คุณสามารถจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ ก็ไม่เห็นต้องพึ่งวานผมเลย

1191 คำ
ตอนที่ 10 พีรียาเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังพร้อมชี้เหตุผล ซึ่งเห็นว่าสีหน้าของเขาเข้าใจ และยิ้มสดใส “งั้นคุณสามารถจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ ก็ไม่เห็นต้องพึ่งวานผมเลย ” เขาถามด้วยเสียงนุ่มทุ้มเงียบๆ อีกครั้ง “ไม่ใช่อย่างนั้นสิคะ ปัณรุจน์ คุณมีส่วนอยู่เหมือนกัน ฉันคิดว่าคุณช่วยฉันด้วย เพราะฉันเอาชื่อคุณมาอ้าง ขอโทษนะคะ ที่พามาทำความรบกวน แล้วมาถึงแล้ว ไม่ได้ทำอย่างที่ฉันต้องการ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าเหตุการณ์เกิดแบบไม่คาดฝัน ฉันก็คาดไม่ถึง นึกว่าเขาจะตื้อแบบหน้าด้านๆอยู่ต่อไปอีก” แล้วหล่อนเอ่ยต่อ “ทางนั้นก็ถือว่าฐานะชาติตระกูลเขาก็เป็นคนมีชื่อเสียงในวงสังคมคงจะรู้สึกหน้าบางล่ะคะ ที่จริงฉันไม่อยากจะใช้วิธีนี้หรอกแต่เมื่อมันไม่มีทางไหนเลยให้ฉันเลือกนี่ เพราะฉันเคยบอกคุณแล้วนี่ ” ชายหนุ่มต่อความให้เขาจำได้เหมือนเขาล้อเลียนหล่อน “ถ้าจะให้ผมเดาคุณก็ต้องตอบว่าฉันอยากจะเป็นสาวสวยที่ยังโสดอยู่ ไม่ชอบใช้นามสกุลของใคร ” “ใช่ค่ะ” พยักหน้า ดีที่เขาอารมณ์ดี ยิ้มนัยน์ตาสุกใส แต่ลึกๆนั้นซ่อนอารมณ์บางประการไว้ ปัณรุจน์รู้ดี เขาฝืนความรู้สึกของตนเองมากกว่า สักครู่เขาจึงเอ่ย “งั้นจบเรื่องแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนได้ไหม คุณ” “ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้ ฉันยังไม่ให้คุณกลับ” เออะเขาก็จะกลับ ทำไมจะรีบกลับ เสียงแข็งๆของเธอออกคำสั่ง รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันทีเขาเลยเผลอหลุดปากโต้ทันควัน “อ้าว คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามผมนะเรื่องนี้” หญิงสาวนิ่งครุ่นคิด ใช่เขาพูดถูก “เวลาเหลืออีกตั้งมากไม่ใช่หรือ คุณบอกว่า ห้าโมงครึ่งก็ทัน นี่สี่โมงครึ่งเท่านั้นเอง เอาเถอะนะ อยู่ต่อหน่อย รับรองฉันไม่เบี้ยวจ่ายค่ารถคุณหรอก ฉันจะแถมให้ด้วยต่างหากล่ะ เป็นค่าทิปไง ในเมื่อคุณมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือฉัน” “ผมไม่ต้องการเงินพิเศษหรอก ไม่ต้องการเงินทิป ผมช่วยเพราะอยากจะช่วยเท่านั้น” หญิงสาวนิ่งอีกครั้ง เข้าใจความรู้สึกของเขาดี “แต่ฉันขอร้อง” หล่อนเอ่ยว่าอย่างคนงอนนิดหน่อย เขาหันไปมองริมฝีปากอมยิ้ม “ถ้าคุณขอ ก็ได้ เอาล่ะ ผมก็จะให้” ตอบกลับอย่างง่ายๆ “นายนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ” หล่อนว่าใส่เขา หากแต่เขากลับย้อนเสียงถามกลับอย่างเรียบๆ “ไหน ผมเจ้าเล่ห์ยังไง บอกอธิบายให้ฟังหน่อยซิ อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ” เขาเอ่ยสีหน้าตึงเงยหน้ามองหล่อนแวบหนึ่ง “ไม่รู้ ”สั้นปฏิเสธเป็นคำตอบของพีรียา “ งั้นจะมาหาว่าผมเจ้าเล่ห์ไม่ได้นะคุณ” “ยังจะมาเถียงฉันอีก”พีรียาดุเขา แต่ก็ไม่มีคำตอบใดพูดต่อไปอีก พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองผิวสีแทนบนใบหน้าเกลี้ยงเกลา ที่เขาดูสุภาพและอ่อนโยนในน้ำเสียงตลอดเวลา ไม่รู้เหมือนกันนะ พีรียาอยู่ใกล้เขา ผู้ชายคนนี้แล้วดูมีความสุข ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ยังบอกไม่ถูก แต่ไม่ต้องการให้เขาขยับเข้ามาเป็นแฟนหล่อน เหมือนอย่างคนอื่นแน่ และที่สำคัญนั้น พีรียายันยืนยันในเจตนาเดิมของหญิงสาว ว่าไม่ต้องการให้สิทธิทางกฎหมายมาผูกพันให้หล่อนเป็นของคนอื่น นางสาวพีรียาอยากเป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิม แต่สำหรับเขา ถ้าเป็นได้ ก็เป็นแค่แฟนอุปโลกน์ ที่ตกลงกับเขาไว้ หญิงสาวเป็นคนเดินนำทางเข้าไปด้านใน เลือกร้านสุกี้ร้านหนึ่งที่มีความสะอาด ปัณรุจน์ก้าวตามมาพร้อมและก็ทรุดนั่งในเวลาเกือบจะพร้อมกัน “อยากสั่งอะไรเพิ่มอีกมั๊ย ฉันเลี้ยงนายเต็มที่เลย ก่อนจะไปทำงาน ” “เพิ่งรู้ว่าเศรษฐีนี่เขาอวดรวยกันอย่างนี้ ” เขาเอ่ยขึ้นเล่นลิ้นขุ่นกวนใจอย่าง ถือวิสาสะว่าหล่อนเบาๆ ไม่สนกับสีหน้าที่โมโหและบึ้งตึงบนดวงหน้าหวาน “ทำไม แล้วคนเป็นเศรษฐีเป็นยังไงแล้วคนระดับอย่างนายเคยได้เข้ามาทานหรือเปล่า ” พีรียายวนเสียงกลับเขาเอ่ยตอบเรียบๆแบบไม่ทันควัน ไม่มีความรู้สึกโมโหหรือไม่พอใจปนปะมาสักนิด “ ไม่หรอก ผมเองไม่เคยทาน คิดว่า มันไม่จำเป็น ” ฟังคำตอบของเขา ทำให้พีรียานิ่งอึ้ง หล่อนไม่ควรดูถูกเขา และก็รู้ดีว่าฐานะของเขาและหล่อนต่างกัน ไม่ควรเอาปมด้อยตรงนี้มาเอ่ยถึงแล้วก็เห็นเขานิ่งเงียบไม่เอ่ยว่าอะไร มองเห็นว่า เขาช่างเป็นคนที่อดทนมากมายยิ่งนัก หลังจากที่สั่งอาหารแล้วพีรียาทานได้ไม่มากหญิงสาวเป็นฝ่ายมองดูเขาทานมากกว่าปัณรุจน์ทานไปครุ่นคิดไปด้วยจนว่าหมดชามนั้นจากนั้นเขาบอกว่าพอและเอ่ยขึ้นว่า “ ผมเห็นจะต้องกลับแล้วนะ เอาไว้วันหน้า เงินผมออกผมเป็นฝ่ายเลี้ยงคุณบ้าง ไม่งั้นผมเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอดไป” อิ่มอาหารแล้วนั้นปัณรุจน์จึงเอ่ย แต่หล่อนไม่คิดอะไรมากหรอกกับคำพูดของเขา พีรียาเองนั่งยิ้มให้เขา และกำลังคิดว่าตัวเองจะไปไหนดีล่ะ ร่างระหงก้าวตรงมายังบริเวณลานจอดรถ ขับรถเบ๊นซ์สีบรอนซ์น้ำเงินที่ออกมาจากบ้าน และในใจมุ่งไปหามิ่งกานดาหลังจากนั้น ที่บ้านพักซึ่งอยู่แถวลาดพร้าว มิ่งกานดาพักอยู่ที่คอนโดนส่วนตัว เพื่อนสาวทำงานเป็นมัณฑนากรรับจัดตกแต่งบ้านและออกแบบทั้งสวนและเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับภายในบ้าน และเปิดบริษัทเป็นของตนเอง ซึ่งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก หักซ้ายตรงดิ่งเข้าถนนลาดปลาเค้าเชื่อมติดกับลาดพร้าววังทองหลาง หญิงสาวขับรถอย่างชำนาญ ถึงบ้านเพื่อนพบว่ามิ่งกานดาอาบน้ำเสร็จแล้ว อยู่ในชุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน “ หวัดดีจ้ะ ยัยเพี๊ยช เข้ามาข้างในก่อนสิ ทำเหมือนเหินห่างไปได้ นี่ห้องเพื่อนนะจ้ะ เธอไม่เคยมาเยี่ยมมาขลุกอยู่กับฉันเหมือนเมื่อก่อนเลย ” “แต่วันนี้ฉันมาขลุกแน่ขอนอนกับแกด้วยซักคนนะ ” พีรียาเอ่ย ผลักประตูปิดเบาๆตามเดิม พร้อมเดินมาหยุดทรุดนั่งที่โซฟาเบาะสีน้ำตาลฝีมือการออกแบบจัดตกแต่งห้องของเพื่อนสนิท สมกับมืออาชีพที่เรียนจบจากศิลปากร โทนสีของห้องเป็นสีอ่อนหวานเย็นอย่างสีครีม พีรียาใช้สายตาสำรวจยังนึกชื่นชอบ คำพูดนี้ทำให้มิ่งกานดาตกใจไม่น้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม