ตอนที่ 4

1148 คำ
“ร็อด...คุณคิดจะทำอะไร?” ชายวัยกลางคนเห็นรอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้าเข้มก่อนคำพูดแทงใจจะหลั่งไหลออกมา “ผมรับปากพ่อก็จริงว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ผมจะแต่งงานกับ อิเล็คตร้า แต่แค่ปีเดียวแล้วผมจะหย่า คุณจำไว้นะ วลาดิมีร์ ว่าผมไม่มีวันรักผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักแล้วถูกบังคับให้แต่งงานด้วย!” “โรดิออน คุณเป็นคนใจร้อนเสมอ อย่าเพิ่งด่วนคิดหรือตัดสินใจในสิ่งที่คุณยังไม่เคยสัมผัส ถ้าวันหนึ่งลูกสาวของท่านยูเชนคอฟสามารถกำหัวใจของคุณได้ คุณจะต้องนึกถึงคำพูดที่เปล่งออกมาในวันนี้จากความเลือดร้อนของคุณ” “ผมมั่นใจตัวเองเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ วลาดิมีร์ ผมคงจะมีเลือดพ่อเข้มข้นถึงได้มองหรือตัดสินใจอะไรไม่ค่อยผิดพลาด การที่ผมยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นตามเจตจำนงของคุณพ่อ ผมถือว่าหน้าที่ของตัวเองได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจว่าผมจะอยู่ในเกมนี้ต่อ หรือจะล้มกระดานมันซะ ทุกอย่างจะได้จบ ๆ ไปซะที!” โรดิออนเค้นเสียงหนักบอกให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เขาเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหลุมมืดและต้องรีบตะเกียกตะกายพาตัวเองออกมาให้เร็วที่สุด ทว่าวลาดิมีร์กลับรู้สึกตรงกันข้าม เขาไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลการดำเนินกิจการให้เกิดความราบรื่นแก่ทายาทคนเดียวของคีริลเท่านั้น หากด้วยวิญญาณแห่งความภักดีของชายวัยกลางคนที่ติดตามรับใช้ผู้ก่อตั้งแม็กซิมัสจนกลายเป็นมหาอำนาจในธุรกิจค้าเพชรเขายังมีหน้าที่ต้องปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งตอนนี้อยู่ในกำมือของคนนิสัยไม่เคยลงหัวให้ใครอย่างโรดิออน “คุณโรดิออน...” วลาดิมีร์เอ่ยขึ้นขณะวางเอกสารมือลงและทอดสายตาฝ่าม่านหิมะปรายโปรยหน้ากระจกของรถที่คืบคลานไปบนถนนอย่างเชื่องช้า “คุณจะบอกอะไรผมอีก วลาดิมีร์ ถ้าเป็นเรื่องแต่งงานผมก็แค่พาผู้หญิงคนนั้นไปโบสถ์ให้บาทหลวงทำพิธีให้ และก็มีแค่ เรา...ผมไม่อยากเชิญใครแม้แต่คนเดียว!” “ผมทราบครับ ร็อด แต่เรื่องนี้สำคัญกว่า ก่อนท่านคีริลจะจากไปท่านทิ้งจดหมายปิดผนึกไว้ให้ผมหนึ่งฉบับ ผมให้ทนายประจำตระกูลเก็บไว้ ท่านกำชับว่ามอบให้คุณเปิดผนึกหลังงานแต่งและการจดทะเบียนสมรสกับคุณอิเล็คตร้าสมบูรณ์แล้วหกเดือน” “งั้นรึ! พ่ออยากให้ผมทำอะไรอีก?” “เท่าที่ทราบมันไม่ใช่พินัยกรรม แต่ท่านตั้งใจให้คุณอ่านจดหมายฉบับนั้นเพียงคนเดียว” “หึ! คงเป็นเจตจำนงของพ่อหลังจากนี้ บางทีเรื่องบ้า ๆ นี่อาจยุติหลังจดหมายฉบับนั้นถูกเปิดอ่านก็เป็นได้” โรดิออนหัวเราะในลำคอและมิได้มีทีท่าใส่ใจต่อเรื่องที่ได้ยินได้ฟังเท่าไหร่เลย ทว่าแวบหนึ่งกลับนึกไปถึงใบหน้าแสนหวานและดวงตาเป็นประกายงดงามคู่นั้น ...ลดา...เธอคงกลับที่พักอย่างปลอดภัย ชายหนุ่มประหลาดใจตัวเองในส่วนลึกว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนในมโนนึกชัดเจนมากเท่านี้มาก่อน   หญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงผ้าแคชเมียร์สวมทับด้วยคาร์ดิแกนเนื้อบางกุลีกุจอออกมาจากห้องครัวภายในอพาร์ตเม้นท์ตกแต่งแบบโมเดิร์นสุดหรูซึ่งอยู่ใจกลางกรุงมอสโคเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสวมทับด้วยแจ็คเก็ตกันหนาวและรองเท้าบู๊ทยาวถึงเข่าทำท่าจะเปิดประตูออกไป “คุณหนู...คุณหนูจะออกไปไหนคะ ข้างนอกหิมะยังตกหนักอยู่เลยนะคะ” ยูเลียน่ารีบเข้าไปขวางลดาที่ประตูทันทีแต่หญิงสาวกลับแย้มเรียวปากเคลือบสติกสีชมพูอ่อนออกพลางสวมหมวกขนสัตว์ไว้บนศีรษะทำราวไม่มีอะไรน่าตกใจ “ป้ายูลี่ขา ลดาจะลงไปเดินเล่นข้างล่างสักหน่อย ลดาอยากออกไปดูข้างนอกว่าบ้านเกิดของคุณพ่อเป็นยังไง” “แต่แขนของคุณหนูยังไม่หายดีนะคะ ถนอมตัวเองสักหน่อยซีคะ อีกไม่กี่วันคุณหนูจะต้องไปพบว่าที่เจ้าบ่าวของคุณหนูแล้วนะคะ” พอยูเลียน่าท้วงลดาจึงก้มลงมองแขนตัวเองก่อนระบายลมหายใจน้อย ๆ “เพราะอย่างนั้นไงคะ ลดาถึงอยากสูดกลิ่นไอแห่งอิสรภาพก่อนที่ตัวเองต้องถูกพันธนาการด้วยความต้องการของคุณพ่อ ลดาทำเพื่อท่านทุกอย่างนะคะ แต่ขอเวลาที่ลดาจะได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง มันไม่มากไปใช่มั้ยคะ ป้ายูลี่” “โถ! คุณหนูของป้า เอาเถอะ...เอาะเถอะ...อย่าออกไปไกลนักนะคะ ถ้ามีอะไรโทรมาหาป้า จำเบอร์ห้องอพาร์ตเม้นท์ของคุณพ่อได้ใช่มั้ยคะ?” ลดาพยักหน้ารับและกอดจูบแม่นมดังเช่นทุกวันที่ต้องทำตอนเช้าและก่อนเข้านอนเสมอตั้งแต่เล็ก หญิงสาวพาร่างระหงลงลิฟท์จากชั้นบนสุดลงไปถึงชั้นล่างของอพาร์ตเม้นท์ความสูงสิบห้าชั้น แม้จะยังแปลกใจว่าบิดามาซื้อตึกที่อยู่ใจกลางกรุงมอสโคราคาแพงหูดับตับไหม้นี้ได้อย่างไร หากก็คิดในทางบวกเสมอว่าอาจเป็นเงินเก็บออมของชายรัสเซียคนหนึ่งซื้อที่อยู่ไว้เผื่อจะได้กลับมาอีกครั้ง กรุงมอสโกในยามบ่ายซึ่งมองเห็นเพียงหิมะหล่นลงมาเป็นสายทว่าก็มิอาจบดบังความฟู่ฟ่าของเมืองใหญ่ได้ บิดาของเธอเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยสหภาพโซเวียตยังกุมอำนาจ ความเป็นอยู่ของทุกคนถูกจัดสรรเท่า ๆ กันโดยรัฐบาลปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ไม่มีคนรวย ไร้ซึ่งคนจน หากแต่เมื่อทุกอย่างล่มสลาย อุดมการณ์ของรัฐในฝันกลับถูกกลบทับด้วยระบบทุนนิยมซึ่งทุกคนล้วนไฝ่ความมั่งมี ห้องเสื้อแบรนด์เนมและร้านบูติก ช็อปสุดอลังการผุดขึ้นราวดอกเห็ด บนท้องถนนที่การจราจรติดขัดก็จะเห็นรถยนต์พะยี่ห้อแพงลิ่วซึ่งอาจเป็นของนักธุรกิจหรือพวกมาเฟียนิยมของหรูราคาไม่ต่ำกว่าล้าน คืนวันอันผุพังเก่ากร่อนมิได้ถูกบั่นทอนหากแต่ฉาบทาด้วยสีสันอันรุ่มรวยของรัสเซียใหม่ตระการตาไปทุกหนแห่ง หญิงสาวเดินห่างจากอพาร์ตเม้นท์มาได้ไม่ไกลก็ต้องหยุดกึกเมื่อรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำเป็นมันปลาบแล่นเข้ามาเทียบริมฟุตบาทและเธอได้ยินเสียงของใครบางคนเมื่อกระจกอาบฟิล์มถูกลดลงจนหมด “ลดา...คุณจะไปไหน?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม