จิ๋ว จิราภรในการมีชีวิตใหม่มาเป็นเข็ม เขมิกาเติบโตมาอย่างดีบนเส้นทางสายการแสดงที่เธอวาดหวังก่อนที่จะมาเกิดใหม่ก็ประสบความสำเร็จ ชาติก่อนเธอไม่มีแม้แต่เพื่อนสนิทหากแต่ชาตินี้เธอได้พบกับมิ้น ลลิตาเพื่อนแท้ที่มองไปข้างๆ ทีไรก็มักจะเห็นเธออยู่ตลอด ทุกครั้งที่ทั้งคู่ไปทำงานด้วยกันนั้นจะมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่สดใส จริงใจให้แก่กันเสมอ หากแต่เมื่อทั้งคู่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่หก มิ้น ลลิตาได้ขอพักงานในวงการบันเทิงก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่เกาหลีเนื่องจากมารดาของเธอถูกส่งตัวไปช่วยงานที่โรงพยาบาลของที่โน่น ทำให้มิ้น ลลิตาต้องพักความฝันของตนไว้ชั่วคราว และต้องห่างเพื่อนสนิทที่คบกันมานานถึงหกปี
“มิ้น เมื่อไหร่จะกลับจากเกาหลีสักที” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวด้วยความคิดถึง
“ปิดเทอมจะกลับไปหานะเข็ม”
ทั้งสองพยายามกลั้นสะอื้นเอาไว้ ทั้งคู่ไม่เคยต้องห่างกันไกลขนาดนี้มาก่อนและการจากกันไกลครั้งนี้ มันก็กินเวลานานจนเขมิกาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
ร่างบางสูงโปร่งในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกำลังก้าวลงจากรถตู้คันหรูที่ใช้เป็นยานพาหนะในการดูแลศิลปินนักแสดงในสังกัด ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ต่างจับจ้องมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน
“น้องเข็ม เปิดเรียนวันแรกสู้ๆ นะคะ เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วพี่ยิ้มจะมารับหนูไปถ่ายปกนิตยสารของพราว คุณแพรติดต่อมาเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้วจ้ะ” เสียงของหญิงสาววัยสามสิบปลายๆ เอ่ยบอกนักแสดงสาวที่ตนดูแลมาตั้งแต่เด็กๆ
“ค่ะพี่ยิ้ม ขอบคุณนะคะ” สาวสวยส่งยิ้มก่อนที่จะยกมือไหว้ขอบคุณผู้จัดการส่วนตัวที่สนิทกันราวกับเป็นพี่น้องแท้ๆ กันก็ไม่ปาน
รถตู้คันหรูขับเคลื่อนผ่านร่างบางของดาราสาวไปอย่างช้าๆ เธอค่อยหันกลับไปทางตึกของคณะนิเทศศาสตร์สถานที่ซึ่งเป็นที่เรียนของตน เรียว เรวัตก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอเช่นกัน ซึ่งปีนี้เขาเรียนที่นี่เป็นปีสุดท้ายแล้ว ก่อนที่จะจบออกไปรับช่วงต่องานบริษัทของบิดา
“สวัสดี เข็ม เขมิกา” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกดาราสาว ร่างบางค่อยๆ หันไปมองก็เห็นผู้ชายท่าทางกระตุ้งกระติ้งยืนอยู่ไม่ไกล
“สวัสดีค่ะ” เขมิกาทักทายกลับพร้อมรอยยิ้ม
“เราเรียนห้องเดียวกับเธออะ ถ้าไม่รังเกียจ เรามาเป็นเพื่อนกันได้ไหม”
แป๋ม ปริญญา วิชัยยุทธเอ่ยถามด้วยความลังเล หากแต่ก็อยากจะลองเสี่ยง เขาไม่ได้หวังว่าเธอจะยอมคบคนที่ธรรมดาแบบเขา เพราะเธอเป็นถึงดาราดัง เขาดูละครเธอและชื่นชมผลงานของเธอมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวยงเลยก็ว่าได้
“ไม่รังเกียจเลยจ้ะ ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอนะ” เขมิกามองก็รู้ทันทีว่าเพื่อนใหม่คนนี้น่าจะเป็นคนที่คบได้คนหนึ่ง
“จะ....จริงนะ” เสียงดัดเล็กเอ่ยถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“อืม เธอชื่ออะไรล่ะ” เขมิกาตอบพร้อมส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเอ่ยถามชื่ออีกฝ่าย
“อ้อ ลืมไปเลย เข็ม เราชื่อแป๋ม ปริญญา วิชัยยุทธ เรียกแค่ชื่อเล่นเราก็พอนะ อย่าไปเรียกชื่อจริงเลยนะ” แป๋มตอบอย่างดีใจ เข็ม เขมิกาเป็นดารามาตั้งแต่เด็กแถมมีชื่อเสียงมากในไทย
“ดีใจจังเลย เข็มเราเป็นแฟนคลับเธอมาตั้งแต่เด็กๆ เลยนะ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าในวันนึง เราจะได้มาเป็นเพื่อนกัน” แป๋มตอบด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เข็ม เขมิกาส่งยิ้มหวานตอบกลับไปแทน
“ไปเรียนกันเถอะแป๋ม เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน” เข็ม เขมิกาเอ่ยชวนเพื่อนใหม่เดินเข้าไปในคณะท่ามกลางสายตาที่มองเธอเป็นจุดเดียว เธอเป็นดังสปอตไลท์ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ก็แน่ล่ะ ใครบ้างที่จะไม่รู้จัก เข็ม เขมิกา นักแสดงสาวชื่อดังที่แจ้งเกิดมาจากบทบาทของนักแสดงเด็ก
ขณะที่เดินเข้าไปภายในห้อง สายตากลมก็มองไปเห็นภายในที่เพื่อนๆ ในห้องต่างจับกลุ่มคุยกันอยู่ พลันเธอก็มองไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี เสียงหวานร้องดังทักทายออกไป
“มิ้น....................” มิ้น ลลิตาส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กตั้งแต่เห็นร่างบางเดินเคียงข้างมากับเพื่อนผู้ชายที่ดูไม่เหมือนจะไม่แมน
“มิ้นจริงๆ ด้วย ฮือ..คิดถึงจัง”
ทันทีที่มิ้น ลลิตาเงยหน้าขึ้นไปมองเธอ เข็ม เขมิกาก็วิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทในวัยเด็กทันที แป๋ม ปริญญามองอย่างเข้าใจ เขารู้ว่าทั้งมิ้นและเข็มนั้นสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ
“คิดถึงเข็มเหมือนกัน เรากลับมาแล้วจ้ะ เรามาเป็นเพื่อนกันต่อนะเข็ม”
สองเพื่อนรักโอบกอดกันด้วยความคิดถึง เพื่อนๆ ในห้องต่างหยิบมือถือออกมาเก็บภาพนี้ไว้ ภาพในอดีตของสองสาววกกลับมาในความทรงจำของเพื่อนๆ ทุกคน ภาพของเด็กหญิงเขมิกาและเด็กหญิงลลิตาที่เคยทำงานร่วมกัน และมักจะเห็นภาพที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันเสมอ
“อืม... มิ้นมาเรียนที่นี่กับเราใช่ไหม แล้วมิ้นจะกลับมาทำงานในวงการหรือเปล่า พี่ยิ้มรอมิ้นอยู่นะ” เขมิการีบถามเพื่อนรักทันทีที่ทั้งสองผละออกจากอ้อมกอดของกันและกันแล้ว
“จ้ะมิ้นเรียนคณะเดียวกันกับเข็มนั่นแหละ และยังได้เรียนห้องเดียวกับเข็มอีกด้วย ส่วนเรื่องทำงานมิ้นติดต่อพี่ยิ้มแล้วจ้ะ” มิ้น ลลิตาตอบเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบมองไปยังเพื่อนใหม่ของเพื่อนรัก
“เออ.... มิ้น นี่แป๋มเพื่อนใหม่ในคณะของเรา แป๋มนี่มิ้นเพื่อนสนิทของเข็มเอง” เข็ม เขมิกาไม่ลืมที่จะแนะนำเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ทั้งสองให้ได้รู้จักกัน สองหนุ่มสาวยิ้มให้กัน
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะแป๋ม” มิ้นส่งยิ้มให้
“เราก็เหมือนกันจ้ะ ดีใจจังที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอทั้งสองคน” แป๋มตอบ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาจากใจ สองสาวเพื่อนซี้ส่งยิ้มให้กันก่อนที่จะหันไปส่งยิ้มให้กับเพื่อนใหม่
การเรียนในคาบแรกของเช้านี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติ หากภายในห้องไม่มีคนดังมาเรียนด้วย อาจารย์ได้ให้เข็ม เขมิกาแนะนำตัว ทั้งยังให้บอกเล่าประสบการณ์การทำงานในสายงานบันเทิง และให้เธอฝากผลงานกับเพื่อนๆ เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากนักแสดงสาวกล่าวจบ ทุกคนมองเห็นว่าเธอเป็นดาราดังก็จริง หากแต่ไม่ได้ถือตัวเลย ออกจะอัธยาศัยดีเสียด้วยซ้ำ เพื่อนๆ จึงขอถ่ายรูปคู่กับเธอ ซึ่งเธอก็ยินดีและแจกรอยยิ้มให้ทุกคนตลอดเวลา
หลังเลิกเรียน ทั้งมิ้น แป๋มและเข็มก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตน หากแต่เข็ม เขมิกานั้นต้องไปทำงานที่ผู้จัดการส่วนตัวแจ้งไว้เมื่อเช้า เธอจึงเอ่ยลาเพื่อนทั้งสองก่อนที่จะแยกย้ายกัน เธอชวนทั้งคู่ไปดูเธอทำงานด้วย หากแต่ทั้งสองก็ไม่ว่าง เธอจึงต้องไปกับพี่ยิ้มผู้จัดการเช่นเดิม
“พี่ยิ้ม มิ้นจะได้กลับเข้าวงการใช่ไหมคะ” เข็ม เขมิกาเอ่ยถามขณะนั่งอยู่ในรถระหว่างเดินทางไปยังสตูดิโอเพื่อถ่ายปกนิตยสารพราว
“เจอกันแล้วใช่ไหม อืม... จ้ะ แต่ก็เหมือนต้องมาเริ่มใหม่อยู่ดี ก็น้องมิ้นห่างหายจากวงการไปตั้ง6ปี คงต้องเริ่มให้น้องมิ้นเข้าสู่เวทีการประกวดก่อน ให้แฟนๆ ของเธอเมื่อก่อนจำเธอได้ แล้วกลับมาซัพพอตเธอเหมือนเดิม” ยิ้ม ญานิตาบอกดาราสาวสวยในสังกัด
“อ้อ...ค่ะ น่าเสียดายนะคะ ถ้ามิ้นยังโลดแล่นอยู่ในวงการมาพร้อมๆ กับเข็ม ยังไงเข็มก็เชื่อว่ามิ้นต้องดังพอๆ กับเข็มแน่นอนเลยค่ะ” เข็ม เขมิกาเอ่ยขึ้นจากความรู้สึกในใจ
“อนาคตไม่มีใครบอกได้จ้ะ ถ้าน้องมิ้นเกิดมาเพื่อเป็นดารา ยังไงน้องมิ้นก็จะกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นเอง”
ยิ้ม ญานิตาบอกเข็ม เขมิกาด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เธอเกิดมาพร้อมกับพรสามประการเลยทำให้อะไรในชีวิตของเธอราบรื่นไร้อุปสรรค ผิดกับเพื่อนรัก ที่ทำอะไรก็มักจะมีอุปสรรคมาขวางกั้นเสมอ เธอเชื่อว่าหากเพื่อนเธอยังเป็นคนดี และมีจิตใจที่ดี ยังไงความดีจะส่งผลให้เพื่อนของเธอกลับมามีชื่อเสียงและโด่งดังไม่แพ้กัน
“อืม...พี่ยิ้ม เข็มมีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคนค่ะ” เข็ม เขมิกาเอ่ยขึ้นทันทีที่นึกขึ้นได้ นี่เป็นเรื่องที่เธอต้องบอกผู้จัดการสาวที่เป็นดังพี่สาวของเธอเช่นกัน
“อ๋อ... เหรอจ้ะ แล้วผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ ดูเป็นคนยังไง คบได้ไหม ไม่ใช่เหมือนตอนมัธยมปลายนะที่เข้ามาคบกับหนูเพราะหวังผลประโยชน์เอารูปกับลายเซนของหนูไปขายต่อน่ะ แบบนั้นพี่ไม่ปลื้มเลยจริงๆ เอาเพื่อนไปหากินแบบนั้นได้ยังไง”
เพราะเป็นคนที่คิดดี จิตใจดี ทำให้เข็ม เขมิกาถูกเพื่อนที่ไม่จริงใจหลอก ดีที่ตอนนั้นเธอรู้ทัน เลยสกัดไว้ทัน หากทำไม่ได้แล้วล่ะก็ชื่อเสียงของเขมิกาคงจะดูแย่น่าดู ที่ใครๆ ก็จะคิดว่าเธอเป็นฝ่ายขายรูปกับลายเซนของตนเอง เหตุนี้ทำให้เข็ม เขมิกาไม่คบใครเป็นเพื่อนที่คอยติดตามกันอีกเลย
“แป๋มค่ะ ดูตุ้งติ้ง น่าจะเกย์ไม่ก็สาวสอง เข็มชอบแป๋มนะคะ แป๋มดูจริงใจ ไม่เสแสร้งเหมือนพวกผู้หญิงด้วยกันเสียอีก”
เข็ม เขมิกาเล่าให้ผู้จัดการส่วนตัวฟังด้วยรอยยิ้ม แป๋มกล้าที่จะเข้ามาทักทายเธอและขอเป็นเพื่อนกับเธอแบบตรงๆ เธอดูก็รู้ว่าแป๋มต่างจากเพื่อนคนอื่น
“อย่าไว้ใจกันมากนะเข็ม มีแต่น้องมิ้นนั่นแหละที่พี่เห็นว่าจะคบกับเข็มอย่างจริงใจ กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกก็คบกันไปนานนานนะ อีกอย่างน้องมิ้นจะได้กลับไปเดินบนเส้นทางสายบันเทิงแน่นอน มีเพื่อนที่ดีบนเส้นทางนี้ ย่อมดีกว่าสิ่งใด เพื่อนที่จะคอยช่วยซัพพอตเราได้ในทุกเรื่อง ไม่ใช่เพื่อนที่คอยหาแต่ผลประโยชน์จากเรา”
ยิ้ม ญานิตาสอนดาราสาวที่ตนดูแลมาตั้งแต่เด็กและรักเหมือนน้องแท้ๆ เข็ม เขมิกาพยักหน้ารับ เธอเข้าใจว่าพี่ยิ้มนั้นเป็นห่วงและจริงใจกับเธอมากเพียงใด ไม่มีครั้งใดเลยที่พี่ยิ้มจะเอาเปรียบหรือทำให้เธอลำบาก เธอเป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัว เป็นที่ปรึกษา เป็นพี่สาว เป็นทั้งเพื่อนของเธอ