อาเฟยมองภรรยาด้วยสายตารักใคร่ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงบ่าวในเรือน แต่นางไม่เคยรังเกียจเขาหลังจากที่ฟื้นขึ้นมา โดยฮูหยินรองและบุตรสาวของนางวางยาพิษ
เขาไม่คิดสงสัยว่าทำไมภรรยาของตนจึงเปลี่ยนไปจนน่าตกใจเช่นนี้ เขาเองมีความเห็นแก่ตัวเช่นกัน จึงอยากเก็บความรู้สึกเช่นนี้ไว้
และทางจวนตระกูลเหออย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ อย่าคิดว่าอาเฟยคนนี้จะยอมปล่อยให้คนที่กล้าเอาชีวิตของภรรยาของตนลอยนวล เพียงแค่เพราะสถานะของเขาในเวลานี้ยังไม่เอื้ออำนวย รอให้เขาแข็งแกร่งกว่านี้ก่อน เขาจะทวงคืนบัญชีแค้นทั้งหมดแทนฮูหยินของตน
ย่างเข้าสู่เดือนสี่ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเหอหลันฮวายังคงพาอาเฟยแวะเวียนไปดูกิจการร้านค้า ในเวลานี้นางก็ได้หัวหน้าสายซื้อขายข่าวสารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรนางยังคงให้จื่อกวงเป็นคนกลางที่ติดต่อกับเรื่องนี้
แม้ว่านางและอาเฟยจะแยกตัวออกมาจากตระกูลเหอร่วมเดือน แต่นางยังไม่อยากให้ผู้ใดรู้ว่านางคือเจ้าของหอประมูลและหอขายข่าว
ส่วนทางด้านสองแม่ลูกตระกูลเหอ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อาจเป็นเพราะทางด้านองค์ชายรองเกิดตัดความสัมพันธ์อย่างจริงจังกับเหอชิงลี่คุณหนูรองของจวน
“ฮูหยิน นายท่านขอรับ ทางหอขายข่าวแจ้งว่าตอนนี้มีการซ่องสุมกองกำลังไม่ทราบจำนวนจากเมืองตงไค่ขอรับ”
จื่อกวงรายงานหลังจากที่รับข่าวมาจากหอขายข่าวมู่ตาน ซึ่งตัวของเหอหลันฮวาตั้งชื่อเดียวกับหอประมูล
“ตอนนี้ให้คนของเราสืบได้ไหมว่า กองกำลังแห่งนี้เป็นของผู้ใด ข้าว่าต้องเกิดเรื่องสักอย่างในเร็ววันนี้เป็นแน่”
เหอหลันฮวาตอบกลับ หากมีการซ่องสุมกำลังเช่นนี้ หรือว่าเมืองหลวงจะเกิดเหตุบางอย่างขึ้น แล้วพี่ชายของนางทั้งสองเล่ารวมถึงท่านลุงที่ยังอยู่พำนักอยู่ชายแดนจะเป็นอย่างไร
“เรื่องนั้นบ่าวไม่สามารถตอบอย่างชัดเจนได้ขอรับ แต่คนของเราน่าจะพอสืบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก อีกทั้งบรรดาทาสที่ซื้อมาเพิ่ม พวกเราฝึกวรยุทธ์และการต่อสู้แล้ว คาดว่าไม่นานน่าจะพร้อมทำงานแล้วขอรับ”
จื่อหลงเป็นคนตอบ เรื่องฝึกทาสที่ซื้อมาเพื่อให้มาเป็นองครักษ์ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถของพวกเขาสี่พี่น้อง อีกทั้งครั้งก่อนนายท่านและฮูหยินให้เขาสี่พี่น้องไปเลือกด้วยตนเอง ยิ่งมีกำลังคนมากเท่าไร ความปลอดภัยของนายท่านและนายหญิงย่อมต้องมีมากขึ้นหลายเท่าตัว
“อืม รบกวนพวกเจ้าเตรียมรถม้าให้ข้าและท่านพี่ด้วย ข้าตั้งใจจะไปเยือนตระกูลฟ่านของท่านตาเสียหน่อย”
