เก้าลากกวากวามาจนถึงรถตัวเองก่อนจะสั่งเสียงเข้ม
“เข้าไป”
“แต่กวายังรับน้องอยู่นะคะ”
“บอกให้เข้าไป!”
กวากวาสะดุ้งกับเสียงตะคอกของเก้า ไม่รู้เมื่อไหร่เธอจะชินสักที แต่ถึงอย่างไรเธอจะต้องพยายามชินกับมันให้ได้ ก็เขาเป็นคู่หมั้นเธอนี่นา
“เฮียไม่เปิดประตูให้กวาเหรอคะ”
เธอถามอย่างสุภาพ เธอไม่ได้ต้องการจะใช้เขาแต่มันเป็นมารยาทที่เธอได้รับเสมอมาจากคนอื่น
“เปิดเองไม่เป็นหรือไง”
แต่คงไม่ใช่สำหรับเก้า เธอลืมไปว่าเขาไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป คนอื่นมักพูดกับเก้าว่ามีดีแค่หล่อ รวยและต่อสู้เก่ง แต่เธอมั่นใจว่าเธอเห็นบางอย่างมากกว่านั้น
“ค่ะ กวาขออนุญาตเปิดนะคะ”
เก้ามองคนตัวเล็กด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมมาเรียนที่นี่แล้วไม่บอก ไลน์ไปทำไมไม่รู้จักตอบ ส่งแค่สติกเกอร์มันจะเข้าใจมั้ย”
ทันทีที่ออกรถ เก้าก็ยิงคำถามใส่คนด้านข้างทันที ยิ่งคำถามสุดท้ายยิ่งใส่อารมณ์เพราะเขาไลน์ถามเธอว่า เธอถึงไทยตั้งแต่ตอนไหน แต่เธอกลับส่งแค่สติกเกอร์หน้ายิ้มมา
กวากวายิ้มขำ ถามขึ้นเชิงล้อเล่น
“ให้กวาตอบคำถามไหนก่อนดีคะ”
“อย่ามากวนตีนกวากวา”
“ไม่เห็นต้องดุเลย”
คนโดนดุหน้ามุ่ย แต่เพียงครู่เดียวเธอก็กลับมายิ้มดังเดิมและเริ่มตอบคำถามเขา
“กลับมาอาทิตย์ที่แล้วค่ะ ที่ไม่ได้บอกว่ามาเรียนที่นี่เพราะอยากเซอร์ไพรส์ค่ะ”
“เหอะ ไปเขียนใบลาออกซะ เธอไม่เหมาะกับคณะนี้”
เก้าหันมามองเธอด้วยสีหน้าจริงจังขณะรถกำลังจอดติดไฟแดง
“กวาสอบเข้าได้ อะไรที่บอกว่ากวาไม่เหมาะคะ”
“แค่เธอเข้ามาเพราะตามผู้ชาย เธอก็ไม่เหมาะแล้ว”
“ผู้ชาย? หมายถึงเฮียเก้าเหรอคะ”
“เธอเป็นคนบอกฉันเอง”
กวากวาอมยิ้ม แล้วตอบเหตุผลจริง ๆ ที่เธอเลือกเรียนที่นี่
“ความจริงเรื่องมาเรียนเพราะเฮียอยู่เป็นแค่เปอร์เซ็นต์ส่วนน้อยค่ะ เหตุผลหลัก ๆ คือกวาอยากเรียนเองเพื่อไปช่วยงานคุณพ่อค่ะ เฮียอย่าลืมสิคะว่าบ้านกวาเปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์และกำลังจะเปิดอู่ด้วย กวาอยากไปทำตรงนั้นค่ะ”
คำอธิบายยาวเหยียดแบบละเอียดยิบเล่นเอาคนหลงตัวเองอ้าปากพะงาบ ๆ
ยอมรับว่าเสียหน้าอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดเลยคือคุณหนูอย่างกวากวาอยากทำงานแบบนี้ ทั้งที่เธออยู่เฉย ๆ ทำงานในห้องแอร์สุขสบายกว่า
“คราวนี้เฮียให้กวาเรียนได้ยังคะ”
“แล้วแต่เธอสิ ฉันจะไปห้ามอะไรเธอได้”
“จริง ๆ ห้ามได้นะคะ เพราะเฮียเก้าเป็นคู่หมั้นกวา”
เก้าเบือนหน้าหนี ไม่ได้ตอบอะไร
จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสิบนาที ภายในรถก็ยังเงียบกริบ
“เอ่อ เฮียคะ”
เป็นกวากวาที่พูดขึ้นก่อน แต่ก็ถูกขัดด้วยประโยคคำถามของคนเจ้าอารมณ์
“ถามจริงเถอะนะ เธอไม่คิดจะคัดค้านการหมั้นของเราบ้างหรือไง”
“มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ยังไงเราก็ต้องหมั้นกัน”
“เธอนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ จะทำตามทุกเรื่องที่ผู้ใหญ่สั่งเลยหรือไง”
กวากวาหลุบตาลงต่ำ เขี่ยนิ้วตัวเองไปมา ตอบคำถามเสียงอ่อน
“กวาไม่มีทางเลือกมากหรอกค่ะ”
“เหอะ แล้วเธอไม่มีแฟนหรือคนที่แอบชอบบ้างหรือไง”
เก้าลอบมองสีหน้าหญิงสาวข้างกายหลังจากจบประโยคคำถาม ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อกวากวาทำหน้าเหมือนกำลังคิดหนัก
“ถ้ามี ก็ไปคบกับมันสิ ฉันถอนหมั้นให้พรุ่งนี้เลยก็ได้นะ”
“ไม่ค่ะ ไม่มี”
กวากวารีบส่ายหน้ารัวเร็ว เธอแค่กำลังคิดว่าจะบอกดีหรือเปล่าว่าคนนั้นคือเขาเอง
ไม่รู้ทำไมเก้าต้องพาลอารมณ์เสียไปด้วย
“แล้วคิดนานทำไม”
“กวาขอโทษค่ะ”
“น่ารำคาญ”
ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ามุมปากเก้ายกยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล
“แล้วนี่เฮียจะพากวาไปไหนคะ”
“หาไรกิน ฉันหิว กินเสร็จเดี๋ยวไปส่งเธอที่พัก”
“ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ”
“เธอหมายความว่าไง?”
“ก็กวาพักที่คอนโดเฮียเก้าไงคะ เมื่อเช้าให้คนเอาของไปไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว”
“เธอว่าอะไรนะ!?”
เก้าเหยียบเบรคแทบทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่กวากวาพูด
“กวาพักกับเฮียเก้าค่ะ คุณลุงเป็นคนจัดการให้ ท่านบอกว่าคอนโด
เฮียมีสองห้อง แล้วอีกอย่าง...”
“แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉันวะ”
“อันนี้กวาไม่ทราบค่ะ กวาแค่ทำตามที่คุณพ่อและคุณลุงบอก”
ดวงตาคมตวัดมองเธอพร้อมทั้งถอนหายใจหนัก ๆ เขาล่ะเบื่อยัยเด็กตุ๊กตานี่เสียจริง ซื่อบื้อ ผู้ใหญ่สั่งให้ทำอะไรก็ทำ
“กวาสัญญานะคะว่ากวาจะเป็นรูมเมทที่ดี ไม่เสียงดัง ไม่รบกวนเฮียเลย”
นิ้วเล็กชูขึ้นสามนิ้วเป็นท่าเนตรนารีปฏิญาณตน ใบหน้าน่ารักฉายความแน่วแน่เป็นเครื่องยืนยันว่าเธอไม่มีทางผิดสัญญาแน่
“ฉันไม่ต้องการรูมเมท”
ใบหน้าน่ารักสลดลงทันทีหลังจากเก้าพูดจบ
“ถ้าเฮียไม่ให้กวาอยู่ กวาก็ต้องไปอยู่คอนโดที่พ่อหาให้พร้อมบอดี้การ์ดอีกเป็นสิบคนแน่”
กวากวาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดพอ ๆ กับใบหน้า หญิงสาวอุตส่าห์ดีใจว่าได้อยู่โดยไม่ต้องมีบอดี้การ์ดแล้วแท้ ๆ
“เอาอย่างนี้มั้ยคะ”
เก้าสะดุ้งเมื่ออยู่ ๆ น้ำเสียงสลดก็เปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นแถมมือนิ่มยังเกาะแขนเขาด้วยสีหน้าดีใจ
“อะไรของเธอ”
“กวาขออยู่กับเฮียแค่อาทิตย์เดียว หลังจากนั้นกวาจะย้ายไปอยู่กับเพื่อน แต่เฮียต้องบอกผู้ใหญ่ว่ากวาอยู่กับเฮียนะคะ”
“เธอมีเพื่อน?”
เก้ารู้ว่ากวากวาเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาและเธอเป็นคนบอกเองว่าเพื่อนในกลุ่มเธอทุกคนไปต่อเมืองนอกหมด เหลือแค่เธอคนเดียวที่คิดจะเรียนต่อเมืองไทย
“เดี๋ยวกวาก็หาได้ค่ะ”
“มั่นใจขนาดนั้นเลย”
คิ้วเข้มเลิกขึ้น มองคนด้านข้างด้วยสีหน้าดูถูก
“คอยดูเลยค่ะ กวาต้องมีเพื่อนแน่นอน”
“อะไรทำให้เธอมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น ซื่อบื้ออย่างเธอใครจะมาคบ”
นิ้วแกร่งจิ้มลงบนหน้าผากเนียน กวากวาทำปากยื่นก่อนจะตอบกลับด้วยความใสซื่อ
“กวาไม่ได้นิสัยไม่ดีแบบเฮียนะคะ ถึงจะไม่มีคนอยากคบด้วย”
“นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอยัยตุ๊กตา”
มือเล็กรีบยกขึ้นปิดปากเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป
“คือ กวา...กวาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ”
“เธอตายแน่ ถึงห้องเมื่อไหร่ฉันจะสับเธอเป็นชิ้น ๆ โยนให้จระเข้กิน”
“คนใจร้าย T_T”