Chapter 3
ยั่วรัก (1)
ในห้องทำงานของอคิราห์ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง และสมาธิเขาต้องกระเจิดกระเจิง เพียงเพราะการมาของเด็กสาวคนนี้...สลิลทิพย์ น้องสาวต่างบิดาของพริมาวัยสิบหกปี
หล่อนอาศัยว่าเป็นน้องสาวของพริมา ภรรยาตามกฎหมายของเขาที่สังคมรับรู้ จึงได้เข้ามาเหยียบถึงที่นี่ หากเป็นคนอื่นนั้นอย่าหวังว่าจะได้เข้ามาใกล้ชิดเขาในระยะหายใจรดเช่นนี้ ถ้าเขาไม่อนุญาต
หล่อนชอบมาบีบน้ำตาขอเงินเขา และครั้งนี้ก็เช่นกัน...แววตาเข้มมองคนที่นั่งตาแดง ๆ ตรงหน้า อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
เขากำลังคิดว่าพริมาไม่ใช่เมียตัวจริง เหตุใดจึงต้องอุ้มชูคนในครอบครัวของหล่อนด้วย มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา แต่เพราะสลิลทิพย์ชอบบีบน้ำตาให้เขาสงสาร จึงลงเอยด้วยการให้เงินหล่อนไปไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว
"คราวก่อนก็เพิ่งได้ไป คราวนี้เอาไปทำอะไรอีกล่ะทิพย์"
"หนูเดือดร้อนจริง ๆ ค่ะ พี่คินก็รู้ว่าสถานะทางบ้านหนูกำลังย่ำแย่ คุณพ่อคุณแม่มีค่าใช้จ่ายมากมาย...หนู...หนูไม่กล้าขอพี่พรีม เพราะขอทีไรก็ไม่ได้ แถมโดนดุกลับมาด้วยว่าหนูใช้เงินเปลือง ทั้ง ๆ ที่หนูพยายามประหยัดที่สุดแล้ว ฮึก ๆ ฮือ ๆ"
หล่อนสะอื้นออกมา ตอกย้ำถึงสถานะความสัมพันธ์กับพี่สาวต่างมารดาว่าไม่ราบรื่นนัก และที่ผ่านมามันก็ได้ผล หล่อนสูบเงินจากอคิราห์ได้ครั้งละหลักหมื่นเลยทีเดียว
ด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบร้อยและใฝ่เรียน อาจทำให้อคิราห์ใจอ่อนยอมช่วย เพราะเขาเชื่อว่าหล่อนจะนำเงินของเขาไปใช้จ่ายอย่างเกิดประโยชน์ที่สุด หล่อนคิดเช่นนั้น
"ถ้าพี่คินไม่ช่วย หนูคิดว่าคงจะต้องเลิกเรียนไปหางานทำก่อน ทำยังไงก็ได้เพื่อช่วยเหลือทางบ้าน"
เสียงหล่อนสั่นเครือ ใจคิดอย่างมีความหวังว่าเขาจะต้องใจอ่อนอีกครั้ง เขาซึ่งมีสถานะเป็นพี่เขยของหล่อน จะใจดำไม่เหลียวแลน้องเมียเช่นหล่อนก็ให้มันรู้กันไป
"เอาละ ๆ หยุดร้องได้แล้วทิพย์ มาถึงขนาดนี้พี่ก็อดช่วยเธอไม่ได้อยู่ดี"
ชายหนุ่มดึงกระดาษเช็ดหน้ายื่นให้หล่อน เจ้าตัวรับมาซับไปรอบ ๆ แววตาแดงช้ำ หล่อนยิ้มออกมาได้เมื่อเขารับปากว่าจะช่วยกันอีกครั้ง
อคิราห์หยิบเช็คมาเขียนรายละเอียดลงไป ก่อนยื่นให้คนตรงหน้า
"พี่เห็นว่าเธอเอาไปใช้เรื่องเรียนนะทิพย์ แล้วก็...เพราะ...เพราะเธอเป็นน้องของพรีม ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงไม่ช่วย"
เขาเชื่อว่าสลิลทิพย์ไม่ได้เอาเงินเขาไปละลายเล่น ก็เพราะ
ภาพลักษณ์ใส ๆ ของหล่อน เขารู้ผ่านพริมาว่าสลิลทิพย์นั้นเป็นเด็กเรียนดีคนหนึ่ง
"ขอบคุณนะคะ พี่คินดีกับหนูเสมอ หนูจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ"
สลิลทิพย์ยกมือไหว้คนที่เชื่อว่าคือพี่เขย ก่อนรับเช็คมาเก็บใส่กระเป๋าด้วยสีหน้าที่คลายความกังวลไปบ้าง
"เอ่อ...พี่คินคะ"
"ครับ"
"วันนี้พี่คินเลิกงานเร็วมั้ยคะ"
แผงคิ้วเข้มเลิกขึ้น เมื่อหล่อนมองมาด้วยแววตาเว้าวอน
"ทำไมเหรอทิพย์ มีอะไร"
แววตาหล่อนดูเศร้าอีกแล้ว เขาสบตากับแววตายาวรีสั่นระริกคู่นั้น
"วันนี้วันเกิดหนู...แต่...แต่ไม่มีใครจำได้เลย ทางบ้านมัววุ่นแต่กับการหาเงินจนลืมวันเกิดหนู...มันไม่ใช่แค่ปีนี้...แต่มัน...เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว หนูไม่เคยมีโมเม้นท์ฉลองวันเกิดกับคนในครอบครัวเลย"
"....."
"ถ้าพี่คินจะสงสาร หนูจะขอฉลองวันเกิดกับพี่คินได้ไหมคะ"
อคิราห์ทำหน้าปั้นยาก ไม่เคยมีใครมาอ้อนวอนให้เขาไปจัดงานวันเกิดให้แบบซึ่ง ๆ หน้าเช่นนี้มาก่อน
"นะคะ มันเป็นวันเดียวในหนึ่งปีที่หนูจะมีความสุขกับเขาบ้าง"
แววตายาวรีที่มองมาอย่างออดอ้อน ทำให้เขาใจอ่อนอีกครั้งจนได้...เขากำลังคิดว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะเผลอรักพริมาไปแล้ว ก็เลยเห็นสลิลทิพย์เป็นคนในครอบครัวไปด้วยอย่างนั้นหรือ ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองด้วยใจที่สับสน
สลิลทิพย์หลุบตาหนีสายตาที่มองมาอย่างเอ็นดู และคำตอบของเขาก็ทำเอาหัวใจพองโต
"ได้สิทิพย์ วันนี้เราไปฉลองวันเกิดของเธอกัน"
หล่อนแทบจะโผเข้าไปกอดเขาเสียให้ได้ แต่เพราะทำไม่ได้ จึงได้แต่นั่งยิ้มจนแกัมปริ
เขาตอบไปแบบนั้นเพราะเข้าใจความรู้สึกของหล่อนดี...วันเกิดที่ไม่เคยได้รับการอวยพรจากคนในครอบครัว มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และเขาจะช่วยลบปมด้อยให้หล่อนเอง
เพราะหล่อนเป็นน้องสาวของพริมา มันคือการเล่นละครบทหนึ่งเท่านั้นเอง ชายหนุ่มคิดเช่นนั้น
ในบ้านวรธาดา ไฟตรงห้องรับประทานอาหารส่องสว่าง ดอกกุหลาบสีแดงสดถูกปักลงแจกันเป็นขั้นตอนสุดท้าย...พริมายืนมองผลงานตัวเองด้วยความพึงพอใจ อาหารถูกวางเรียงรายเต็มโต๊ะ มันถูกปรุงขึ้นมาจากฝีมือของหล่อน ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์การกลับบ้านของอคิราห์โดยเฉพาะ
เพราะวันนี้คือวันเกิดของหล่อน แต่หล่อนไม่แน่ใจว่าเขาจำมันได้ไหม และเมื่อเช้าเขาบอกว่าวันนี้อาจกลับเร็ว หล่อนจึงเข้าครัว
เพื่อเตรียมอาหารสำหรับดินเนอร์มื้อค่ำกับเขาสองคน
เวลาที่ฝาผนังยังคงเดินไปเรื่อย ๆ หล่อนใจร้อนเมื่อเขายังไม่
มา จึงเดินไปมาอย่างกระสับกระส่ายระหว่างหน้าบ้านกับโต๊ะอาหาร ผุดลุกผุดนั่งอย่างกระวนกระวาย เมื่อโทร.ไปแล้วเขาไม่ยอมรับสาย
'คุณคิน...ทำอะไรอยู่นะ...' หล่อนไม่อยากโทร.บ่อยเพราะกลัวจะเป็นการตามจิก แต่...มันก็ผิดเวลาเกินไปแล้ว กังวลว่าอาหารจะเย็นชืดเสียก่อน และหล่อนไม่รู้เป็นอะไร เหตุใดจึงรู้สึกเจ็บปวดกับการรอคอยให้เขากลับมา มันยิ่งตอกย้ำว่าใจหล่อนนั้นเผลอเล่นนอกบท รักเขาเข้าแล้วจริง ๆ