เหอหลันฮวานางคิดว่าป่านนี้ท่านตาน่าจะทราบเรื่องที่นางตัดขาดกับตระกูลเหอแล้ว แม้ท่านตาไม่มีตำแหน่งในราชสำนักและไม่ยอมรับยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ แต่ไม่อาจดูเบาในอำนาจที่ท่านตามีได้
มิเช่นนั้นแล้วท่านลุงและท่านพี่ของนางทั้งสองคนยังคงดำรงตำแหน่งในกองทัพและมีทนายไว้ครอบครองได้อย่างไร
“ขอรับฮูหยิน ข้าจะเตรียมรถม้าไว้ขอรับ”
จื่อหลงรับคำก่อนจะเดินนำจื่อกวงออกไป
จวนตระกูลเหอ
ขณะนี้ภายในจวนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดของผู้นำตระกูลเช่นเหอเฉินเทา ตั้งแต่บุตรสาวก้าวเท้าออกจากตระกูล หน้าที่การงานของเขาคล้ายกับสะดุด
เนื่องจากทุกคนรู้แล้วว่าเขาและบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกคนก่อนได้ตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว ยิ่งตระกูลของพ่อตาอย่างนายท่านฟ่านคล้ายกับจะเลิกสนับสนุนเขาด้วยเช่นกัน
จากที่เขาเคยเป็นบุคคลที่ใครเห็นก็นับหน้าถือตา ตอนนี้คล้ายกับไม่ค่อยมีใครอยากจะคบหา แต่กลับเป็นฝั่งของเสนาบดีไต้ที่ทุกคนพร้อมใจกันไปเข้ากับฝ่ายนั้น
ต่อให้จะมีตำแหน่งเสนาบดีเช่นกัน ถ้าเทียบกับอำนาจในราชสำนักเมื่อเขาไม่มีตระกูลฟ่านฝ่ายภรรยาเอกผู้ล่วงลับ เขาย่อมตกเป็นรอง ยิ่งเกิดเรื่องอื้อฉาวของบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนที่เกิดจากฮูหยินรองอย่างตู้เหนียงทำให้เหอเฉินเทาแทบจะเข้าหน้าผู้ใดไม่ติด
“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าว่าท่านใจเย็นก่อนดีหรือไม่ นายท่านผู้เฒ่าฟ่านน่าจะยังไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด ท่านไม่ลองไปเกลี้ยกล่อมดูล่ะเจ้าคะ”
ฮูหยินรองตู้เหนียงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ นางคิดว่าสามีย่อมต้องเข้าใจในความหมายของนาง
“เจ้ากล่าวไม่คิดเช่นนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะกล้าไปหาท่านพ่อตาไหมล่ะ สาเหตุการตายของซินเว่ยข้ายังไม่มีคำตอบให้กับพ่อตาและคนตระกูลฟ่าน นี่ก็ผ่านมาหลายปีดีดักแล้ว มาคราวนี้ดันเกิดเรื่องกับหลานสาวเพียงคนเดียวของตระกูลฟ่านอีก เจ้าคิดว่าข้าจะมีหน้ากล้าไปพบพ่อตาอีกหรือ”
เหอเฉินเทาตวัดสายตาใส่ฮูหยินรองของตนก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ชอบใจ แม้ว่าเขาจะรักนางมากเพียงใด แต่ด้วยพื้นเพของนาง นางไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาเอกที่ดูแลคนมากมายในจวน ดังนั้นเขาจึงยังไม่เลื่อนขั้นนางมาเป็นฮูหยิน
ฮูหยินรองตู้เหนียงมองตามหลังสามีด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาเช่นกัน ก่อนจะเดินกลับออกไป
ในตอนนี้รถม้าของเหอหลันฮวาและอาเฟยเดินทางมาถึงตระกูลฟ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลันจิงลงมาจากรถม้านางนั่งมาคู่กับจื่อหลง จากนั้นจึงเปิดม่านเพื่อจะรับนายสาวของตนเอง แต่กลายเป็นว่าอาเฟยเป็นคนก้าวลงมาและรอประคองฮูหยินของตน
เหอหลันฮวาเมื่อลงมาจากรถม้า นางเงยหน้ามองป้ายชื่อจวนน้ำตาที่คลอ นางจำได้ว่าหลังจากที่นางตายจากไป ท่านตาและท่านลุงใหญ่ต่างก็เสียใจมาก รวมถึงพี่ชายทั้งสองของนาง และทุกคนต่างก็พุ่งเป้าโจมตีองค์ชายรองและเสนาบดีเหอผู้มีฐานะเป็นบิดาของนางเอง จนตะกูลฟ่านแทบจะไม่เหลืออะไร เพราะทางด้านองค์ชายรองเล่นงานกลับเช่นกัน
ครั้งนี้นางกลับมาแล้ว นางจะทำให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
“ท่านพี่ เราเข้าไปหาท่านตากับท่านยายดีกว่านะเจ้าคะ”
เหอหลันฮวายิ้มให้สามีอย่างอ่อนโยน นางรู้ดีว่าอาเฟยนั้นประหม่าไม่น้อยเมื่อต้องมาพบหน้ากับครอบครัวของนาง ซึ่งเป็นบ้านเดิมของท่านแม่
“อืม” อาเฟยพยักหน้าตอบรับ
“คุณหนู ท่านเขย”
พ่อบ้านตระกูลฟ่านรู้ข่าวว่าหลานสาวเพียงคนเดียวของนายท่านเดินทางมาเยี่ยมเยียนพร้อมกับสามี จึงรีบออกมาต้อนรับและให้สาวใช้รีบไปบอกนายท่านและฮูหยินด้านใน
“ท่านตากับท่านยายอยู่ใช่หรือไม่ เดินทางมาคราวนี้ข้าไม่ได้ส่งข่าวมาบอกล่วงหน้า”
“อยู่ขอรับคุณหนู เชิญคุณหนูและท่านเขยเข้ามาด้านในก่อนขอรับ บ่าวให้คนไปแจ้งที่เรือนหลักแล้วว่าคุณหนูและท่านเขยเดินทางมา”
พ่อบ้านฟ่านยิ้มให้อย่างอบอุ่นและความอบอุ่นนี้ยังเลยไปที่อาเฟยด้วยเช่นกัน ทำให้ชายหนุ่มคลายความประหม่าลงไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าจวนพร้อมกับเหอหลันฮวา
นายท่านผู้เฒ่าฟ่านและฮูหยินผู้เฒ่าฟ่านเมื่อสาวใช้มารายงานว่าหลานสาวที่เกิดจากบุตรสาวผู้ล่วงลับมาเยี่ยมเยียน ทำให้ทั้งสองคนยิ้มดีใจ และคิดว่านานเพียงใดแล้วที่ไม่พบเจอกับหลานสาวคนนี้
“ท่านตา ท่านยาย หลานมาเยี่ยมและพาหลานเขยมาคารวะเจ้าค่ะ”
เหอหลันฮวารีบเดินเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงก่อนจะเดินเข้าไปสู่อ้อมกอดของนายท่านผู้เฒ่าฟ่าน ก่อนจะเข้าไปกอดฮูหยินผู้เฒ่าฟ่าน ท่านตาและท่านยายของนาง
“หลานยายโตแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าฟ่านลูบศีรษะหลานสาวด้วยความอ่อนโยนและมองไปยังอาเฟยด้วยสายตาเช่นเดียวกัน
อาเฟยคุกเข่าและกล่าวคารวะสองผู้เฒ่า ด้วยความเคารพและนอบน้อม
“หลานเขยคารวะท่านตาและท่านยายขอรับ”
“อืม ลุกขึ้นเถอะ เรามันครอบครัวเดียวกัน เจ้าเป็นสามีของฮวาเอ๋อร์หลานสาวข้า ย่อมต้องเป็นหลานข้าด้วยเช่นกัน”
ฟ่านจงเหิงไม่เคยมองผู้ใดที่เปลือกนอก ด้วยการที่ผ่านชีวิตมาก็มากจนอายุจวนจะเข้าโลงอยู่แล้ว ทำไมจะมองไม่ออกว่าอาเฟยคนนี้น่าจะมีอะไรที่ไม่ใช่อย่างที่เห็นเป็นแน่แท้