EP.2
ปานฤทัยทำหน้าตาอึ้งๆ เมื่อได้ยินคำว่า ‘น้ำ’ หล่อนหันมองโดยรอบที่เห็นก็มีแต่ท้องไร่ท้องนา ป่า และภูเขา โดยเฉพาะฝุ่นดินลูกรังสีส้มๆ ที่เคลือบรถสีแดงของหล่อนจนหมอง ไม่มีตรงไหนที่น่าพิสมัยเลยสักนิด แล้วน้ำของที่นี่หล่อนจะดื่มไปได้ยังไง เชื้อโรคตายล่ะ คิดแบบนั้นใบหน้าจึงเปลี่ยนเป็นพะอืดพะอมกลืนน้ำลายลงคอ
“ไม่รบกวนหรอก ในรถมีน้ำ”
“เอ่อ... ค่ะ งั้นคุณรอตรงนี้นะคะ อีกประมาณซักสามชั่วโมงคุณหมอก็คงจะตรวจเสร็จค่ะ”
ตุ่นพูดอย่างเสียไม่ได้ ความชื่นชมคนสวยเมื่อครู่ติดลบไปหมด หล่อนพึ่งคิดได้ว่าคนสวยแบบนี้นอกจากนางเอกละครแล้วก็คงมีนางอิจฉาอีกตำแหน่งหนึ่งที่สวยบาดใจขนาดนี้ แต่ร้อยทั้งร้อยเวลาพูดออกมาก็เหมือนหมาสำรอกขี้ คนดูละครถึงได้แยกแยะออกว่าตัวไหนนางเอกตัวไหนนางอิจฉา
“สามชั่วโมงเหรอ จะบ้าหรือไง! ฉันขับรถมาตั้งไกลแล้วต้องมารอต่ออีกสามชั่วโมงเหรอ ไม่... ฉันไม่มีทางรอ ฉันจะขึ้นไปหาเขาเดี๋ยวนี้”
พูดจบร่างสวยก็ก้าวพรวดตรงไปที่บันไดทางขึ้น แต่ตุ่นเข้ามาขวางไว้
“คุณคะ ไม่ได้นะคะ คุณหมอตรวจคนไข้อยู่ คุณขึ้นไปไม่ได้นะคะ ไปไม่ได้ค่ะ”
“ทำไมฉันจะขึ้นไปไม่ได้ ที่นี่มันก็หน่วยงานราชการ ใครก็ขึ้นไปได้ทั้งนั้นแหละ”
“ไม่ได้ค่ะ คุณจะทำให้เรายุ่งยาก คุณคะ! ขึ้นไปไม่ได้นะคะ”
ท่าทางเอาเรื่องของว่าที่เมียหมอทำให้ตุ่นตัดสินใจพาร่างอวบๆ ไปขวางไว้ หล่อนคงให้คนสวยนี้ผ่านขึ้นไปไม่ได้จริงๆ แม้ไม่รู้ว่าหมอกับว่าที่เมียไฮโซนี้มีปัญหาอะไรกัน แต่ท่าทางแบบนี้ไม่ได้มาดีแน่
“คุณคะ รออยู่ข้างล่างนะคะ ไม่ขึ้นนะคะ”
“ไม่! ฉันจะขึ้น ใครจะทำไม หรือถ้าเธอมีปัญหา ฉันจะโทร.เรียกพ่อให้มาจัดการพวกเธอ จะลองดูไหม!”
ปานฤทัยตาขวางมองกราดและเสียงแปดหลอดของหล่อนก็ทำให้มีใครกล้าจะสบสายตา หล่อนเดินก้าวฉับๆ ขึ้นไปบนสถานีอนามัยโดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าเจ้าหน้าที่จะร้องห้ามหรือจะมีใครมองหล่อนบ้างเพราะใจหล่อนร้อนไปหมดแล้ว
แค่ขับรถจากกรุงเทพฯ มาบ้านนอกคอกนาอย่างนี้ก็ต้องใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอที่นายแพทย์คีรินทร์ประจำอยู่ แทนที่จะได้พบกลับกลายเป็นว่าเขามาออกตรวจอยู่โรงพยาบาลประจำตำบล ทั้งๆ ที่หล่อนก็ให้คนโทร.มานัดไว้แล้ว ถ้าไม่เรียกว่าเขาจงใจแกล้งแล้วจะเรียกว่าอะไร แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
ยิ่งมาเห็นสภาพบ้านป่าบ้านนาของจริงแบบนี้ด้วย หล่อนยิ่งตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าไม่มีทางเสียล่ะที่หล่อนจะแต่งงานอยู่กินกับเขาที่นี่ ให้หล่อนตายเสียยังดีกว่า ในเมื่อมองไปทางไหนๆ ก็ไร้ความศิวิไลซ์ แต่ก็เหมาะกับนามสกุลของเขาจริงๆ นั่นแหละ ‘เจ้าแห่งขุนเขา’ เชยระเบิด
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังขึ้นไปถึงด้านบนนั่นทำให้คีรินทร์วางเครื่องมือตรวจพร้อมบอกให้คนไข้ไปรอรับยาอีกด้านหนึ่ง
ดวงตาคมเข้มจ้องมองด้านหน้าประตูที่มีเสียงเดินดังใกล้เข้ามา และผู้ที่ก้าวเข้ามาก็เป็นคนที่เขาคาดคิดเอาไว้เจ้าของใบหน้าสวยหยาดฟ้ามาดินชนิดที่ว่าเป็นนางเอกละครได้เลยเดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างไม่ต้องคาดเดา ก็ในห้องนี้มีเขาอยู่คนเดียวที่นั่งประจำตำแหน่งผู้ตรวจ
“นายสินะ หมอขุนเขา”
“ครับ... ว่าที่เมีย”
“นี่นาย! อย่ามาพูดบ้าๆ แบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ได้เป็นว่าที่เมียของนาย”
“โอเค คู่หมั้น ว่ายังไงครับ”
“คู่หมั้นก็ไม่ใช่!”
“ชู่วววว... อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะคิดว่าชะนีหลงป่ามาอยู่ที่อนามัย”
“นี่นาย! นายว่าฉันเป็นชะนีเหรอ”
คีรินทร์ไล่สายตาสำรวจเนื้อตัวหญิงสาวตรงหน้า ปานฤทัยตัวจริงสวยกว่าภาพถ่ายที่เขาเคยเห็น ยิ่งอยู่ในชุดสีแดงแปร๊ดเหมือนดอกชบาริมรั้วหล่อนก็ยิ่งสวย แต่จะสวยกว่านี้ไหมถ้าทุกอย่างจะซอฟลง และเขาเองก็อยู่เหงาๆ เฉาๆ มานาน มีเมียสักทีก็คงจะดีเหมือนกัน
“นาย! มองฉันแบบนี้หมายความว่ายังไง นาย! จะไปไหน! กลับมาคุยกับฉันก่อน นาย!”
คีรินทร์เดินนำหล่อนออกมาที่ระเบียง เพราะไม่อยากจะทุ่มเถียงกับหล่อนให้ได้อายคนอื่น ลำพังเขาน่ะไม่อายหรอก แต่หล่อนน่ะสิจะเป็นยังไงต่อ
“นี่นาย! นายอย่ามาเดินหนีฉันนะ ฉันนัดนายที่โรงพยาบาล ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ นี่นายจงใจแกล้งฉันใช่ไหม นายจงใจให้ฉันขับรถเข้าทางโกโรโกโสแบบเนี้ย นายตั้งใจแกล้งฉัน แถมยังจะให้ฉันรออีกตั้งสามชั่วโมง นายนี่มัน...”
“หยุดเลยคุณ จะพูดก็พูดดีๆ แหกปากแบบเนี้ย กลัวคนเขาไม่รู้เรื่องของคุณเหรอ”
“นาย!”
“หยุดเลยนะ คุณจะมาว่าผมฉอดๆ ไม่ได้”
“แต่ฉันให้คนของฉันโทร.มานัดนายแล้วนะ นายผิดนัด!”
“ใครรับนัดคุณไม่ทราบ คุณบอกว่าจะมาแต่ไม่ได้บอกเวลานี่ และผมก็ไม่ได้บอกว่าผมจะรอ แล้ววันนี้ผมก็มีธุระต้องมาตรวจที่โรงพยาบาลนี้ด้วย จะให้ผมอยู่รอคุณโดยทิ้งคนไข้ที่นี่เหรอ”