“อื้อ! ไม่นะพี่คฑา อย่าทำ อ๊ะ! พี่คฑา! พิมพ์บอกให้หยุดไง อึ๊ อื้อ”
พิมพ์รวีรีบบอกขึ้น เมื่อคฑายอมถอยออกจากปากของเธอแล้วจูบลงมาตามลำคอระหงแทน สองมือเล็กพยายามผลักเขาออก แต่ด้วยแรงของผู้หญิงหรือจะสู้แรงผู้ชายอย่างเขาได้
คฑาค่อยๆเลื่อนจูบลงมา สองมือใหญ่ไม่อยู่นิ่งล้วงเข้าไปลูบไล้เนื้อสาวภายใต้ชุดนอนลายการ์ตูนน่ารัก ที่ตอนนี้ภายในเปล่าเปลือยไร้การปกปิดจนพิมพ์รวีที่ดิ้นรนขัดขืนค่อยๆหยุด
“อื้อ อึ๊ พะ...พี่คฑา...” เสียงครางแผ่วเรียกขึ้นพร้อมกับที่แรงผลักเริ่มเบาลงเรื่อยๆ
พรึ่บ!
เขาตวัดชุดนอนของเธอขึ้นไปกองรวมอยู่บนอกอวบก่อนจะยกตัวขึ้นมองร่างสาวขาวเนียนที่โชว์หราอยู่ตรงหน้าพร้อมกับกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงคอ
นี่สินะที่เขาเรียกว่าแตกเนื้อสาว... คฑาคิดขึ้นมาในใจพร้อมกับมองสำรวจไปทั่ว ก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงมาดอมดมไปที่หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันของพิมพ์รวี
“อ๊ะ! ไม่นะ อื้อ...พี่คฑา...อ๊ะ หยุด อื้อ...หยุดเถอะ...” หญิงสาวยังคงไม่ลดความพยายามทั้งๆที่ไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
“พี่หยุดไม่ได้แล้วพิมพ์ พี่สัญญาว่าพี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง...พี่ขอนะ” คฑากระซิบบอกชิดผิวเนื้อนวลก่อนจะเลื่อนขึ้นมาครอบครองสองอกอวบที่แข็งชูชันท้าทายเขา
จุ๊บ! จ๊วบ! จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!
เสียงดูดกลืนสลับข้างไปมาดังขึ้นไม่หยุด เมื่อความหอมหวานของเธอมันช่างหอมยั่วยวนเขาเสียเหลือเกิน คฑากลืนกินอย่างตะกละตะกลาม จนกระทั่งเริ่มต้องการมากกว่ากลืนกินสองเต้าอวบ ชายหนุ่มจึงเลื่อนมือข้างซ้ายลงไปสัมผัสกับกลุ่มขนดำขลับที่ปกคลุมความนุ่มหยุ่นของเธออย่างเบามือเหมือนกับว่ากลัวมันแตกสลายก่อนที่เขาจะได้เชยชม
“อ๊ะ!! อื้อ! อยะ...อย่านะ อื้อ พี่คฑา อ๊ะ! อื้ออออออ” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นแทบจับใจความไม่ได้เมื่อถูกเขาลากไล้นิ้วยาวเข้าไปสัมผัสกุหลาบสาวอันฉ่ำหวาน ที่กำลังหลั่งรินไหลเยิ้มออกมาด้วยความต้องการที่ถูกเขาปลุกขึ้น
“อ๊ะ!...” พิมพ์รวีค่อยๆปรือตาขึ้นมอง เมื่อตอนนี้คฑาค่อยๆเลื่อนตัวลง เขาจูบซับไปทุกที่ที่เขาลากลิ้นผ่านจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่กุหลาบสาวของเธอ
“สวย...” เขาพูดออกมาทันทีที่ความสาวเผยอยู่ตรงหน้า
“พอได้แล้ว...พี่คฑา รู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำอะไร” พิมพ์รวีที่ยังมีเรี่ยวแรงบอกขึ้นอีกครั้งเพราะถ้าเขายังไม่หยุดตอนนี้เธอคงห้ามเขาไม่ได้อีกแล้ว
“รู้สิ...รู้ดีด้วย”
“อ๊ะ! ไม่...อื้อ ไม่...อื้อ”
พูดจบคฑาก็เลื่อนตัวขึ้นแล้วกดจูบลงไปที่ปากเล็ก ชายหนุ่มงัดเอาแก่นกายชายอันพรั่งพร้อมออกมา ก่อนจะกดเน้นลงไปเสียดสีกับกลางกายสาว
ปึก!
“อ๊ะ! เจ็บ!” พิมพ์รวีถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกสอดใส่เข้าไป
“............” เขาไม่สนใจและไม่คิดหยุด
ปึก! ปึก! ปึก!
“พี่คฑา...พิมพ์ จะ...เจ็บ...” เธอกัดฟันบอกเมื่อเขาเริ่มขยับหนักขึ้น
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
คฑาไม่สนใจเสียงอะไรอีกเมื่อ สิ่งเดียวที่รัดรึงและดึงดูดเขาอยู่ตอนนี้คือร่องสาวอันเล็กแน่น สองมือใหญ่เอื้อมไปยกสะโพกผายขึ้นสูงก่อนจะเร่งแรงรักหนักหน่วงโดยที่พิมพ์รวีหมดหนทางที่จะห้าม สองมือกำผ้าปูเตียงจนมันยับย่นเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บที่กำลังถาโถมเข้าใส่
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ! อ๊าาาาา พะ...พิมพ์ อื้อ! พะ...พิมพ์! พะ...พี่ขอโทษ อ๊าาาา”
เสียงแหบกระเส่าบอกขึ้นก่อนจะเร่งแรงรักแล้วปลดปล่อยออกมาเมื่อสิ้นสุดความอดทนอดกลั้น คฑาอดที่จะเอ่ยขอโทษออกมาไม่ได้เมื่อเขารู้ตัวว่าได้ปลดปล่อยในกายสาวไปเรียบร้อยแล้ว
“จะ...เจ็บ! เสร็จ อึก! เสร็จแล้วก็ออกไป...” พิมพ์รวีบอกออกมาพร้อมกับเริ่มดันลำกายใหญ่ออก
ส่วนคฑา เขารู้ว่าเธอยังไม่เสร็จสม เพราะด้วยครั้งแรกและความเจ็บที่เขาทำขึ้น ชายหนุ่มค่อยๆยกตัวขึ้นแต่ไม่ยอมถอนกายออกไป ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานเหยเกทุกๆครั้งที่เขาขยับ
“ถ้าพี่ออกตอนนี้ เราได้เข็ดกับเซ็กแน่...” คฑาบอกขึ้น
เพราะความเป็นหมอและประสบการณ์รักทำให้เขาเข้าใจ แต่คนที่ไม่เข้าใจคือพิมพ์รวี ตอนนี้เธอหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว
“อีกครั้งนะ” บอกเสร็จเขาก็กระแทกเข้าใส่อีกครั้ง เมื่อแก่นกายที่พึ่งสงบดันผงาดอีกรอบ
ปึก!
“อ๊ะ! บะ...บอกว่าเจ็บ! ออกไปนะ!” คนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งโหยงเมื่อถูกเขาขยับเข้าใส่อีกครั้ง
แต่คฑาก็ไม่สนใจอีกตามเคย เขาเร่งแรงรักตามความต้องการอันมากล้น เมื่อนานเท่าไหร่แล้วที่เขาเอาแต่ยุ่งเรื่องการหย่าจนไม่ได้ปลดปล่อย แถมยังเป็นพิมพ์รวี เด็กสาวที่เขาเคยหมายตาแต่ไม่อาจได้ครอบครอง และตอนนี้สิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้นแล้ว เขาจะไม่มีวันถอยหลังเหมือนครั้งก่อนอย่างแน่นอน!
“นี่ลุง...พะ...พอได้แล้ว...อื้อ...เจ็บแล้วนะ...” ทางด้านปั้นหยา เสียงกระเส่าเสียวบอกขึ้นพร้อมกับบิดเร้าร่างกายไปมา
“ฮึ่ม...ขออีกนิด จุ๊บๆๆ อื้อ จุ๊บๆ แผล็บๆๆ จ๊วบๆๆ” เสียงกลืนกินอันมูมมามของพอลรภีดังขึ้นไม่หยุด
ปั้นหยาที่ปลดปล่อยออกมาสองรอบแล้วถึงกับแทบหมดเรี่ยวแรง สองขาที่อ้าออกกว้างค่อยๆวางลงเมื่อถูกเขาสูบเอาเรี่ยวแรงไปจนหมด
แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ!
ส่วนพอลรภี สองมือกำลังแหวกว่ายอยู่ในร่องรักสาวที่หลั่งรินน้ำรักออกมาไม่หยุด ส่วนปากร้อนก็เฝ้าตวัดกลืนกินปุ่มกระสันที่แดงฉ่ำนูนเด่นของเธอ
“พะ...พะ...พะ...พะ...พอ ละ...แล้ว อ๊ะ! อ๊าาาาา อื้อออออ” เสียงครางหวานดังกระชั้นขึ้นอีกครั้ง ก่อนปั้นหยาจะกระตุกเกร็งรัวๆปลดปล่อยออกมา
ผลัก! ตึง!
“โอ๊ย! ถีบเลยเหรอ” พอลรภีถึงกับตกใจเมื่อถูกถีบจนตกเตียง
“อื้อ...ก็...บอกให้พอ...พูดไม่รู้เรื่องเอง...” ปั้นหยาบอกขึ้นพร้อมกับรีบหนีบขาหนี
ส่วนคนเจ็บค่อยๆลุกขึ้นมองอย่างน้อยใจที่ถูกถีบตกเตียง เขาอุตส่าส่งเธอไปเยือนสวรรค์ถึงสามครั้งด้วยปากอันแสนเซ็กซี่ของเขาแต่ดันถูกถีบส่งเสียอย่างนั้น
ปึง! ปัง!!
เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่กึ่งเปลือยเดินหายออกไป ทำเอาปั้นหยาที่มองตามถึงกับไปไม่เป็น
“คนบ้า แค่นี้ก็งอนด้วย”
หญิงสาวบอกออกมาอย่างนึกขำ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาในมุมแบบนี้ ปั้นหยาค่อยๆพยุงร่างอันไร้เรี่ยวแรงขึ้นแล้วเดินไปหยิบเสื้อของเขาที่แขวนอยู่ในตู้มาใส่แล้วเดินตามพอลรภีออกไป
ปึง...
“หิวจัง...” ปั้นหยาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าพอลรภีกำลังยืนดื่มน้ำอยู่
“..............” เขาทำเป็นไม่สนใจเพราะยังงอนอยู่
“งั้นออกไปหากินข้างนอก...”
“เดี๋ยวทำมาม่าให้”
พอลรภีรีบบอกขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดตู้หยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมา
หมับ
“ขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจ” ปั้นหยาเดินไปกอดเอวสอบจากทางด้านหลังอย่างรู้สึกขอโทษที่ถีบเขาจนตกเตียง
“ไม่ได้โกรธสักหน่อย” เสียงทุ้มบอกออกมา ก่อนจะหันกลับมากอดร่างเล็กแทนหลังจากที่ตั้งหม้อต้มน้ำเรียบร้อยแล้ว
“อ่าว แล้ว...” ปั้นหยาถึงกับงง
“แค่มาเติมพลังก่อนออกศึก” ไม่พูดเปล่าแต่พอลรภียังก้มลงมาจูบปากบางบวมช้ำของปั้นหยา
“ห๊ะ อะ...อื้อ อื๊อๆๆ...”
คนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับทำหน้าเหวอกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเขา ก่อนจะค่อยๆเคลิ้มตามรสจูบอันหนักหน่วงและเรียกร้อง
พอลรภียกร่างเล็กขึ้นนั่งบนเคาเตอร์ครัวเมื่อคิดว่าจูบนี้คงไม่หยุดลงง่ายๆ และไม่เพียงแค่จูบแต่เขาคงทำมากกว่านั้น