หากอยู่นานกว่านี้ข้าคงได้ตบ

2061 คำ
เหม่ยฮวาที่ได้หน้าที่เป็นแม่บ้านจำเป็นนั้นจำต้องทำงานจนหลังแทบหัก เจ้าหน้าหล่อนั่นคิดว่าลานฝึกและห้องโถงนั้นเล็กมากงั้นหรือไร! บนลานฝึกกว้างที่กว้างเท่ากับสนามฟุตบอล เมื่อมองไปจะเห็นหญิงสาวหน้าตางดงามผู้หนึ่งกำลังทำปากขมุบขมิบพ่นคำหยาบคายหากใครได้ยินคงจะอกแตกตายกันไปเลยทีเดียว คิ้วเรียวขมวดกันยุ่ง หยาดเหงื่อไหลลงมาตามกรอบใบหน้าสวย “โอ้ยยไม่ทำแล้ว!” นางปาผืนผ้าและเตะกระโถนไม้ลงพื้นด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แดดก็ร้อนเหนื่อยก็เหนื่อยไม่อยากทนแล้ว! เจ้าบ้านั่นมันแกล้งข้าชัดๆ นางทำมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ แม้นางจะสามารถโผล่หน้าไปหาเฉินฉือได้บางครั้ง! แต่ทุกครั้งก็ต้องเจอหน้าแสล๋นแจ๋นของแม่ฮุ่ยหลิงทุกที คิดแล้วมันก็โมโหเว้ย! “แม่มโว้ยยยยยย” เหม่ยฮวานั่งจุ้มปุกลงพื้นพลางกระฟัดกระเฟียดไปมา ก็คนมันขัดใจอ้ะ นางต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแล้ว ตามเนื้อเรื่องหลักนั้นเป็นหลายเดือนกว่าที่จ้าวเซี่ยจะหานางเอกเจอแถมยังไร้ความสามารถไม่สามารถพานางกลับไปได้อี๊กกกก! พระเอกหรือตัวประกอบกันแน่ ไม่โหดไม่โอพีเท่าพระรองของนางเลย สงสัยนางต้องสงเคราะห์เจ้าพระเอกคนนี้เสียหน่อยจะได้เอาแม่นี่ออกไปจากสายตาของนาง เสียที สูนเด้! เสียงแหลมหูดังเพียงพอที่จะเข้าไปถึงห้องของท่านประมุขพรรคมารและรองประมุขพรรคที่กำลังนั่งจัดการเอกสารอยู่เสียงดังของนางทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง คอนางเป็นเหล็กกล้าหรืออย่างใรมันถึงดังมาถึงเขาได้เยี่ยงนี้ นั่นทำให้คนตัวสูงอดจะเผลอส่งเสียงหัวเรอะออกมาไม่ได้ “หึ” “นั่นนางใช่หรือไม่สตรีที่ท่านรับเข้ามา” ท่านรองประมุขฟูเหยาเอ่ยขึ้นเขาได้ยินมาบ้างว่าท่านประมุขของเขารับสตรีนางหนึ่งเข้ามาและลักพาตัวอีกสตรีมาเช่นกัน เขาผู้ที่ต้องคอยตามเช็ดตามล้างนั้นต้องกุมขมับทันที “อืม” “ท่านประมุขช่วงนี้อารมณ์ดีหรือเจ้าคะ” “ข้านะหรือ ข้าก็ปกตินะ” สตรีหน้าตาหวานดวงตากลมโตเอ่ยถามเสียงใสเมื่อชายหนุ่มตรงหน้านางนั้นกำลังอมยิ้มกับเสียงที่ดังที่แว่วมาจากทางลานฝึก และนางรู้ได้ทันทีว่าคงเป็นเหม่ยฮวาเป็นแน่ เฉินฉือเหลือบมองฮุ่ยหลิงเล็กน้อย ตามที่เงาเขารายงานมาพบว่าช่วงนี้จ้าวเซี่ยไม่อยู่ที่ตำหนักมาหลายวันแล้ว หึ สงสัยกำลังร้อนรนตามหาแม่นางฮุ่ยหลิงเป็นแน่ สถานที่แห่งนี้นั้นใครจักเข้าออกมิใช่เรื่องง่ายไม่แปลกที่มันจะมาช้า แม้ว่าจ้าวเซี่ยจะนับเป็นเทพแห่งนักรบแม่ทัพแห่งทิศปัจฉิมก็ตาม “เจ้าไม่นึกเกลียดข้ารึที่พรากเจ้ามาจากคนรัก” “หม่อนฉันมิกล้า ข้าเชื่อว่าเขาจะมาตามหาข้าเจ้าค่ะ” “หึ เจ้ามิต้องกังวลเขาจักต้องมาแน่ ข้าเพียงแค่อยากเห็นเจ้าจ้าวเซี่ยมันกระอักเลือดตายก็เท่านั้น อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นถึงภูติบุปผาด้านการรักษานั้นเจ้านับเป็นผู้โดดเด่นคนสำคัญผู้หนึ่งของเผ่าที่ข้าปกครอง ประมุขอย่างข้าดูแลผู้น้อยนับว่าถูกแล้ว ถือเสียว่ามาเที่ยวเล่นสักระยะก็แล้วกัน” ประมุขพรรคมารเฉินฉือกล่าวเสียงเรียบทำให้นางที่รับรู้ถึงความจริงที่ว่าเขานั้นมิได้มีใจก็นิ่งงันไปเล็กน้อย แต่เดิมที่ท่านประมุขนั้นไปมาหาสู่นางอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังสรรหาเนื้อผ้าชั้นดีเครื่องประดับมาให้นางอยู่มิขาด และที่ทำให้นางมั่นใจนั่นคือที่เขาพาตัวนางมาและปฏิบัติกับนางดีเช่นนี้ก็นึกคิดไปเองว่าท่านประมุขผู้สูงศักดิ์ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมจะทำให้นางถึงเพียงนั้น ทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งอยู่มิใช่น้อย หากแต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีคนรักของผู้อื่นแล้วนางจึงปฏิเสธเขาเรื่อยมา จนเมื่อเหตุการณ์ที่บ่อน้ำครานั้น ท่านประมุขกลับไม่มาเยี่ยมเยือนนางที่เรือนเลย ทำให้นางต้องตัดสินใจมาหาเขาเอง แต่กลับต้องเห็นว่าเขานั้นมักจะสนใจให้กับนางเหม่ยฮวานั่นบ่อยครั้ง จนนางมิอาจนิ่งนอนใจได้ เอ้ะ เหตุใดนางจึงมิอาจจนิ่งนอนใจได้เล่า นางเป็นสตรีที่มีคนรักอยู่แล้วนะ เหม่ยฮวาที่ทำงานของตัวเองเสร็จสรรพแล้วก็รีบเดินเข้ามาภายในวังเพื่อหาเฉินฉือทันที ถามเหล่าทหารยามได้ความมาว่าท่านประมุขอยู่ที่ห้องทรงอักษรพร้อมกับแม่นางฮุ่ยหลิงนั้นก็แทบจะวิ่งไปหาทันที ร้ายกาจนักน้ำหวานจะไม่ทน! นางจะต้องเตะแม่บัวขาวนี่ออกไปจากที่นี่ให้ได้ “ที่รักกกกกกกกก” เสียงใสของเหม่ยฮวาตะโกนร้องเรียกท่านประมุขมาแต่ไกล นางวิ่งโดยจับชายกระโปรงเลิกขึ้นมาเล็กน้อยจนเห็นขาขาวผ่อง “สำรวมด้วย!” เฉินฉือที่ลืมตัวแม้กระทั่งที่ตนเองโดนเรียกว่า ที่รัก นั้นเพราะมัวแต่ตกใจที่นางยกชายกระโปรงขึ้นมาจนขาขาวๆ ของนาง เหม่ยฮวายังคงไม่รู้ตัวเดินยิ้มแย้มเดินเข้ามาหาคนตัวสูงพลางส่งยิ้มที่ดูไม่ได้ยิ้มอย่างใบหน้าให้กับฮุ่ยหลิง เอาอีกแล้ว เจออีกแล้วเกะกะลูกตา “คาราวะเจ้าค่ะท่านที่รัก...ช่วงนี้เห็นหน้าท่านบ่อยนักแม่นางฮุ่ยหลิง” นางพูดแหย่เฉินฉือไปหนึ่งทีพร้อมกับเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะพร้อมนั่งลงข้างกายสูง และไม่ลืมจะหันกลับมาถามแม่นางฮุ่ยหลิง พลางสายตาก็ไปสบกับดวงตาสีดำใบหน้างดงามคมคายติดหวานเล็กน้อย ดูสูงส่งสง่า รอบตัวนั้นมีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ไม่น้อย ฟูเหยา ท่านรองประมุขพรรคมารเป็นแน่ “ขออภัยที่ทักทายท่านช้าไป คาราวะท่านรองประมุข” ฟูเหยาเพียงส่งยิ้มให้พร้อมพยักหน้ารับ “ท่านประมุขเฉินเห็นข้าเป็นสตรีเพียงลำพัง กลัวข้าจะเหงาจึงอาสาเป็นเพื่อนคุยเจ้าค่ะ” “เป็นเช่นนั้นนี่เอง ท่านประมุขคงเหงามากกระมัง” นางกดพูดเสียงต่ำหันไปทางบุรุษหน้าคมคายที่คิ้วกระตุกทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของนาง ในใจพลางกระสับกระส่ายไปมารู้สึกเหมือนตนเองกำลังทำอะไรผิดสักอย่าง แต่เขาก็มิได้ทำส่งใดผิดใช่หรือไม่ คิดได้ดังนั้นจึงนั่งหน้าเคร่งขรึมเช่นเดิมก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “เจ้าเห็นข้าเป็นคนใจจืดใจดำถึงขนาดนำสาวงามมาทิ้งไว้งั้นรึ” “ใช่! แต่มิใช่กับนางแต่เป็นกับข้าไงเจ้าคะ” “มิใช่เช่นนั้น” ท่านประมุขตอบเสียงอ่อนและพยายามจะหาข้อแก้ต่างให้ตัวเองกลับนึกไม่ออกในเมื่อเขาเห็นใจนางจริงอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเพียงแต่หนแรกนั้นเขากล่าวเชิญนางมาพบเพียงครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นเป็นนางที่มาขอพบเขาอยู่เรื่อย “วันนี้ข้าขอตัวก่อน หากอยู่นานกว่านี้ข้าคงได้ตบ!” ทั้งสามชีวิตในห้องหันมามองทางนางพร้อมกันทันที “ตบ! หลินฮุ้ยแถวนี้ละเจ้าค่ะบินตอมไปมาเสียจริง ขอตัว!” นางคิดอะไรไม่ออกด้วยความโกรธจึงเผลอออกอาการมากไปหน่อยพร้อมกับสะบัดหน้าเดินหนีออกไปทันที โดยทิ้งระเบิดกับคำถามที่ว่า หลินฮุ้ย นั้นคือสิ่งใด พวกเขาสองคนมองรอบตัวพร้อมกับหาสิ่งที่เรียกว่าหลินฮุ้ยนั้น เฉินฉือเมื่อเห็นนางยอมออกไปอย่างง่ายดายผิดวิสัยของนางที่มักจะเจอเขาที่ไหนจะเดินปรี่มาหาเขาที่นั่น ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดล้วนตบพบเจอนางเป็นทุกคราและยังชวนคุยจ้อมิหยุด เหม่ยฮวาที่ออกไปพร้อมแววตาน้อยใจก็พลันทำให้ใจท่านประมุขนั้นร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “แม่นางข้านั้นมีภาระอย่างมาก มิอาจจะว่างอยู่เป็นเพื่อนคุยเจ้าได้ทุกวัน ที่ตำหนักซวงอิงนั้นมีสวนดอกท้อและดอกไม้อยู่มากข้าจักให้สาวใช้เจ้าไปเพิ่มสักสองสามคนเจ้าจงไปใช้เวลาชื่นชมความงามเหล่านั้นแทนเถิด พานางไป ข้าขอตัวก่อน” เฉินฉือหันมากล่าวยาวเยียดกับฮุ่ยหลิวอย่างเร่งรีบพร้อมกับตัดบทส่งสายตาให้ฟูเหยาจัดการ ฟูเหยานึกคิดว่าท่านประมุขของเขามีงานเยอะเสียที่ไหน เป็นเขาที่ทำงานจนสายตัวแทบขาด ฟูเหยาเพียงรับคำแล้วเรียกให้สาวใช้ตัวนางไปตามที่ท่านประมุขสั่ง เขาก็นึกไม่เข้าใจตนเองนักเหตุใดจึงต้องร้อนรนเช่นนี้ยามเห็นร่างเล็กตรงหน้าเดินหนีหายไปเขาก็แทบอยากจะออกตามไปทันที เหม่ยฮวาที่เดินเลี่ยงออกมานั่น เม้มปากแน่น เนื้อเรื่องเดิมเป็นเวลาอีกเดือนที่จ้าวเซี่ยจะสามารถจับหนึ่งในทหารของเฉินฉือได้แล้วเค้นถามความจริงจึงได้ความว่าเฉินฉือลักพาตัวแม่นางเอกมาไว้ที่แห่งนี้ ไม่ได้มันช้าเกินไปนางจะต้องทำอะไรสักอย่าง เหม่ยฮวาคิดได้ดังนั้นจึงเหลือตัวช่วยเดียวนั่นคือ ถังช่าย! นางที่เตรียมจดหมายมาก่อนหน้านั้นแล้วเดินตามหาถังช่ายจนทั่ว ตั้งแต่นางได้รับคำสั่งทำงานนี่เขาก็ไม่โผล่หน้ามาหานางอีกเลย นี่เขาใช่บ่าวนางจริงใช่หรือไม่ และนางก็พบเขาที่สถานที่ฝึกส่วนหนึ่งทางด้านข้างที่เป็นที่ฝึกสำหรับพวกองค์รักษ์ ถังช่ายของนางมิใช่บ่าวใช้ธรรมดางั้นรึ นึกว่าเขาจะเป็นเพียงตัวประกอบปลายแถวเท่านั้น ลานฝึกซ้อมที่หนุ่มทั้งหลายบ้างถอดเสื้อบ้างใส่ชุดหนังหนัก10 ชั่งบ้างกำลังฝึกกันอย่างแข็งขัน นางเพ่งมองจนพบกับชายหนุ่มผู้หนึ่งร่างกายกำยำสมส่วน แม้มัดกร้ามจะไม่ได้แน่นเท่ากับเฉินฉือของนางแต่นางก็ชื่อชอบอะไรที่เป็นกล้ามนัก ถังช่ายที่รับรู้สึกถึงสายตาแปลกประหลาดจึงหันไปมองทางนั้น ก็พบกับเหม่ยฮวาที่ยืนกำเดาไหลอยู่ข้างลานฝึก ทำให้เหล่าทหารทุกคนหันขวับไปมองเป็นตาเดียว นางส่งยิ้มแห้งๆ มาให้เขาพร้อมกับกวักมือเรียก ก่อนจะเช็ดเลือดกำเดาของตัวเองออก “ว่าอย่างไรขอรับ” “เจ้าช่วยนำสิ่งนี้ไปให้ท่านแม่ทัพที” “ท่านจะชวนข้าก่อกบฏหรืออย่างไร!” ถังช่ายมองกระดาษในมือของสตรีตรงหน้าไม่วางตาพร้อมแสดงสีหน้าตื่นตระหนก “ชู่!” เหม่ยฮวาใช้มือเล็กปิดปากถังช่ายทันควันพร้อมกับดันให้ถังช่ายเข้าหลบมุมที่มุมเสา ชายหนุ่มที่ได้กลิ่นกายสาวและขาวนุ่มนิ่มที่ใกล้ชิดเขาอยู่ก็หน้าเห่อร้อนใจสั่นหวั่นไหว “ท่านต้องเชื่อข้าสิ่งนี้จะช่วยท่านประมุขได้! ข้ามิได้จะก่อกบฏ ถ้าหากท่านแม่ทัพยกทัพทำศึกขึ้นมาจะต้องมีอีกหลายชีวิตที่ต้องล้มตายท่านยินยอมหรือที่ท่านประมุขจะถูกประนามว่าเป็นชายชั่วลักพาสตรีที่รักของผู้อื่นแล้วยังเข่นฆ่าเขาอีก!” นางยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาพร้อมพูดเสียงกระซิบแต่หนักแน่นไปในที ถังช่ายพยักหน้าเห็นด้วยและยังคงหน้าแดงด้วยกลิ่นกายนาง “ทำสิ่งใดกัน!” เสียงตวาดดังลั่นด้านหลังพวกเขาทำให้เหม่ยฮวาเด้งตัวออกจากถังช่ายในทันทีพร้อมกับที่ขยิบตาให้ถังช่ายรีบเก็บสิ่งนั้นเข้าไป เฉินฉือที่เดินออกตามหานางก็พบว่านางกำลังใกล้ชิดกับถังช่ายองค์รักษ์เงาของเขา หน้าขององค์รักษ์เขานั้นแดงก่ำจนถึงใบหูกับท่าทางล่อแหลมของทั้งคู่ทำให้เขาเกิดบันดาลโทสะในใจอย่างแรง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม