บทที่ 8 สงสัยในชาติกำเนิด

1518 คำ
หลังจากที่พูดและแจกแจงงานของทั้งสี่คน เหอหลันฮวาจึงกลับเข้าห้องนอนเพื่อเอนหลังเสียหน่อย เนื่องจากวันนี้ต้องเดินทางหลายที่ซึ่งทำให้เหนื่อยและเพลียไม่น้อย โดยมีอาเฟยคอยดูแลอยู่ข้างกาย เมื่อฮูหยินของตนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย อาเฟยจึงเดินออกมาที่ห้องหนังสือ แม้จะแปลกใจว่าอดีตทาสเช่นเขาไม่น่าจะอ่านออกเขียนได้ แต่เมื่อเขาลองอ่านหนังสือที่มีอยู่ภายในห้องนี้เขากลับอ่านมันได้ทุกเล่มและทุกตัวอักษร “นายท่านขอรับ พวกบ่าวมากันแล้วขอรับ” จื่อหลงส่งเสียงและเคาะประตูห้องหนังสือหลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว “เข้ามา” อาเฟยส่งเสียงกลับไป โดยที่ตนเองนั้นยังนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ “นายท่านเรียกพวกบ่าวมามีเรื่องอันใดให้รับใช้ขอรับ” “เจ้ากับข้า นอกจากที่เคยเจอกันที่โรงค้าทาส เมื่อปีกลาย เราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่ พวกเจ้าตอบข้ามาตามความเป็นจริง” อาเฟยส่งสายตาดุกลับไปโดยไม่รู้เลยว่าเขาทำให้ทั้งสี่รู้สึกแน่นหน้าอกเนื่องจากความกดดันที่เขาส่งไป ทั้งสี่คนสูดลมหายใจเข้าปอดและมองหน้ากัน ตอนนี้นายท่านของพวกเขาแม้จะความจำเสื่อม แต่ยังช่างสังเกตดั่งเช่นสมัยก่อน ตอนที่ยังอยู่ในฐานะ... “หากนายท่านจำไม่ได้ไม่เป็นไรขอรับ รอวันที่นายท่านฟื้นความทรงจำกลับมา ตอนนี้นายท่านอย่าเพิ่งรู้ฐานะที่แท้จริงเลยขอรับ ไม่เช่นนั้นเกิดข่าวหลุดรอดออกไปว่านายท่านยังมีชีวิตอยู่ ตัวนายท่านเองและฮูหยินจะเกิดอันตรายได้ขอรับ ขอให้นายท่านมั่นใจไว้ว่า ไม่ว่าในเวลาก่อนหน้านี้หรือเวลานี้ บ่าวทั้งสี่คนยังซื่อสัตย์และภักดีต่อนายท่านเสมอมา” จื่อหลงเป็นฝ่ายกล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกจากส่วนลึกด้านในใจที่ได้กลับมารับใช้เจ้านายอีกครั้ง ช่วงเวลาปีกว่าที่ไม่ได้อยู่ดูแลเพราะนายท่านใจของพวกเขาอยู่ไม่สงบ จะหนีก็ไม่ได้เพราะโดยวางยาไม่ให้มีแรง หลังจากนี้เขาฟื้นฟูร่างกายแล้วจะหมั่นฝึกวรยุทธ์ให้กลับมาเหมือนเดิมจะได้ดูแลนายเหนือหัวให้รอดปลอดภัย จื่อหลงเชื่อว่าหลังจากนายท่านและกลุ่มพวกเขาโดนโจมตีแต่กลับไม่พบศพ คนพวกนั้นย่อมต้องออกตามหาและไม่เชื่อว่าพวกเขาได้หายสาบสูญ อาเฟยมองไปทางทั้งสี่คนซึ่งในแววตาของบ่าวทั้งสี่ไม่มีแววล้อเล่นหรือว่าต้องการเอาใจเขา ทำให้ชายหนุ่มครุ่นคิดและคิดที่จะปล่อยผ่าน อย่างน้อยก็เพื่อความปลอยภัยของคนที่ตนรักอย่างเช่นเหอหลันฮวา “เรื่องนี้เจ้าทั้งสี่ห้ามเอ่ยให้ฮูหยินได้ล่วงรู้ ข้ากลัวว่านางจะคิดมากและทำในสิ่งที่เป็นอันตรายกับตนเอง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าย่อมรู้ว่าฮูหยินเป็นผู้ใด นั่นย่อมต้องรู้ว่านางมีความสำคัญกับข้าเพียงใดเช่นกัน” “ขอรับ” หลันจิงเมื่อเห็นว่าฮูหยินของนางกำลังพักผ่อน นางจึงเดินมาเก็บดอกไม้ในสวนเพื่อนำมาตาแห้ง เหอหลันฮวานางชอบดื่มชาดอกไม้ และหลันจิงนางทำเยี่ยงนี้มาโดยตลอด “แม่นางหลันจิง ข้าขอสนทนาอะไรด้วยได้หรือไม่ขอรับ” จื่อหลงอยากทราบความเป็นมาระหว่างนายท่านและฮูหยิน หากมีสิ่งใดผิดปกติเขาจะได้รีบจัดการได้ ในเมื่อนายท่านย้ำหลายครั้งว่า ฮูหยินสำคัญต่อนายท่านมากที่สุด “ท่านคุยกับข้าโดยไม่ต้องมีขอรับหรอก ข้ากับท่านต่างก็เป็นบ่าวด้วยกัน ว่าแต่ท่านจะสอบถามข้าเรื่องอันใด” หลันจิงมองว่าในเมื่อนายท่านให้สี่พี่น้องแซ่จื่อมาเป็นคนสนิท นางจึงไม่ก่อกำแพงขึ้นระหว่างชายหญิงเท่าใดนัก เนื่องด้วยทั้งหมดต้องรับใช้เจ้านายด้วยกันอยู่แล้ว “ข้าจะสอบถามแม่นางหลันจิงเรื่องฮูหยินขอรับ นายท่านให้พวกข้าดูแลความปลอดภัยให้กับนายหญิง ซึ่งถ้าข้าไม่รู้ความเป็นมา ข้าจะอารักขาลำบาก แม่นางหลันจิงน่าจะทราบดีว่าพวกข้าอยู่ในโรงค้าทาสมาหลายปี” หลันจิงครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จื่อหลงยังคงยืนนิ่งเพื่อรอคำตอบเช่นกัน จากนั้นหลันจิงจึงเล่าความเป็นมาของเจ้านายให้จื่อหลงฟัง แต่เพียงเรื่องที่ควรเล่าเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นบ่าวของนายท่าน ต่อให้นางจะไม่ก่อกำแพง แต่นางยังไม่เชื่อใจทั้งหมด จึงกล่าวเพียงแค่ในส่วนที่องครักษ์หรือคนดูแลควรจะรับรู้เท่านั้น “เช่นนั้นตามความคิดข้า คนที่พวกข้าต้องคอยจับตามองมีเพียงสองฝ่าย หนึ่งคือฝ่ายองค์ชายรอง สองคือฝ่ายฮูหยินรองและคุณหนูรองของจวนตระกูลเหอ” จื่อหลงคิดตามที่ได้รับฟัง ตามความคิดเขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายย่อมไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในเมื่อฮูหยินเคยโดนวางยาพิษแต่ดีที่ยังไม่ถึงคราวเคราะห์เลยฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนทางด้านองค์ชายรองถ้าหากอยากได้ฐานอำนาจจากตระกูลฟ่าน ที่มีทั้งเงินตราและกำลังทหาร ย่อมต้องคิดจะเล่นงานนายท่านเพื่อแย่งชิงฮูหยินไปครอง เมื่อไหร่ที่นายท่านกลับคืนสู่ฐานะเดิม เขาไม่หวั่นเกรงเลยว่าคนพวกนั้นคิดจะทำอะไร ทว่าเวลานี้นายท่านเป็นเพียงชายตัดฟืนสามีของฮูหยินเท่านั้น ส่วนเขาและน้องอีกสามคนเป็นเพียงทาสที่เพิ่งโดนซื้อตัวมา อีกทั้งร่างกายนั้นกำลังวังชายังไม่กลับมา คงต้องใช้เวลาร่วมเดือนกว่าร่างกายและพละกำลังรวมถึงวรยุทธ์จะกลับมาดั่งเช่นกาลก่อน หลันจิงเป็นสาวใช้ข้างกายเหอหลันฮวามาตั้งแต่วัยเยาว์ ความคิดความอ่านย่อมต้องแตกต่างจากสาวใช้คนอื่น นางจึงเหล่ตามองอย่างครุ่นคิด ว่าบ่าวที่เพิ่งซื้อมาทำไมความคิดความอ่านไม่เหมือนบ่าวทั่วไป “ดูคล้ายว่าท่านจะเป็นบ่าวของคนใหญ่คนโตมาก่อนใช่หรือไม่พี่จื่อหลง ความคิดความอ่านของท่านจึงไม่เหมือนบ่าวคนอื่นที่ข้าเคยพบมา” “ไม่ว่าอดีตข้าจะเป็นผู้ใดหรือเป็นบ่าวของผู้ใดมาก่อน เจ้าเพียงจำไว้ว่าข้าและน้องทั้งสามคนจะไม่มีวันทรยศและหักหลังนายท่านและฮูหยิน” ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่แน่วแน่ชั่งมั่นคงนัก หลันจิงพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อไม่มีสิ่งใดต้องสนทนากันอีกจึงขอตัวกลับมาทำงานของตนเองต่อ เหอหลันฮวานานหลับไปจนถึงยามเซิน (15.00 – 16.59 น.) นางจึงรู้สึกตัวตื่น “ตื่นแล้วเหรอ หิวหรือเปล่า” อาเฟยนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ตั่งในห้องนอน เมื่อเห็นว่าภรรยารักตื่นแล้วจึงวางหนังสือในมือและเดินมาที่เตียง “เริ่มหิวแล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ล่ะเจ้าคะหิวหรือยัง ข้าจะรีบไปเตรียมอาหารให้” เหอหันฮวารีบลุกมาจากเตียงและถามกลับ “ไม่ต้องหรอก ข้าให้หลันจิงไปแจ้งที่ห้องครัวแล้วว่าเตรียมอาหารด้วย ต่อจากนี้ฮวาเอ๋อร์ของข้าไม่จำเป็นต้องไปทำอาหารเองอีก เจ้าเอาเวลาที่เหลือมาสอนข้าทำงานและดูบัญชีดีไหม ข้าสามารถอ่านออกเขียนได้ ถ้าเจ้าสอนข้าเพิ่มเติม ข้าจะได้ช่วยเจ้าทำงาน ดีหรือไม่เล่า” อาเฟยไม่ใช่ต้องการที่จะอยากรู้อยากเห็นในเรื่องของกิจการทั้งหมดที่ฮูหยินของตนมี แต่ชายหนุ่มอยากแบ่งเบาภาระการงานของนางเท่านั้น “ท่านพี่อ่านตัวอักษรออกหรือเจ้าคะ” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความแปลกใจและตื่นเต้น “อืม ข้าลองเข้าไปที่ห้องหนังสือ และลองอ่านดู และข้าสามารถอ่านได้ทุกเล่มและทุกตัวอักษร ซึ่งทำให้ข้าเองแปลกใจไม่น้อยเช่นกัน ไม่คิดว่าบ่าวที่เคยอยู่โรงค้าทาสเช่นข้าจะสามารถอ่านออกเขียนได้” อาเฟยไม่คิดที่จะปิดบังฮูหยินของตนในเรื่องความสามารถเรื่องการอ่านเขียน และเขาเชื่อว่าหากเหอหลันฮวาสอนเพิ่มเติม เขาจะสามารถช่วยงานของนางได้ “ดีเลยเจ้าค่ะ ท่านพี่จะได้ดูแลกิจการแทนข้าได้ ท่านไม่ต้องรีบปฏิเสธ ท่านพี่อย่าลืมว่าท่านเองเป็นสามีของข้า ซึ่งไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ใดมาก่อนท่านไม่ต้องจำใส่ใจ รู้เพียงว่าตอนนี้ท่านเป็นสามีของข้าก็พอ” เหอหลันฮวาไม่อยากให้เขาต้องรื้อความทรงจำและคิดว่าอาเฟยจะคิดว่าฐานะตัวเองต่ำต้อยเพราะเป็นเพียงบ่าวตัดฟืนในเรือน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม