“มาทำอะไรตอนนี้ ไม่สบายเหรอ”
“มาไม่ได้เลยรึไงล่ะ ฉันเป็นพี่ชายแกนะเว้ย”
“เกิดก่อนสองนาทีกล้ามาบอกว่าเป็นพี่ชาย แล้วมีอะไรมาดึกดื่นแบบนี้”
“ก็แค่...เบื่อ”
พอลพล นายแพทย์หนุ่มน้องชายฝาแฝดคนเล็กของแพชรพลเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจที่เห็นพี่ชายมาหาเขาดึกดื่นป่านนี้
“ผมต้องทำงาน ถ้าไม่มีธุระด่วนก็กลับไปได้แล้ว”
“อะไร พึ่งเข้ามาจะรีบออกไปไหน หรือว่าแกไปแอบมีผู้ป่วยสาวๆสวยๆถึงรีบไปรีบมาขนาดนี้”
คำพูดของพี่ชายทำเอาพอลพลถึงกับชะงักขาที่กำลังจะเดินหนีออกไป นี่สินะที่เขาเรียกว่าฝาแฝด เพราะเพชรพลดันพูดจี้ใจดำเขาเข้าอย่างจัง
“ฮะฮะฮะ แบบนี้แสดงว่าฉันพูดถูก โอ้ว ใครกันนะผู้หญิงโชคร้ายคนนั้น ขอพี่ชายคนนี้รู้จักหน่อยได้ไหม”
“พอเลยๆๆ กลับไปได้แล้ว ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากมายแล้วพี่ก็เลิกพูดเรื่องไร้สาระด้วย อย่าหาว่าผมไม่เตือน”
“แหม ฉันก็แค่พูดเล่น แกมีสาวบ้างก็ดี ฉันจะได้หยุดคิดว่าแกคงเอาศพเป็นเมีย โอ๊ยๆๆๆๆๆ ไปแล้วๆๆๆๆ”
ยังพูดไม่ทันจบ กลุ่มผมสลวยสีน้ำตาลอ่อนของเพชรพลก็ถูกรวบกำเอาไว้แน่นด้วยสองมือของน้องชายคนสุดท้องเมื่อเริ่มโกรธกับคำพูดของพี่ชาย ทำเอาเพชรพลรีบสะบัดหัวแล้ววิ่งหนีออกไปทันที ปล่อยให้พอลพลได้แต่ยืนสงบสติอารมณ์โกรธอยู่ในห้องทำงานคนเดียว
“ไอ้พี่บ้า! พูดเหลวไหลอยู่ได้”
พอลพลผู้สงบและเยือกเย็นจนใครๆต่างก็ตั้งฉายาให้ว่าคุณหมอน้ำแข็งกำลังละลายด้วยไฟโกรธ เมื่อน้อยคนนักที่จะจุดอารมณ์เหล่านี้ของเขาขึ้นมาได้และหนึ่งในนั้นก็คือเพชรพล พี่ชายฝาแฝดของเขานี่แหละ
“แฮ่กๆๆ โอ๊ยเหนื่อย ไอ้น้องบ้านั่นมันต้องซ่อนผู้หญิงเอาไว้แน่นอน คอยดูเถอะ จะจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย”
เพชรพลที่วิ่งออกมาไกลแล้วถึงกับหอบเหนื่อย เขาอุตส่าว่าจะมาปรึกษาเกี่ยวกับความรู้สึกแปลกๆที่เขามีอยู่ในตอนนี้สักหน่อย แต่สุดท้ายกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อน้องชายกลับไม่ว่างพอที่จะนั่งฟัง สุดท้ายเขาก็ต้องเดินกลับออกไป
“ฮัลโหล พีช แกว่างรึเปล่า ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”
“นี่มันกี่โมงกี่ยาม จะโทรมาก็ดูเวลาหน่อย ไม่ว่างโว้ย!”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
“ไอ้น้องเวร! พึ่งพาอะไรไม่เคยได้เลยจริงๆ”
และความหวังสุดท้ายก็ดับลงเมื่อ พีชพล น้องชายฝาแฝดคนกลางที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตอาวุธที่อังกฤษก็ไม่ว่างรับฟังเขาอีกคน เพราะยังหลับอยู่ทำเอาเพชรพลถึงกับนั่งเหงาอยู่ในรถคนเดียว เมื่อบิดามารดาก็เอาแต่พากันเที่ยวหลังจากที่เกษียณอายุการทำงานและให้ลูกๆทำงานแทน ชายหนุ่มเลยตัดสินใจกลับห้องเมื่อตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เขายังต้องทำงานอีกมากมายที่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
เช้าวันต่อมา
“อ่าว สวัสดีค่ะ คุณพ่อทำไมมาแต่เช้าเลยละคะ ไหนบอกว่าจะไม่เข้า”
“พ่อก็แค่แวะมาเช็กอะไรนิดหน่อย ว่าแต่เมื่อวานที่ไปทานข้าวกับตาซันมา...เป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ก็...อร่อยดีค่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น ชอบพี่เขาบ้างรึเปล่า”
และนี่คงเป็นเหตุผลที่บิดาของเธอมาที่บริษัทตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ โรสรินเดินเอากระเป๋าไปวางก่อนจะเดินกลับมานั่งลงที่โซฟาข้างบิดา
“โรสจำพี่ซันไม่ได้ และโรสก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าชอบหรือสนใจพี่เขาเป็นพิเศษอะไรเลย คุณพ่อไม่ต้องพยายามจับคู่ให้โรสเลยนะคะ แค่งานก็ปวดหัวพอแล้ว”
“โธ่ อีกไม่กี่ปีลูกก็จะสามสิบแล้ว แฟนก็ไม่มีแล้วอย่างนี้พ่อจะวางมืออย่างสบายใจได้ยังไงกันล่ะ ตาซันเป็นคนดี หน้าตาก็ดีแถมฐานะทางบ้านก็รวยอีก พ่อไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนไม่ดีเลยสักนิด ลูกก็ลองเปิดใจกับพี่เขาสักนิด เผื่ออนาคตอาจชอบก็ได้นะ”
โรสรินถึงกับถอนหายใจออกมา เมื่อเธอแทบไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับอาทิตย์เลยสักนิด ทำเอาคนอยากได้ลูกเขยถึงกับแกล้งทำหน้าเศร้า
“พ่อมีลูกสาวคนเดียว ถ้าเกิดพ่อตายไปแล้วใครจะมาช่วยดูแลลูก พ่ออยากไปอย่างไม่ต้องมีห่วง...”
“โอเคค่ะ โรสจะลองเปิดใจให้กับพี่ซัน แต่ถ้ามันไม่เวิร์คคุณพ่อต้องยอมรับนะคะ”
“ได้สิ งั้นเดี๋ยวพ่อจะโทรไปคุยกับตาซัน งั้นพอขอตัวก่อนนะพอดีมีธุระต้องไปทำ”
“อ่าว...”
พูดจบคุณก้องภพก็เดินออกจากห้องทำงานของบุตรสาวไปทันที ทำเอาโรสรินถึงกับมองตามอย่างไม่อยากเชื่อว่าบิดาจะมาหาเธอด้วยเรื่องนั้นเรื่องเดียวจริงๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน เมื่ออีกไม่กี่วันก็จะต้องไปประชุมอาเซียนเกี่ยวกับการร่วมมือทางการแพทย์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากได้รับบัตรเชิญจากกระทรวงสาธารณสุขมา
ส่วนอีกคนก็ยุ่งไม่แพ้กัน เมื่อเขาก็ได้บัตรเชิญมา ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้อีกเลยต้องนั่งเคลียร์งานเพราะต้องไปประชุมยาวเป็นอาทิตย์อย่างเลี่ยงไม่ได้
“บอสคะ เมื่อเช้าคุณพีชพลโทรเข้ามา บอกให้บอสโทรกลับ”
“ไอ้น้องเวร มันจะโทรมาทำไมตอนนี้ ตอนที่อยากคุยก็ไม่ยอมฟัง ช่างมัน ผมไม่อยากคุยกับพวกมันแล้ว รู้งี้เกิดมาคนเดียวดีกว่า น่าจะเอาสายสะดือรัดคอพวกมันก่อนเกิด”
ดาราวีถึงกับอึ้งเมื่อเจอคำพูดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากปากของผู้เป็นเจ้านาย เพราะปกติแล้วเพชรพลจะเป็นคนสุขุม พูดน้อยและแทบไม่เคยแสดงความรู้สึกหรืออาการที่แสดงถึงอารมณ์ต่างๆออกมาเลย ถ้าไม่เกินทนจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเธอ
“เอ่อ แล้ว...”
“ไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมารายงานผมแล้วนอกจากเรื่องงาน”
และสุดท้ายเจ้านายหนุ่มก็กลับมาเป็นเหมือนปกติ ดาราวีตอบรับก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของเพชรพลไป เพราะเธอต้องตามเขาไปประชุมด้วย จึงต้องสะสางงานที่นี่ให้หมดช่วงนี้เลยต้องยุ่งกันเป็นพิเศษ
“คุณอาว่าอะไรนะครับ แน่ใจนะครับว่าโรสต้องการอย่างนั้น”
“ใช่น่ะสิ อาจะโกหกไปทำไมล่ะ ว่าแต่เราเถอะ แน่ใจนะว่าชอบลูกสาวอาจริงๆ อามีลูกสาวคนเดียว ถ้าเกิดมาทำให้ลูกสาวอาเสียใจ อาไม่ยอมจริงๆนะ”
“ครับ ผมคิดว่าผมไม่ได้แค่ชอบ แต่ผมรักโรสและรักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...ถ้าคุณอาเปิดทางให้ ผมสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า มันต้องอย่างนี้สิ อาเปิดทางเต็มที่ อ้อ อาทิตย์หน้าโรสจะไปประชุมที่ภูเก็ต ถ้าว่างก็ตามไปนะ”
“แน่นอนครับ”
พอคุยเสร็จคุณก้องภพก็วางสายไป ปล่อยให้อาทิตย์ได้แต่นั่งยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อผ่านด่านแรกไปอย่างง่ายดาย เหลือก็แต่ทำให้โรสรินรัก แล้วสิ่งที่เขาต้องการก็จะสมหวังทุกอย่าง เขาต้อการโรสรินและบริษัทของเธอเพื่อมาต่อยอดในงานที่เขาทำ ถ้าเกิดทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด เขาคงได้กำไรหลายเด้งเลย ทั้งคนรักและงานที่ต้องการ เพียงแค่คิดชายหนุ่มก็มีความสุขสุดๆแล้ว