เมื่อไหร่พี่ช้างจะทิ่มแทง สอดใส่ ความเป็นชาย นั่นเป็นสิ่งที่เธอคิด แต่ไม่กล้าแม้แต่จะสอดมือเข้าไปจับให้ลำแข็งเข้าที่เข้าทาง
พี่ช้างผละจากริมฝีปากหอมหวาน ซุกไซ้ซอกคอผ่อง แล้วจบลงที่หัวนมชูชันของเธออีกรอบ ดูดจนแก้มตอบเสียงดังจ๊วบ
จันทร์เจ้าน้ำตาคลอ ซึ่งเธอไม่แน่ใจนักว่า มันคืออารมณ์แบบไหน ร่องรักแฉะด้วยเมือกน้ำหวานจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังไหลล้นออกมา
พี่ช้างก็เกินจะสะกดกลั้นเสียงเอาไว้ได้เช่นกัน น้ำเสียงที่เล็ดลอดผ่านลำคอจึงไม่แตกต่างจากจันทร์เจ้า
มือของพี่ช้างล้วงผ่านเนินเนื้อเต้าอวบอิ่มแน่นปั๋งของหญิงสาว ออกแรงแค่นิดเดียวเท่านั้น ยกทรงหลุดขึ้นไปกองเหนือหน้าอก
เม็ดนมชูชัน รอบ ๆ ป้านสีแดงเรื่ออมชมพูนั้น มีรอยตะปุ่มตะป่ำผุดขึ้นให้เห็นชัดเจน เพราะอารมณ์ฤษณาสุดขีดของหญิงสาว
เกินความสามารถในการอดทนอดกลั้นของพี่ช้างได้อีกแล้ว
เขาจึงครอบริมฝีปากลงไปดูด... เสียงดังจ๊วบนั้น ทำให้จันทร์เจ้าสะท้านเฮือก มือที่ขยับอยู่กับแท่งของเขาก็ผละมาคลึงศีรษะของเขาแทน เพราะอารมณ์สุดเร่าร้อนรัญจวน
“พี่จ๋า”
จันทร์เจ้าหลุดเสียงออกมา ไม่ใช่มารยาสาไถย สาวบ้านป่าอย่างเธอมีหรือจะกล้าพูดอ่อนหวานกับผัวใหม่หมาดเกินงาม และเกินจำเป็น
คำพูดที่หลุดปากให้ได้ยินเวลานี้ จึงเกิดจากห้วงอารมณ์ลึกล้ำ
น้ำหวานผุดพรายจากเบื้องลึกเช่นกัน และน้ำหวานดังกล่าวก็กำลังทำให้กลีบดอกไม้ของเธอฉ่ำชุ่ม พี่ช้างดูดเม็ดสีแดงเรื่ออมชมพูสลับข้างกันสักพัก ก็เลื่อนตัวต่ำลงมา
หน้าท้องแบนราบบิดเป็นเกลียวเมื่อถูกสัมผัสด้วยจมูก และปากของเขา
ใจของจันทร์เจ้าถึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ก็ยังรู้ว่า เธอไม่ได้ต้องการให้เขาขยับต่ำลงไปกว่านั้นอีก เพราะถัดจากหน้าท้องแบนราบของเธอ ก็จะถึงบริเวณเนื้ออูมสามเหลี่ยม จุดซ่อนเร้นที่แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกอาย หากจะต้องให้มองเห็นด้วยสายตาตัวเอง
“พี่จ๋า จะทำอะไร... อย่าค่ะ...”
หญิงสาวหลุดเสียงปราม แต่น้ำเสียงของเธอเบาหวิวเสียจนไม่ได้ยิน และคำพูดเหล่านั้นก็หลุดลอยออกไปพร้อมกับอาการสะท้านเฮือกอีกครา เพราะพี่ช้างใช้ลิ้นเฉาะลงไปบนเนื้ออูม
กลีบดอกไม้หนาวสะท้าน เปียกปอน ในกลีบมีน้ำฉ่ำ ไม่ต่างอะไรกับในค่ำคืนที่กำลังถูกถาโถมเข้าใส่ด้วยมรสุมน้ำค้าง
น้ำค้างที่เล็กสุดขีดเป็นแค่ละออง ยังสามารถโถมเข้าสู่กลีบดอกไม้จนกลายเป็นหยดน้ำขนาดใหญ่ นับประสาอะไรกับ...ลิ้นของพี่ช้าง
ดูเหมือนพี่ช้างกำลังรุ่มร้อนด้วยฤษณาสุมทรวง จึงดูเหมือนลืม แต่ไม่ได้ลืมหรอกว่า เนื้ออูมยังถูกปกปิดแน่นสนิทด้วยกางเกงชั้นในบางเบาของจันทร์เจ้า
ลิ้นของพี่ช้างเฉาะ และเซาะเข้าสู่ร่องกลีบดอกไม้ จากแค่หยอกล้อแผ่วเบา เริ่มเติมความหนักหน่วง จันทร์เจ้าสะดุ้งแล้วสะดุ้งเล่า ผวาแล้วผวาเล่า มือของเธอที่เคยอยู่ในลักษณะ...แนบลำตัว หรือต้องให้พี่ช้างเป็นคนจัดท่าจัดทางให้ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมาขยุ้มอยู่บนหัวของพี่ช้าง
มือทั้งสองข้างของจันทร์เจ้าไม่เพียงแค่ขยุ้มขยำลงไปบนเส้นผมของพี่ช้างแต่เพียงอย่างเดียวก็หาไม่ บางครั้งมีการกดเหมือนต้องการให้เขาฝังใบหน้าทั้งหมดให้จมลึกเข้าไปเสียตรงนั้น
จันทร์เจ้าไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงได้มีอารมณ์ความต้องการเป็นแบบนี้
“พี่จ๋า...”
จันทร์เจ้าพึมพำ ใจจริงอยากจะถามเขาว่า ทำไมไม่ถอดกางเกงในออกไปเลย แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
ตอนนี้...พี่ช้างเลยเนื้ออูมไปแล้ว
จูบของพี่ช้างเหมือนจงใจจะทำในทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างของเธอ ดูสิ ตรงเนื้ออูม พี่ช้างก็จูบ เรียวขา พี่ช้างก็ทำ
และตอนนี้พี่ช้างขยับไปอยู่ต่ำสุด
เท้าของจันทร์เจ้าถูกยกขึ้นทั้งสองข้าง จันทร์เจ้าลืมตามองก่อนจะสบกับดวงตาอันเต็มไปด้วยประกายร้อนแรงของพี่ช้างกลางอากาศ
พี่ช้างกำลังใช้ริมฝีปากกับนิ้วของจันทร์เจ้า
ต่ำสุดแบบนั้น พี่ช้างยังหาญกล้า ไม่ได้มีความรังเกียจใด ๆ ทั้งสิ้น
จันทร์เจ้าไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้มาก่อนว่านิ้วเท้าต่ำสุดที่กำลังถูกริมฝีปากของพี่ช้างดูดดื่มนั้น กลับส่งผลอย่างใหญ่หลวงถึงความรู้สึกของเธอ
ปั่นป่วนสุดเหวี่ยง จนกระทั่งรู้ว่า กลีบดอกไม้กำลังขับน้ำหวานทะลักออกมา
เธอบิดตัว สีหน้าเหยเก ริมฝีปากอันแห้งผากเผยอแล้วแลบลิ้นออกมาตวัดเลีย มันคือท่วงท่ากิริยาที่แสดงออกมาตามสัญชาตญาณ
“อู้ยยย พี่จ๋า พะ...พี่จ๋า...”
“จ๋า”
พี่ช้างวางเท้าของเธอลงข้างหนึ่ง แล้วทำอย่างเดิมกับอีกข้าง
สายตาของพี่ช้างคงจะเห็นแล้วว่า เนินนูนอัศจรรย์ของจันทร์เจ้าคล้ายกับมีร่องรอยเปียกชุ่มมองเป็นเป็นร่องยาว
เขายิ้มอย่างพึงพอใจที่สามารถปลุกความกำหนัดของเธอให้ทะลักออกมาได้ ยิ่งทำให้รู้สึกมั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้น
พี่ช้างจ้องเขม็งที่ร่องนูนเผยอแยกเหมือนกับรอยยิ้มอันงดงามของหญิงสาว
เมื่อวางเท้าของหญิงสาวราบลงกับพื้น พี่ช้างก็ลากจมูก ลากลิ้นไต่ขึ้นไปข้างบน โดยเริ่มต้นจากปลายเท้านั่นเอง
เรียวขา ถูกบรรจงจูบ ถูกลูบไล้ด้วยมือหนาของพี่ช้าง
ถึงเข่า พี่ช้างหยุดจูบหนัก ๆ แล้วขยับลงไปฝังจมูกเข้าหาที่ข้อพับ และสลับขึ้นมาจูบหนัก ๆ ที่หัวเข่าอีกครั้ง
จันทร์เจ้าหลับตาพริ้ม เสียวเสียจนไม่สามารถควบคุมร่างกายให้เป็นปกติได้ เธอบิดน้อย ๆ ขยับ ๆซ้ายขวา หน้าท้องแบนราบนั้นเหมือนกับจะบิดเป็นเกลียวอยู่ตลอดเวลา บางครั้งกลายเป็นร่องลึกลงไป เพราะเธอกลั้นใจยาว
เสียงของเธอที่หลุดเล็ดลอดออกมาในเวลานี้ ไม่สามารถฟังความหมายเป็นอย่างอื่นได้เลย นอกจาก...ความรู้สึกจากเบื้องลึก
หญิงสาวผู้ยังมีตัณหาเปี่ยมล้น อาการหงี่กระสันตามธรรมชาติ ถูกปลุกเร้าด้วยฝีมือนักรักของพี่ช้าง
ตอนนี้...
พี่ช้างขยับมาหยุดอยู่แค่ขาอ่อน ขยับขึ้นไปอีกนิดเดียวก็เป็นพื้นที่รอยต่อของเนินสามเหลี่ยม พงพีที่ปกคลุมนั้นค่อนข้างบางตา จนดูเหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์อื่นใด นอกจากเป็นสัญลักษณ์ว่า เจ้าของเนินสามเหลี่ยมพร้อมจะถูกปักเสาเข็ม เพื่อยืนยันว่ามีเจ้าของอย่างเป็นทางการ
“พี่ช้างจ้องอะไรหนูคะ”
หญิงสาวปรือตามองพี่ช้าง เห็นจ้องเขม็งอยู่ที่เนินสามเหลี่ยมของเธอชนิดไม่ยอมกะพริบตา
“สวยจริง ๆ”
พี่ช้างพึมพำ
“ยี้ น่าเกลียดออก”
จันทร์เจ้าหน้าแดง ยังนึกไม่ออกว่าทำไมผู้ชายอย่างพี่ช้างถึงได้ชอบมองนัก ตรงนั้นมันน่าดูตรงไหน
“ก็จันทร์เจ้าสวยจริง ๆ นี่นา ดูสิ เนินนูน อวบอูม แต่ร่องปิดสนิท”
“ยี้ หนูไม่คุยกับพี่แล้ว”
จันทร์เจ้าหลับตาลงด้วยความเขินอย่างที่สุด ความรู้สึกก็ปั่นป่วนรัญจวนใจอย่างที่สุด แม้จะรู้อยู่แล้วว่า จุดหมายปลายทางของพี่ช้างในคืนนี้ จะจบลงที่ตรงไหน
ส่วนที่เธอว่า น่าเกลียด ก็คือส่วนที่เธอทะนุถนอมอย่างที่สุด สำหรับผู้ชายที่จะมาเป็นสามี
พี่ช้างยิ้ม แต่กลับละสายตาจากกลีบดอกอวบอูมแล้วเลื่อนตัวขึ้นไปอยู่เหนือร่างของเธอ แท่งขนาดใหญ่อยู่ในระดับจ่อกับกลีบดอกไม้ของจันทร์เจ้า เพียงแต่เขายังไม่ได้ตัดสินใจทำ
จันทร์เจ้ารู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองร้อนระอุ และมีอาการติดขัด เธออยากจะบอกเขาใจแทบขาดว่า จะทำอะไรก็ทำซะทีเถอะ เธอรุ่มร้อนจะไม่ไหวอยู่แล้ว
พี่ช้างก้มจูบที่หน้าผากมน หอมแก้มนวล ก่อนจบลงที่พยายามประกบปากอีกครั้ง
จันทร์เจ้าเผยอริมฝีปากออก เพื่อเปิดทางให้กับลิ้นของพี่ช้าง
เขาจูบ ส่งลิ้นเข้าไปทักทาย แล้วทาบส่วนล่างประกบ ลำแข็งๆ เสียดสีกับกลีบดอกไม้ ร่องสวาทชุ่มฉ่ำเตรียมพร้อม
คราวนี้พี่ช้าง ทาบลงไปทั้งตัว
ลำตัวหนา ๆ ของพี่ช้างมิดเรือนร่างของหญิงสาว สีผิวเข้มตัดกับผิวพรรณขาวสะอาดของเธอ เต้าตูมถูกบดคลึงด้วยหน้าอกของพี่ช้าง
แท่งรักของพี่ช้างแม้จะแค่เฉียดกรายกับกลีบรักของเธอ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้หญิงสาวเสียวสะท้าน
เธอหลุดปากเหมือนพยายามร้องขอ
“พี่จ๋า...”