนึ่งในข้ารับใช้ของท่านประมุขเฉินฉือ ถึงแม้เขาจะบอกเหม่ยฮวาไปแบบนี้แต่ความจริงแล้วถังช่ายเป็นหนึ่งในองค์รักษ์ฝีมือดีผู้หนึ่ง นั่นจึงทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อยที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายให้มาเป็นบ่าวรับใช้ข้างกายของสตรีนางนี้ ที่ดูๆ แล้วไม่มีพิษมีภัยอะไรเลยสักอย่าง “คุณหนูเชิญตามมาทางนี้ขอรับ” เหม่ยฮวายิ้มพยักหน้าตอบรับ นางเดินตามถังช่ายพร้อมกับสำรวจไปรอบๆ ด้าน ว้าวววที่นี่มันสวยมากๆๆๆ เลยอ่ะ เหมือนที่บรรยายไว้ในนิยายเปี๊ยบ ห้องโถงตัดถอดยาวจนถึงห้องลานกว้างตรงกลาง และแยกออกไปเป็นแต่ละแห่งตามทิศต่างๆ ขึ้นชื่อว่าวังปิศาจวังมารแล้วก็คงเป็นสีดำ แต่ที่เหม่ยฮวาเห็นนั้นเป็นเหมือนหินคริสตัลสีดำวาวเหมือนแสงรัตติกาลยามต้องแสงจันทร์นั้นสะท้อนเป็นคลื่นน้ำสีน้ำเงินสวยงามเป็นอย่างมาก ระหว่างทางที่เดินมา ผ่านทั้ง ลานฝึก เอ้ะ นั่นก็ศาลาพร้อมกับสวนดอกไม้ที่พระรองจะเกี้ยวนางเอกจับนางกดจูบนี่นา ได้มาเห็นสถานที่จริงกับตาแบบนี้มันตื่นเต้นนน ‘อู้ววว’ ‘ว้าววววว’ ‘โอ้โหววววว มายก๊อดดด’ ระหว่างทางที่เดินมาถังช่ายได้ยินคำพูดแปลกประหลาดจากนางมาตลอดทาง พร้อมๆ กับสายตาที่มองเห็นเหมือนเป็นประกายระยิบระยับทุกครั้งที่เดินผ่านไม่ว่าจะอะไรก็ตาม! และเรื่องนี้แน่ละว่าเขาต้องรายงานผู้เป็นนายทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร้องแม้กระทั้งที่นางเดินไปใช้นิ้วจิ้มเล่นที่น้ำตกข้างศาลาแล้วเอามาชิม! เมื่อเดินมาถึงประตูหนึ่ง ที่บานประตูนั้นทำจากไม้ที่ดูแล้วมันธรรมดาสุดๆไปเลย ที่พักเก่าของนางยังดูดีกว่านี้ อ้ะช่างมันเถิดข้างในอาจจะดูหรูหราก็ได้ นางคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง ก่อนจะค่อยแง้มประตูเข้าไป และพบเข้ากับห้องขนาดเล็กที่เรียบง่าย มันเรียบง่ายโคตรๆ ! ไม่มีเครื่องตกแต่งใด มีเพียวง เตียง โต๊ะ ตู้ ควรขอบคุณไหมที่ยังมีผ้าห่มและหมอนให้ข้า เหม่ยฮวาหันขวับไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ นางทันที นางหรี่ตามองเขาอย่างคาดคั้น และเหมือนเขาจะรู้ตัวว่านางกำลังจะสื่ออะไร จึงตอบออกมาได้อย่างหน้าตายไม่ต่างจากเจ้านายเลยสักนิด “ท่านประมุขสั่งให้ท่านใช้ห้องนี้ได้ขอรับ” “ข้าว่าวังของท่านประมุขผู้ปกครองเกือบครึ่งพิภพนี้น่าจะมีห้องที่ ดี และ หรูหรา มากกว่าห้องนี้สำหรับ แขก อย่างข้ากระมัง” นางพยายามเน้นคำว่าดี หรูหรา และ แขก “ท่านประมุขไม่ได้บอกว่าคุณหนูเป็นแขกขอรับ” “เอ้ะ! แล้วข้าเป็นอะไร” เสียงใสพูดดังลั่นด้วยความขัดใจ นางไม่ชอบที่นอนแคบๆ นี่ “เป็นสัตว์เลี้ยงขอรับ” “อะไรนะ” “สัตว์เลี้ยงขอรับ” “รู้แล้ว! มิต้องย้ำ ข้าแค่ไม่แน่ใจเลยพูดกับตัวเองดูไม่ได้ถามเจ้า ไม่ต้องย้ำเข้าใจหรือไม่!!!” นางตะโกนลั่น พร้อมกับหน้าที่แดงก่ำด้วยความโมโห นี่เขา นี่เขากล้าทำกับสาวน้อยน่ารักและงดงามมากๆ อย่างข้าแบบนี้งั้นหรือ ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงเนี่ยนะ! แต่เดี่ยวก่อนทำไมข้ารู้สึกว่างเปล่า เห้ย นี่นางลืมซูผิงไว้หรือนี่ โอ้ยยย จะลืมอะไรก็ได้แต่ลืมคนได้ยังไงเหม่ยฮวา! ถังช่ายที่เห็นเหมือนนางกำลังตีกันเองในความคิด จึงเตรียมหันหลังพร้อมจะเดินกลับไปหากแต่นางคว้าเข้าที่แขนของเขาก่อนจะถามเขาด้วยสายตาคาดคั้น ตอนนี้เขาได้กลิ่นหอมหวานบางอย่างจากตัวนางจึงพยายามเบี่ยงตัวออก “เอ่อแล้วท่านประมุขประทับอยู่ที่ไหนหรือเจ้าคะ คือข้ามีเรื่องจะปรึกษาท่านประมุขเป็นเรื่องซีเรียสมากนะเจ้าคะ” “ซีเรียสหรือขอรับ” “ข้าหมายถึงเรื่องจริงจังหนะ” นางเสตามองไปทางอื่น นางพูดจริงๆ นะ ..ไม่ได้อยากเจอหน้าหรอก “เวลานี้ท่านประมุขไปหาคุณหนูฮุ่ยหลิงที่ตำหนักในขอรับ” “แล้วที่ข้าอยู่ตอนนี้คือที่ไหนรึ ไกลกันมากไหมข้าเดินไปใช้เวลานานหรือเปล่า” นางถามรอดฟัน กรอดๆ มาถึงก็วิ่งแจ้นไปหานางเอกเลยนะ “ถ้าหากเดินไปคงใช้เวลาหลายวันขอรับ แต่ถ้าเพียงใช้วิชาตัวเบาเหาะเหินไปก็ไม่ถึงหนึ่งเค่อหรอกขอรับ และที่ท่านอยู่ตอนนี้คือตำหนักนอก” ถังช่ายตอบเสียงเรียบ เพราะปกติแล้วเขาก็คงไม่เดินไปหรอกวังนี้ใหญ่มากยิ่งนัก เขาก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ท่านประมุขให้นางพักที่ที่พักบ่าวไพร่นี้ก็นางเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านประมุข ถึงเขาจะไม่เคยเห็นท่านประมุขพาสตรีกลับมาแล้วบอกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงก็เถอะ “อะไรนะ” “ที่นี่ปกติไว้ใช้หลับนอนยามต้องพลัดเปลี่ยนยามเฝ้าพวกสัตว์วิเศษของท่านประมุข เมื่อคุณหนูเป็นสัตว์เลี้ยงย่อมพักที่นี่แน่นอนอยู่แล้วขอรับ” “ข้ารู้แล้ว ข้าเพียงพูดกับตัวเองเพราะข้าตกใจ เข้าใจไหม หึย เลิกตอกย้ำข้าเสียที!!” เหม่ยฮวาพูดพร้อมเบะหน้าน้ำตาคลอ ดวงหน้าสวยตอนนี้มีใบหน้าบึ้งตึงพร้อมทำแก้มป่อง ๆ อย่างขัดใจ ก่อนจะสะบัดหน้าปิดประตูดัง ปึ้ง ใส่หน้าถังช่าย ทิ้งให้ถังช่ายทำหน้างงว่าตนทำอะไรผิดก่อนที่ชายหนุ่มจะเหาะหายไปจากตรงนั้น อีกด้านหนึ่งบุรุษใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีเทากำลังมองการกระทำนี้อยู่ห่างๆ พร้อมกับยิ้มขบขันกับท่าทางของนาง ยามนางหน้าบึ้งตึงนั้นดูน่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย หน้างดงามติดมีแก้มเล็กน้อย และดวงตาสีน้ำตาลแดงอ่อนๆ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลอ่อน ทำให้นางดูเป็นสัตว์ตัวน้อยที่ดูไม่มีพิษมีภัย เฉินฉือชะงักกับความคิดนั้นของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าแล้วหายไปในความมืดในทันที บัดนี้ ณ ลานกว้างที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เยื้องกันนั้นเป็นน้ำตกขนาดหย่อมและดอกไม้นานาพันธุ์ ฝูงผีเสื้อบินว่อนหยอกเย้ากับเกสรของดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่ง ใบหญ้าสีเขียวขจี เสียงน้ำธารไหลกระทบผิวน้ำนั้นส่งเสียงไพรเรอะเคล้ากับเสียงของลมและกลิ่นชื้นของดอกไม้ ไม่คาดคิดเลยว่าบนวังมารปิศาจนี้จะมีสิ่งที่เจริญหูเจริญตาอยู่ไม่น้อย ในสวนไม้นี้มีหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนั่งปั้นหน้าหงำหน้าหงอชั่งคัดกับบรรยากาศรอบรอบเสียจริง ไอบ้านั่น ทิ้งข้าไว้เยี่ยงนี้เป็นเวลากว่าอาทิตย์แล้ว ข้าที่พยายามถามไถ่ถังช่ายที่ตอนนี้กลายเป็นเบ้ของข้าไปแล้วให้พาข้าไป แต่เขากลับทำหูทวนลม! ถ้าหากนับตามวันเวลาแล้วนี่มันก็ใกล้ฉากถัดไปที่พระรองและนางเอกจะได้พบกันภายในบ่อศักดิ์สิทธิ์ โดยแม่นางเอกผู้แสนดีทำทีเป็นห่วงใยที่อยู่ๆ เขาอาการกำเริบขึ้นมา จึงคะยั้นคะยอขอติดตามไปด้วย เหอะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่สนใจใยดีพระรองของข้าแท้ๆ นางช่างร้ายกาจนัก ชิส์ เหม่ยฮวาเบะหน้ากับความคิดของตัวเอง โดยไม่ได้รอดพ้นสายตาเฉียบคมของถังช่าย เขากำลังคิดว่านางกำลังคิดพิเรนสิ่งใดอยู่ เพราะตั้งแต่นางเข้ามาไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะสงบสุข ไม่ป่วนเขา ก็ไปป่วนชวนพวกบ่าวไพร่ทั้งหลายพูดคุย จนตอนนี้นางเป็นที่รักไคร่ของผู้คนภายในตำหนักนอกแห่งนี้แล้ว ในเวลาเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น! “ถังช่ายเมื่อไหร่จะถึงวันที่พระจันทร์เต็มดวงงั้นรึ” “เป็นคืนวันพรุ่งนี้ขอรับ คุณหนูถามทำไมรึ” ถังช่ายถามด้วยความสงสัยแต่ก็ตอบไปอย่างไม่คิดอะไร “ไม่มีอะไรๆ ข้าแค่สงสัยหนะ” “..” ถังช่ายไม่ได้ตอบอะไรเพียงมองนางที่กำลังนั่งเด็ดดอกไม้ทีละดอกๆ “ถังช่าย! ถ้าข้าอยากเข้าไปในวังข้าต้องทำอย่างไร” นั่นไง “คุณหนูเข้าไปไม่ได้หรอกขอรับ นอกเสียจากจะมีกิจที่จะต้องเข้าไป” “เช่นนั้นข้าอยากมีกิจที่จะเข้าไปช่วยข้าได้หรือไม่” “ไม่ได้ขอรับ” “เอะ ท่านเป็นบ่าวข้าจริงหรือไม่!” หน้าสวยเริ่มหง่ำหงอย “โถ่คุณหนู ใช่สิขอรับ” “ถ้างั้นก็พาเข้าไปให้ได้สิ ข้าอยากไปหาท่านประมุข!” “ไม่ได้จริงๆ ขอรับ” ถังช่ายทำหน้าตาหนักใจ “ถังช่าย..” นางหรี่ตามองคนที่ชอบขัดใจนางมาตลอดตั้งแต่อยู่ที่นี่ นางมองเขาตาขวางก่อนจะเปลี่ยนพลันเป็นยิ้มเกรี้ยม ร่างสูงหางตากระตุกทันที เหม่ยฮวาละสายตาจากเขาก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่ลานกว้างโดยรอบก็มีบ่าวไพร่ทั้งชายหญิงรวมถึงเหล่าทหารตำแหน่งน้อยกลางกำลังฝึกปรือและดูแลสัตว์อสูรอยู่ นางเดินไปท่าทางสบายๆ แต่แล้วหญิงสาวก็ล้มลงพับไปกับพื้น เขาที่เดินตามนางต้องตกใจที่นางทรุดลงไปนั่งกับพื้น “ฮึก ถังช่าย ถังช่ายร้ายกาจกับข้านัก พวกท่านเห็นหรือไม่ข้าเป็นเพียงสตรีตัวน้อยหน้าตาก็สะสวยงดงามข้ามิเคยทำตัวไม่ดีน่ารังเกียจ แต่ใยพวกเขาถึงเกลียดข้า ข้ามิเคยได้ออกไปเชยชมมีอิสระเฉกเช่นพวกท่าน สำรับมีเพียงน้ำแกงและข้าวสวยที่จืดฉืดเพียงเท่านั้น ทำกับข้าเยี่ยงนี้ต่างอะไรจากการฆ่าให้ตายทั้งเป็นหรือเจ้าคะ พวกเขากับกักขังข้า ทารุณข้า ข้าเจ็บใจเหลือเกิน ฮือ ฮือ ฮึก” ถังช่ายสายตาเลิกลักพร้อมกับมองโดยรอบที่เริ่มมีคนมามุงเยอะขึ้นพร้อมส่งเสียงเห็นด้วยกับนางพร้อมอดสงสารสตรีบอบบางตรงหน้าไม่ได้ นางเข้ามาในตำแหน่งสัตว์เลี้ยงแล้วถึงกระนั้นนางก็ยังเป็นมนุษย์มีเนื้อหนังมีจิตใจใยถึงทำกับสาวน้อยนางนี้ได้ ท่านประมุขกับท่านองค์รักเงาช่างใจแคบยิ่งนัก ถังช่ายกุมขมับปวดหัวหนึบหนับกับคำกล่าวที่เกินจริงของนางถึงหลายส่วน ถึงแม้นางจะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ผู้คนรอบนอกนั้นย่อมต้องรู้จักเขาดี จะให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองไม่ได้ ถังช่างก้มลงมองสตรีตัวเล็กที่แสร้งสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร ก่อนเขาจะจำใจต้องก้มลงปลอบนางพร้อมกับบอกว่าเขาสัญญาว่าจะพานางเข้าไป “ท่านลุกขึ้นเถิดข้ายอมแพ้แล้วขอรับ” “ฮึกจริงนะ” “ขอรับ” “หึ” เหม่ยฮวารีบกระเด้งตัวลุกขึ้นพลางยิ้มจนตาหยี่เหมือนเหตุการณ์เมื่อสักครู่เป็นเพียงแค่ภาพมายา ให้ตายสิท่านประมุขท่านพาสตรีน่าปวดหัวมาแล้วรู้ตัวหรือไม่ขอรับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม