ไม่ต้องทำหน้าตึง

1944 คำ
“วิน อ้าว ไปไหนวะ” ฉันตื่นตั้งแต่เช้าลงไปทำงานอาหารตามเวลาที่ทำทุกวัน เพราะว่ากว่าจะไปกินที่มอก็ไม่เคยจะทัน แล้วตอนเช้าคนก็เยอะมาก แล้วผัวฉันไม่ใช่ว่าจะกินอะไรง่ายๆ เด้อค่ะ ถ้าไม่อร่อยก็ไม่กิน แล้วไม่แค่ไม่กินนะถ้าร้านไหนไม่ถูกใจไม่อร่อยบ่นตั้งร้านเขามาถึงบ้านอะ ไม่รู้มันใช้ชีวิตมาถึงวันนี้ได้ยังไง แล้วตอนนี้พอเดินเข้ามาในห้องบนเตียงก็ไม่มีร่างผัวฉันละ “เฮ้อ เดี๋ยวค่อยออกตามหาผัว อาบน้ำก่อนดีกว่า” ฉันเดินเข้ามาอาบน้ำแต่งตัว พออาบน้ำเสร็จก็เดินมาที่ห้องแต่งตัววันนี้อยู่บ้านใส่เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวซึ่งของฉันกับของเขาก็ปนกันไปหมดแหละถ้าเป็นเสื้อยืดอะ อีกอย่างก็ชอบ เพราะนายนั่นตัวหอมดีแล้วพอมาผสมกับน้ำหอมแล้วกลิ่นตัวฉันมันดีอะ พอใส่เสื้อเสร็จฉันก็ใส่เลกกิ้งสีดำสั้นเลยเข่าขึ้นมาหน่อยผ้านุ่มๆ แต่งหน้าเบาๆ วันนี้วันศุกร์ไม่มีเรียนทั้งคู่ แล้วเทอมนี้ไม่ค่อยมีเรียนเต็มวันหรอกมีแค่วันเดียวนอกนั้นก็ครึ่งวัน แต่ไม่ใช่จะสบายหรอกจ่ะ เพราะมีวิจัย แต่โชคดีที่ฉันเสนอหัวข้อผ่านแล้ว แล้วตอนนี้ก็เริ่มทำบทที่หนึ่ง แล้วบทที่หนึ่งคือหินมากเลยต้องวางโปรแกรมตัวเองในแต่ละวันให้ดี เพราะตอนนี้เกรดฉันก็อยู่ในเกณฑ์เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอยู่ แต่ฉันไม่ได้เคร่งจนเครียดหรอกนะ ใช้ชีวิตทั่วไปนั่นแหละแค่แบ่งเวลาในชีวิตอะ แต่ถ้าสอบก็จะสรุปแล้วก็อ่าน อ่านอย่างเดียวไม่พอจ่ะ พูด เขียน อ่าน จนจำได้หมดอะ แล้วส่งงานตรงเข้าเรียนตลอดถึงจะไม่มีเช็คชื่อแต่ก็ไป กว่าจะได้ A มาแต่ละตัวก็เกือบจะคลานอะ พักเนาะ พอฟังฉันบ่นแล้วก็น่าเครียดใช่ปะ ไม่อยากให้เครียดกัน พอแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว “อ้าว สรุปผัวกูมันเป็นมนุษย์ปะวะ อย่าบอกนะ ทุกวันนี้กูอยู่กับปีศาจในคราบมนุษย์อะ” ผมออกมานั่งอยู่ที่โต๊ะนอกระเบียงก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วก็เล่นเกมส์เวอร์ชันที่กำลังจะอัปเดต ก็ดูพวกความจำเยอะเกินไปไหม รองรับได้กับมือถือทุกรุ่นไหม ภาพแตกไหม พอเล่นไปแล้วมันกระตุกหรือเปล่า ความลื่นไหลของเกมส์ตลอดการเล่น แล้วก็พวกเอฟเฟกต์ต่างๆ เวลาตัวละครใช้สกิลมันสวยไหม อืม เนี่ยแหละ ผมไม่ได้เล่นแต่เกมส์อย่างเดียวเหมือนที่เมียบ่นนะครับ พรึ่บ! “วิน อื้ออ” ฉันคิดกับตัวเองอยู่สักพักก็นึกออกเลยเดินไปดึงม่านออกแต่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย คนตัวสูงก็รีบลุกขึ้นแล้วก็รีบเอามือปิดหน้าฉันแล้วก็ดันฉันเข้ามาในห้อง “เธอจะออกมาทำบ้าอะไรวะห๊ะ! มีแต่กลิ่นบุหรี่ เข้าไป” ผมใช้มือปิดจมูกยัยตัวแสบแล้วก็ดันยัยนี่เข้ามาไปในห้อง แล้วก็รู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็นะ เลยไม่ค่อยให้ยัยนี่ได้กลิ่นหรอก พอดันยัยนี่เข้าไปผมก็ดึงม่านปิดไว้เหมือนเดิม จะปิดประตูกระจกก็ไม่ได้อีกเพราะมันล็อกอัตโนมัติต้องเปิดจากข้างใน “เอ้า มันก็รู้ว่าไม่ดีแล้วจะสูบทำไมวะน่ะ แล้วก็คือต้องทำไง อืม ชีวิตกูเนาะ จะคุยกับผัว ผัวก็อยู่แค่เนี่ยกูต้องโทรคุย คิดดู ใครจะให้ได้เท่านี้มั่ง” ฉันเดินมาหยิบโทรศัพท์ก่อนจะโทรหาไอ้บ้าที่ตอนนี้ก็ยังอยู่ข้างนอก ครืดด ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นว่ายัยนั่นโทรเข้ามาเลยหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะกดรับสาย “ว่า” “เข้ามาอาบน้ำกินข้าวก่อน แล้วนายจะทำอะไรค่อยไปทำ” “เออ แม่งแทบจะไม่ใช่เมียอยู่ละ ทุกวันนี้แม่งแทบจะเป็นแม่อยู่ละ” ฉันขมวดคิ้ว คือผัวฉันมันคุยกับฉันหรือมันบ่นของมันคนเดียววะ “เออ จะเมีย จะแม่ นายก็เข้ามาได้ละ อย่าช้า ไม่งั้นฉันไม่รอ” “ฉันก็จะฆ่าเธอบนเตียง รอ อย่าเยอะ” ผมเก็บของก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงไปในที่เขี่ยบุหรี่แล้วผัวเมียมันต้องกินข้าวพร้อมกันปะ “ให้เร็ว แค่นี้” ติ๊ด ฉันพูดจบก็กดวางสายแล้วก็ไปหยิบหน้ากากอนามัยออกมาจากกล่องสีขาวน่ารักๆ ที่ฉันซื้อมาใส่แล้วก็หยิบสเปรย์ปรับอากาศมาถือไว้ “ทำอะไรของเธอ วิญญาณแม่บ้านเข้าสิงเหรอ” “เอ้า ก็กลิ่นบุหรี่มันก็ติดตัวนายมาปะ รีบเดินจะพ่นสเปรย์แล้ว” ผมมองยัยตัวแสบที่ตอนแรกก็งงๆ พอยัยนี่ตอบมาก็ อ๋อ แล้วดูสภาพ แม่งไม่รู้ ปี 4 หรือ ม.4 ผมวางของไว้บนโต๊ะคอมฯ ก่อนหมุนตัวเพื่อเดินไปที่ห้องน้ำ แล้วดูยัยนี่แม่งทำ ฟืดดด ฉันเห็นตัวกำลังจะเดินไปในห้องน้ำเลยฉีดสเปรย์ปรับอากาศไปแถวเสื้อเขาก่อนจะหัวเราะกับตัวเองเบาๆ สักพักนายนี่ก็หันมาถามฉันพร้อมกับยกมือขึ้นเท้าเอว “เธอแกล้งฉันเหรอห๊ะ” “ฉันแกล้งอะไรนาย กลิ่นบุหรี่มันก็ติดเสื้อผ้าปะ ฉันก็ต้องจัดการมันสิ” ผมมองยัยตัวแสบทำหน้าตาใสซื่อส่งมาให้ ฮึ ดูเป็นเมียที่บอบบางมากแหละเมียผมอะ ใครจะรู้ยัยนี่แม่งเกินความคาดหมายไปหมดอะ ผมใช้มือจับที่แก้มของยัยตัวแสบก่อนจะบีบมันเข้าหากันพร้อมกับตอบยัยนี่กลับไป “ฮึ ยิ้มจนไม่มีตาตอนฉีดสเปรย์ขนาดนั้นคงหวังดีกับผัวมากเลยอะเนาะ” “ปล่อยฉันเลย” “ฉันฝากไว้ก่อนเถอะ” ฉันเบะปากใส่คนตัวสูงแล้วก็ฉีดสเปรย์ตามหลังเขาไปแล้วก่อนจะถอดหน้ากากอนามัยออกและปิดฝาสเปย์ปรับอากาศแล้วเอามันวางไว้ที่เดิม สักพักเสียงผัวก็ลอยขึ้นมาอีกรอบ “เบะปากใส่ฉันเหรอห๊ะ เดี๋ยวฉันจะคิดบัญชีกับเธอ” ผมยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำก่อนจะหันมาบอกยัยตัวแสบแล้วยัยนี่ก็พูดขึ้นมาเหมือนไม่ยอมรับความเป็นจริงด้วยนะ “นายเอาอะไรมาพูด” “เหรอ หัวขยับไปขยับมาเหมือนตุ๊กตาล้มลุกขนาดนั้นไม่รู้มั้ง” “เก่งจังเนาะ ไม่ต้องขู่รีบ ด่วนๆ ท้องฉันร้องละ” “เออ รอ” ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะคอมแล้วก็กดเข้าในไลน์ของร้านเบเกอรี่เพื่อรับออเดอร์ สักพักก็เห็นไลน์ของนายนั่นแจ้งเตือนพอเห็นข้อความที่แจ้งเตือนเลยกดเข้าไปดูแล้วมันก็ขึ้นมาเพิ่มเพื่อน แต่ประโยคที่ทักมาคือ [ใช่ธาวินหรือเปล่าคะ พอดีนัตตี้อยากจะให้สอนเล่นเกมส์หน่อยอะค่ะ นัตมือใหม่เลยยังไม่เก่ง วินนำนัตหน่อยได้ไหมคะ] “อิดอก นำเกมส์หรือนำอะไร อ่านไม่กี่ประโยคกูก็รู้เรื่องละ” ฉันวางมือถือลงไว้แล้วก็ไม่ได้ออกจากไลน์ด้วย ดูสินายนั่นจะทำยังไง เพราะปกตินายนั่นจะบอกว่าเล่นกับพวกธาม ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้คือผมกับเมียแต่งตัวเหมือนแฝดอะ ผมใส่เสื้อโอเวอร์ไซส์สีขาวแล้วก็กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่เหมือนก็แค่ลายของเสื้อนั่นแหละ แล้วยัยนั่นก็ชอบใส่เสื้อผ้าผมด้วยนะ ผมแต่งตัวเสร็จก็ฉีดน้ำหอมกลิ่นที่ใช้ประจำแล้วก็เดินออกมาข้างนอก พอเดินออกมาผมก็เรียกยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะคอม “แบม ไปกินข้าว หยิบไอ้แพดแล้วก็โทรศัพท์สี่ห้าเครื่องตรงนั้นมาให้ด้วย” ฉันหมุนเก้าอี้กลับมาก่อนจะเรียกชื่อจริงคนตัวสูงด้วยสีหน้านิ่งๆ “ธนสิษฐ์” อืม เมียเรียกชื่อจริงละ แสดงว่ายัยนี่ต้องมีอะไรอีกแน่ๆ แต่อะไรวะ ผมขมวดคิ้วก่อนจะถามยัยตัวแสบกลับไป “อะไรของเธอ เป็นอะไร” “มีผู้หญิงทักมาหานาย” “หื้อ” “เหอะๆ ไม่ต้องหื้อหรอก มันทักมาละ” ฉันกอดอกมองคนตัวสูงสักพักเขาก็เดินมาหาก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมาแล้วนายนี่ก็ยืนอยู่ข้างหลังพออ่านข้อความจบก็ได้ยินเขาพูดขึ้นมา “ตอแหลจริงๆ กูเป็นโค้ชหรือไง เห็นกูเป็นคนดีตั้งแต่เมื่อไหร่ บล็อก แล้วไม่ต้องมาทำหน้าตึง ต่อไปเห็นใครทักมาแบบนี้เธอก็บล็อกไปสิแค่นี้ก็จบละ ไป ลุก ไปกินข้าว” ผมหยิบไอแพดแล้วก็โทรศัพท์ที่ใช้ส่วนตัวแล้วก็โทรศัพท์ที่เอาไว้ทดลองเกมส์ พอหยิบของเสร็จก็จับแขนยัยนี่แล้วดึงให้เดินตามมา “นี่เดี๋ยว” “อะไรของเธออีก” “ฉันจะไปเอากระเป๋าของฉันก่อน” ฉันบอกคนตัวสูงพอเขาปล่อยมือฉันก็มาหยิบกระเป๋าสานที่ใบใหญ่มากพอสมควรเป็นทรงสี่เหลี่ยม พอเดินกลับมาก็ได้ยินนายนี่หัวเราะก่อนจะพูดขึ้นมา “หึหึ เธอกล้าเรียกมันว่ากระเป๋าเนาะ ตะกร้าเถอะ แม่งใหญ่ขนาดนี้” “เชอะ เดินไปเลย” “ก็ไปดิ” ผมจับแขนยัยตัวแสบแล้วดึงให้เดินตามมาก่อนจะหยุดตรงหน้าประตูและหันมามองยัยตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วเมียผมแม่งสูงยังไม่ถึงหัวไหล่ผมเลยมั้ง “แบม” “อะไร” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูงก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพอนายนี่พูดมาเท่านั้น แม่งน่าจะให้อดข้าวตายไปซะ “ตอนเด็กๆ เธอกลัวนมเหรอวะ ตัวแม่งสูงยังไม่ถึงไหล่ฉันเลย” “ปากนายนี่เนาะ ว่างๆ ก็เอาไปตากแดดฆ่าเชื้อโรคมั่งเถอะ” “ฮึ เตี้ยจริงๆ เธอกลัวความสูงเหรอวะ” “เออ! พอใจยัง!” “มาก” “ไอ้บ้า นี่ แล้วนายจะหยุดเพื่อ” “เปิดประตูดิ๊ ฉันไม่มีมือ” “เอ้า นายก็ปล่อยแขนฉันแล้วก็เปิดสิ” “ไม่ ฉันขี้เกียจ” ผมมองยัยตัวแสบก่อนจะตอบกลับไปแบบกวนๆ แล้วผมตอบยัยนี่ไปประโยคสั้นๆ นะ หลังจากนั้นคือ “โอ๊ะ อ้าว ออกไป มีกูเนี่ยแหละมั้งที่ต้องเปิดประตูให้ผัว คนอื่นที่ผัวเปิดประตูให้แม่งจะสู้กูได้ไง ทุกวันนี้แม่งแทบจะทำให้ทุกอย่างอยู่ละ ไม่รู้ใครเป็นเมียใครเป็นผัว” ฉันผลักประตูออกไปพร้อมกับบ่นออกมาแบบยาวเหยียด แล้วแทนที่ผัวจะสำนึก แกว่านายนี่แม่งทำอะไร หัวเราะจ้า เหมือนดูตลกอะ “ฮ่าๆ มีผัวก็ต้องดูแลผัวสิ ดีนะฉันไม่ให้เธอล้างเท้าให้เหมือนคนสมัยก่อนอะ” “ขนาดนั้นฉันต้องใส่ชุดไทยนั่งร้อยมาลัยรอมั้ง” “เออ เธอสั่งชุดไทยมาเลย มาลัยร้อยเป็นปะล่ะ ไม่เป็นฉันจะส่งเธอไปเรียน ก่อนนอนจะได้เอามากราบผัว” “ประสาท”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม