ตอนที่ 6.

977 คำ
หญิงสาวรีบหยิบชุดใกล้มือมากอดไว้ ปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายเห็นเรือนร่างสคราญตา พลางขยับจะวิ่งหนีแต่อีกฝ่ายกลับไวกว่ากระโจนเข้ามารวบเอวเธอไว้แน่น ใช้มือปิดปากไม่ให้กรีดร้องขอความช่วยเหลือ “เงียบนะ ถ้าไม่อยากถูกฉันหักคอจิ้มน้ำพริก” ธันวากระซิบขู่เสียงเข้มทำหน้าดุๆ ใส่ เขารวบร่างงามมากอดไว้แน่น ลากเธอให้ห่างจากประตูห้องพามายังเตียงนอนกลางห้อง ร้านของสุชาดาค่อนข้างใหญ่ มีห้องแต่งตัวเลียนแบบห้องพักในโรงแรม มีห้องน้ำในตัว มีเตียงให้นั่งพักผ่อน เป็นการบริการที่ยอดเยี่ยมจนธันวานึกขอบคุณ “คุณน้ำคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงพนักงานตะโกนถามอยู่หน้าห้อง ทำให้เจ้าของชื่อกลอกตาไปมาอยากจะร้องบอก แต่พอเห็นสายตาดุๆ ของคนที่จับเธอไว้ก็ไม่กล้าได้แต่หุบปากนิ่ง “บอกเขาไปว่าไม่มีอะไร อย่าพูดมากกว่านั้น ถ้าไม่อยากให้ฉันหักคอสวยๆ ของเธอให้ตายคามือ” ธันวากระซิบข่มขู่ ก่อนจะยอมยกมือออก พยักหน้าให้   หญิงสาวพูดได้ “ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ ฉัน อุ๊บ!” มือหนาตะปบปิดปากไว้ก่อนที่หญิงสาวจะพูดต่อ “ค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วย เรียกได้นะคะ” เสียงฝีเท้าของคนหน้าประตูเดินห่างออกไปแล้ว ธันวาถึงยอมปล่อยมืออีกครั้ง แต่ยังคงกอดรัดร่างนุ่มนิ่มไว้แน่น ตัวเขาทาบทับก่ายเกยเอาร่างหนักๆ กดเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนี “แกเป็นใคร อยากได้อะไรก็บอกมา ฉันมีเงินในกระเป๋าเอาไปให้หมดเลย แล้วปล่อยฉันนะ อย่าทำอะไรฉัน” น้ำหนึ่งพยายามข่มความกลัว หาทางเอาตัวรอดจากโจรร้ายหน้าตาหล่อจัดคนนี้ เขาแต่งตัวดีไม่มีท่าทางเหมือนโจร แต่คนเราจะมองกันที่หน้าตากับการแต่งตัวก็ไม่ได้วัดว่าเป็นคนดี หากเขาไม่ใช่โจรก็น่าจะเป็นพวกโรคจิต คิดแบบนี้แล้วหญิงสาวก็ขนลุกเกรียวด้วยความหวาดหวั่น “เงินน่ะฉันมีเยอะแล้ว เก็บเงินของเธอไว้เถอะ” ธันวายื่นหน้ามาจนเกือบชิดใบหน้าของหญิงสาว เขากลั้นยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายหวาดกลัวจนหน้าซีด “แล้วแกเข้ามาในนี้ทำไม” น้ำหนึ่งถามเสียงสั่น ยกมือยันแผงอกหนาไม่ให้เข้ามากดทับทรวงอกเปลือยของเธอ ร่างหนาหนักจงใจบดเบียดเข้ามาแนบชิดราวกับแกล้ง เธออึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก เขาตัวโตและหนักเกินไป เธอหาทางดิ้นรนหนีแต่ก็ไร้ผล “ฉันอยู่ในนี้ก่อนเธอเข้ามานะ เธอต่างหากที่เข้ามาในนี้เอง” เขาเล่นลิ้น โยนโทษให้เธอเป็นฝ่ายผิด “ฉันไม่รู้ว่ามีคนอยู่ พนักงานพาฉันมา แก เอ่อ คุณเป็นลูกค้าของคุณสุใช่ไหม” น้ำหนึ่งใจชื้นขึ้น เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนร้ายแต่เป็นลูกค้าของร้านนี้ เมื่อกี้เธอเหมือนเห็นเขานั่งคุยกับเจ้าของร้าน “ใช่ ฉันมาถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งกับคู่หมั้น เธอล่ะมากับคู่หมั้นเหมือนกันสิท่า” เขาเอ่ยถามขยับตัวผ่อนแรงกดทับ เว้นช่องว่างให้เธอหายใจสะดวกขึ้น แต่ไม่ยอมปล่อยหญิงสาวออกจากอ้อมแขน ร่างนุ่มนิ่มนี้ให้ความรู้สึกดีจนอยากกอดนานๆ “ฉันก็มาลองชุดที่สั่งไว้ คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ” น้ำหนึ่งขืนกายให้เขาปล่อยเธอ แต่ชายหนุ่มไม่สนใจยังคงกอดรัดเธอไว้แน่น ไออุ่นจากร่างหนาเหมือนจะห่มคลุมร่างเกือบเปลือยของเธอ มันรู้สึกวูบวาบแปลกๆ ตั้งแต่โตเป็นสาวเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมากเท่านี้มาก่อน กับภาคินที่เป็นคู่หมั้นก็แทบจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เขารักษาระยะห่างทำตัวเป็นพี่ชายมากกว่าเป็นคนรัก การหมั้นหมายของเธอกับภาคินเกิดจากเขาต้องการดูแลเธอแทนพี่สาวที่จากไป น้ำหนึ่งรู้ดีว่าภาคินยังรักน้ำเพชรพี่สาวของเธอตลอดมา เธอไม่เคยเปลี่ยนใจเขาให้มารักเธอได้ “หอมดีนะ ใช้น้ำหอมอะไร กลิ่นเหมือนแป้งเด็ก” ธันวาก้มหน้าลงกดจมูกบนแก้มนุ่มๆ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะบอกให้ปล่อย ก็เขาตั้งใจกอดเธอไว้แบบนี้ ตั้งใจจะทำแบบที่คู่หมั้นแสนเลวของเธอทำกับคู่หมั้นของเขา ร่างนุ่มหอมนี่ก็ยั่วยวนชะมัด “อย่านะ คุณกำลังลวนลามฉันนะ คุณมีคู่หมั้นแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมทำแบบนี้ ไม่กลัวคู่หมั้นรู้เหรอไง” น้ำหนึ่งเบี่ยงหน้าหนี ใจเต้นโครมครามด้วยความหวาดหวั่น เธอกลัวเขาทำอะไรบ้าๆ กับเธอ ผู้ชายคนนี้กล้าลวนลามเธอทั้งๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว และเขาก็รู้ว่าเธอก็มีคู่หมั้นเหมือนกัน “แล้วเธอล่ะ กลัวไอ้คู่หมั้นเธอรู้ไหม ว่ากำลังถูกฉันกอด จูบ ลูบไล้อยู่” ปากเขาพูดไปจูบไปทั่วดวงหน้าสวย มือก็ลูบไล้ผิวนุ่มของเธอไปมา มือหนากระชากชุดที่เธอนำมาปกปิดทรวงอวบโยนทิ้ง น้ำหนึ่งผวาตกใจพลิกกายจะหนีแต่เขาก็จับข้อมือเธอกดไว้เหนือศีรษะ ใบหน้าหล่อคมแบบไทยแท้ยื่นเข้ามาใกล้ ดวงตาสีนิลจ้องมองใบหน้าเธอด้วยแววตาคมกล้า ริมฝีปากหยักกดยิ้มร้ายเมื่อเห็นเธอตัวสั่นด้วยความกลัว เขาปัดสายตามองไปทั่วร่างงามที่ตอนนี้เผยความเย้ายวนให้เขาได้ชมโฉมแบบไร้ทางปกปิด มีเพียงชั้นในตัวน้อยเพียงตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดปทุมคู่งาม 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม