Chapter 1

2898 คำ
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสิขสิทธิ์ปี พ.ศ.2537 ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ตัดแปลง เผยแพร่ ส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายต้นฉบับนี้ โดยไม่ใด้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นของ นามปากกา MaNIE-STORY หากพบการละเมิดลิขสิทธิ์ จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที Writer : MaNIE-STORY Illust : Himefreeze บ้านปีกขวา หลังจากที่บ้านปีกขวาผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ยุ่งยุ่งของมาเฟียผู้เป็นลูกชายคนโตมา ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวและดูสงบดี แม้ว่าลีนที่ตอนแรกคัดค้าน การคบกันของมาเฟียพี่ชายคนโตกับดานีนเพื่อนสนิทของเธอ “ คุณหนูครับ ให้ผมเอารถออกมารอเลยไหมครับ” เสียงของบอดี้การ์ดคนสนิทอย่าง ไคเลอร์ เอ่ยขึ้น “ นายไม่ขับรถให้หรอ?” “ คุณหนูจะให้ผมไปหรอครับ?” “ นายไม่อยากไปใช่มั้ย ถ้าไม่ว่างฉันไปเองก็ได้!” ท่าทางที่เหมือนกับน้อยใจ ไม่พอใจของ มารีน ทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มถึงกับถอนหายใจ และเดินตามเธอไปในขณะที่เธอเดินหนีเขา “ คุณหนูโกรธผมเหรอครับ?” “ จะโกรธทำไม นายมีงานอื่นสำคัญกว่าไม่ใช่หรือไง” ไม่ได้โกรธ แต่แผดน้ำเสียงมาใครๆก็ดูออก “ เดี๋ยวผมขับรถไปให้ครับ” “ ไม่ต้อง ฉันไม่อยากให้นายไปด้วยแล้ว” “ แต่ผมอยากไปกับคุณหนู” “!!!!!” "อะไรของนาย" ตลอดทางที่ขับรถออกมา บอดี้การ์ดหนุ่มลอบมองใบหน้าของเจ้านายสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเพราะวันนี้เอารถสปอตของเธอออกมา ซึ่งมันนั่งได้เพียงแค่2คนเท่านั้น “ไม่เต็มใจจะมาทำไม” “ใครบอกผมไม่เต็มใจครับ” “ช่างเถอะ" สุดท้ายที่ๆหญิงสาวมา ก็เป็นร้านเสื้อผ้าที่เธอมาเป็นประจำ และแน่นอนว่าร้านเสื้อผ้าผู้หญิงคงไม่ได้เหมาะกับผู้ชายแบบไคเลอร์มากนัก "ผมรอด้านนอกนะครับ คุณหนูเสร็จแล้วเรียกนะครับ ผมจะเข้าไปช่วยถือของ" "เข้าไปนั่งรอในร้านก็จบ จะให้เดินออกมาเรียกทำไม" สุดท้ายไคเลอร์ก็ต้องจำใจเดินเข้าไปนั่งรอเจ้านายสาวในร้านนั่น เขานั่งมองมารีนที่เลือกเสื้อผ้าอย่างสบายใจหลายต่อหลายชุด ตอนนี้มารีนไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับดานีนมากนัก จึงเป็นเขาที่คอยทำหน้าที่พาเธอไปแทน แม้ว่าก่อนหน้านี้ก็ทำมาตลอด "นายว่าชุดนี้สวยมั้ย" "สวยครับ" "เหมาะมั้ย" "เหมาะครับ คุณหนูใส่อะไรก็สวยครับ" "ชมได้ผีดิบมาก นายเป็นลูกน้องคุณพ่อหรือเป็นลูกน้องเฮียเนี้ย ผีดิบเหมือนกันเลย" "ก็ผมพูดความจริงนี่ครับ" "เอาเถอะๆ นายถือของให้ด้วยนะ เสร็จแล้ว" "ครับคุณหนู" "ทั้งหมด 45,600บาทค่ะคุณมารีน" เสียงพนักงานของร้านเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังคิดเงิน "นี่ค่ะ" เธอยื่นบัตรเครดิตก่อนที่ไคเลอร์จะรับถุงเสื้อผ้าของเจ้านายมาหลายต่อหลายถุงมาถือ "การ์ดบ้านคุณมารีนมีแต่หล่อๆนะคะ" พนักงานที่สนิทกับมารีนเพราะเธอคือลูกค้าประจำเอ่ยขึ้น นั่นทำให้มารีนหันไปมองหน้าไคเลอร์ทันที "หื้ม!" "เอ่อ..อะไรครับคุณหนู" "ไปไหนก็มีแต่คนชมว่านายหล่อนะเนี้ย" "เอ่อ..ไม่ขนาดนั้นครับ" "ถ่อมตัวเก่งนะนายน่ะ งั้นไปก่อนนะคะ" มารีนที่ออกจากร้านเสื้อผ้ามา ก่อนนั่งรถกลับมากับไคเลอร์บอดี้การ์ดหนุ่ม "ฉันไม่เคยเห็นห้องพักนายเลย แอบพาแม่บ้านคนไหนไปกกหรือเปล่า หมู่นี้มีแต่คนชมนายไม่ขาดปาก" "คุณหนูพูดอะไรครับ ผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง แม่บ้านกับการ์ดห้ามเดินเข้าห้องของกันและกัน กฏนี้ใครๆก็รู้ดีครับ" "กฏมีไว้แหกไม่ใช่หรือไง" หลังจากกลับมาจนถึงที่บ้าน ไคเลอร์ที่ตามมารีนผู้เป็นนายเอาของที่เธอซื้อทั้งหมดกลับมาเก็บที่บ้านส่วนตัวของเธอ แล้วออกไปทำงานของตัวเอง กระทั่งช่วงเย็น ไคเลอร์ที่เห็นว่าวันนี้มารีนไม่ได้ไปไหน อยู่แต่ในบ้านทั้งวันจนกระทั่งมืดก็แปลกใจไม่น้อย หลังจากเดินเข้ามาดูที่บ้านส่วนตัวของมารีน ปรากฏว่าบ้านเงียบสนิท ไม่มีร่องลอยของเจ้าของบ้านแต่อย่างใด แต่เมื่อกำลังจะออกไป กลับได้ยินเสียงของหล่นที่ชั้นบน ไคเลอร์ที่ยังอยู่ในชุดบอดี้การ์ดเต็มชุดก็ค่อยๆเดินขึ้นไปดู "คุณหนู!!!!" เขาตกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่ามารีนที่นอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำโดยที่มีฟองขาวฟูเต็มอ่างปกปิดเลือนร่างที่ไม่ได้สติที่ค่อยๆไหลลงจะจมน้ำ แต่ดีที่เขาเข้ามาทันเพราะเสียงของโทรศัพที่หล่นลงพื้น บอดี้การ์ดหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้ว่ามารีนเปลือยเปล่า เขาค่อยๆถอดสูทรที่ใส่ออกแล้วถลกแขนเสื้อ พรางหลับตาแล้วอุ้มร่างเปลือยเปล่าของมารีนขึ้นจากน้ำแล้วจับเธอนั่งลงบนตักของตัวเองที่นั่งบนขอบอ่าง มือหนาไขว่ขว้าหาผ้าขนหนูไปทั่วเพราะกำลังหลับตา ไม่อยากล่วงเกินเรือนร่างของเจ้านายสาว ก่อนจะหยิบได้ผ้าคลุมอาบน้ำแล้วรีบสวมใส่ให้มารีนทันที หลังจากวางเธอลงนอนบนเตียง เขารีบยกมือถือขึ้นหวังจะโทรตามให้ลูกน้องอีกคนเอารถออกเพื่อพามารีนไปโรงพยาบาล แต่กลับถูกเสียงของมารีนกระชากความสนใจจากมือถือ "ไคเลอร์..." "คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรครับ ทำไมหมดสติแบบนี้" "นายอย่าบอกใครนะ..." "ครับ??" ไคเลอร์ค่อยๆมองแขนสองข้างของมารีนก่อนตกใจ มันมีแต่รอยข่วนราวกับถูกจิกแขนนับครั้งไม่ถ้วน เขาคว้าแขนของเธอขึ้นดูอย่างตกใจ "เกิดอะไรขึ้นครับ!!" "ไม่รู้..ฉันไม่รู้.." "คุณหนูเล่าให้ผมฟังได้...ผมเป็นอีกคนที่คุณหนูไว้ใจได้ครับ..."ไคเลอร์เอ่ยก่อนที่จะเห็นน้ำตาของเจ้านายสาวไหลอาบแก้มโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร "ฮึก นายว่าทุกคนไม่สนใจฉันหรือเปล่า..." "ครับ?? คุณหนูทำไมคิดแบบนี้ ไม่ร้องซิครับ" เขาค่อยๆเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆโดยที่ตอนนี้มารีนไม่ได้สนใจเลยว่าทำไมเธอมาอยู่บนเตียงและสวมชุดคลุมทั้งที่ก่อนหน้าเธอเปลือยเปล่า "ไม่รู้..." "ผมไม่รู้ว่าคุณหนูไม่สบายใจอะไร...แต่ผมพาออกไปข้างนอกมั้ยครับ คุณหนูจะได้สบายใจขึ้น" "ไปไหน..." "ไปหาอะไรอร่อยๆกินมั้ยครับ อะไรอร่อยๆแบบที่พวกผมชอบไปกัน" "ที่ไหน...ที่ๆพวกนายชอบไป" "ว่าแต่คุณหนูไม่เป็นอะไรแล้วแน่นะครับ ผมว่าไปหาหมอก่อนดีมั้ยครับ" "ไม่ไป ฉันไม่ไป ฉันอยากไปที่ๆนายบอก" "งั้นคุณหนูเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ เดี๋ยวผมพาไป" มารีนค่อยๆลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุด เธอชะงักเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในชุดคลุม แบบนี้ไคเลอร์ก็เห็นเรือนร่างเธอหมดแล้วซิ "นาย..เห็นอะไรหรือเปล่า" หลังจากแต่งตัวเสร็จ มารีนเดินออกมาเจอบอดี้การ์ดหนุ่ม "ไม่เห็นครับ ผมหลับตาตลอด ผมสาบานได้" "จริงนะ" "จริงครับ" "ถ้าโกหกนายโดนนะไคเลอร์“ ”ไม่ได้โกหกครับ ปกติผมเคยโกหกคุณหนูเหรอครับ“ “ไม่รู้ ถ้าจับได้ถึงจะเรียกว่าเคย ถ้าจับไม่ได้ก็ไม่เคยไง” บอดี้การ์ดหนุ่มพาเจ้านายสาวขึ้นรถก่อนขับออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ในตอนกลางคืน แม้ว่าเขาจะเป็น บอดี้การ์ดที่สนิทกับเจ้านายสาวมากที่สุด แต่ก็ไม่เคยนำตัวเองไปอยู่ในจุดที่เหนือกว่าการ์ดคนอื่นๆ ตลอดทางเขานั่งมองกระจกหลังที่มีเจ้านายสาวนั่งอยู่ ความกังวลใจเล็กน้อยที่ยังคงคาอยู่ในหัวใจของเขาเมื่อเจ้านายสาวไม่ยอมไปโรงพยาบาลทั้งที่เขามองแล้วว่าเธอน่าจะมีอาการป่วยบางอย่าง “ ที่นี่ที่ไหนหรอ” “ พวกผมชอบมาครับ คุณหนูลองเดินไปดูก่อนก็ได้ครับ เผื่อว่าคุณหนูไม่ชอบเดี๋ยวผมพาไปที่อื่นครับ” เมื่อเดินออกจากรถมาก็พบกับเต็นท์สีแดงกึ่งผ้าใบใสใส ราวกับเป็นร้านอะไรบางอย่างซึ่งเธอค่อนข้างคุ้นตาเพราะเมื่อนึกดีๆพบว่าร้านนี้เป็นรูปทรงเดียวกับที่เธอเห็นในซีรี่ส์เกาหลีอยู่บ่อยครั้ง มันคือร้านนั่งดื่มและปิ้งย่างสไตล์เกาหลีนั่นเอง แต่ร้านค่อนข้างลึกลับไม่น้อยและดูเหมือนว่าด้านในจะมีลูกค้าอยู่หลายคนเช่นกัน “ คุณหนูครับ” ลูกค้าที่อยู่ด้านในก็เป็นบอดี้การ์ดบ้านของเธอซึ่งทุกคนเป็นทีมเดียวกับไคเลอร์ บอดี้การ์ดที่พาเธอมาในวันนี้นั่นเองซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงหมดเวลางานแล้ว “ ไม่ต้องเกร็งนะ พวกนายหมดเวลางานแล้วนี่” บอดี้การ์ดหนุ่มพยักหน้าให้กับทีมเล็กน้อยราวกับว่าเข้าใจสัญญาณอะไรบางอย่างต่อกัน ก่อนที่เขาจะพาหญิงสาวซึ่งเป็นดั่งเจ้านายนั่งลงข้างๆร่วมโต๊ะกับทุกคน ” จะดีหรอเดี๋ยวทุกคนจะอึดอัด“ ” ไม่หรอกครับ คุณหนูบอกเองว่าพวกผมหมดเวลางานแล้ว พวกผมต่างหากที่ต้องกังวลว่าคุณหนูจะทานกับพวกผมได้ไหมครับ“ ” แล้วพวกนายกินอะไรกัน?“ ” ไส้ย่างครับ“ ลูกน้องที่หมดเวลางานแล้วเอ่ย หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจ้องมองดีๆปรากฏว่ามันคือเนื้อหมูและไส้หมูย่างในสไตล์เกาหลีและทุกคนยังมีขวดโซจูเป็นของตัวเองพร้อมแก้วดื่ม ” ขอแบบนี้บ้างได้ไหม“ ” คุณหนูจะดื่มจริงๆหรอครับ“ ไคเลอร์เอ่ยท้วง ” พวกนายยังดื่มเลยทำไมฉันดื่มไม่ได้ ฉันไม่ใช่เด็กมัธยมแล้วนะ“ ” แต่ผมรู้สึกเหมือนคุณหนูไม่สบายนะครับอย่าดื่มเลย“ ” ให้คุณหนูลองสักแก้วไม่เป็นไรหรอกมั้งไคเลอร์“ การ์ดอีกคนเอ่ย พรางหยิบแก้วใหม่แล้วเทโซจูนิดหน่อยก่อนส่งให้กับมารีน ” ไม่ได้ แก้วนี้กูดื่มเอง“ บอดี้การ์ดหนุ่มคว้าแก้วเหล้าที่เป็นของเจ้านายสาวแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดโดยที่เขาไม่ได้อยากให้เธอแตะแอลกอฮอล์เพราะยังไม่มั่นใจว่าเธอมีอาการป่วยหรืออะไรกันแน่ ” ฉันดื่มได้นายก็อยู่กลัวอะไร“ ” ผมอยู่ก็จริงแต่ผมไม่ได้เป็นหมอนะครับ คุณหนูเหมือนจะยังไม่สบายผมว่าวันนี้อย่าดื่มเลย“ “นายอยู่ทั้งคนนิ ดื่มสักหน่อย ย้อมใจ“ ”คุณหนูจะย้อมใจอะไรครับ?“ ”ไม่ค่อยมีคนรัก เอามาๆ ขอแก้วนึง ใครไม่ให้ ฉันตัดเงินเดือนเลย“ ”ให้ไวเลย เอาให้คุณหนูดิวะไคเลอร์“ เขาจำใจต้องยอมเพราะเห็นแก่ทุกคนที่จะถูกเจ้านายสาวหักเงินเดือน แม้ใจจะห่วงเธอมากก็ตาม "ค่อยๆดื่มนะครับ" หลังจากนั่งดื่มไปไม่นาน มารีนที่เริ่มยิ้มออก เมื่อความผ่อนคลายในจิตใจเริ่มดีขึ้น อาการแพนิคของเธอมันรุนแรงโดยที่ไม่รู้ตัว และเรื่องนี้ไคเลอร์เองก็รู้ดี เที่ยงคืน "สนุกดีนะ" มารีนเอ่ยในขณะที่นั่งรถกลับพร้อมไคเลอร์ "ไว้ผมพามาอีกได้ครับ ว่าแต่คุณหนูโอเคแล้วใช่มั้ยครับ" "................." "คุณหนูบอกผมได้นะ อะไรที่คุณหนูไม่สบายใจ" "นายว่า...ทุกคนยังรักฉันมั้ย" "ครับ? รักซิครับ คุณท่าน คุณมาเฟีย คุณมาร์เวล คุณผู้หญิง ทุกคนรักคุณหนูมากซิครับ" "รู้สึกดีขึ้นเยอะ"มารีนเอ่ยพรางอมยิ้ม เขาเองก็โล่งใจที่เธอยิ้มออกแบบนี้ หมอมาร์เวลบอกว่า มารีนมีอาการแพนิคและซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว เธอที่ได้รับความรักจากทุกคนในบ้านเต็มที่ ก็ปรับตัวไม่ทันเมื่อพี่ชายทั้งสองมีคนรักและครอบครัว เธอไม่ได้ตั้งแต่ แต่หากนั่นคืออาการป่วย ไคเลอร์ที่รู้อาการมารีนดีเพราะอยู่กับเธอมาตลอดก็เป็นอีกคนที่คอยช่วยสังเกตุอาการ "อยากเห็นห้องนอนนายจัง" "ครับ? ห้องนอนผม ก็เหมือนห้องการ์ดคนอื่นๆครับ" "ขอไปดูหน่อย" "ไม่ดีมั้งครับ ยามวิกาลแบบนี้ ถ้าคุณท่านรู้เข้า ผมตายแน่ๆ คุณหนูเมาด้วย" "จะขัดใจฉัน" "คุณหนู" "จอดรถแล้วเดินนำหน้าไปเลย ป่านนี้เข้านอนกันหมดแล้ว ใครจะไปเห็น แล้วฉันก็ไม่ได้เมานะ" ไคเลอร์ที่เถียงเท่าไหร่ก็ไม่ชนะมารีน ต้องจำใจเดินนำหน้าเธอเข้าไปที่ห้องพัก ซึ่งเขาไม่ได้มีรูมเมทเหมือนคนอื่นๆ แม้จะกลัวใครเห็นก็ตาม แต่ในที่สุด เขาก็พาเธอมาจนถึงห้อง "ห้องนายมีแต่สีดำทั้งนั้นเลย" "ผมชอบสีดำครับ" "สบายจัง" มารีนล้มตัวลงนอนบนเตียงของไคเลอร์อย่างสบายใจในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "คุณหนูครับ ผมว่ากลับบ้านปีกขวาเถอะครับ" "นายไล่เหรอ นายก็เป็นอีกคนที่ไม่รักฉัน..." "รักครับ ผมรักนายทุกคนในบ้านนี้ครับ" "อย่าขัดใจซิ" "ครับ..." "ที่นอนนายนอนสบายดีนะ แต่ไม่สบายเท่าที่นอนฉันเท่าไหร่แค่นั้นเอง" "ที่นอนการ์ดนี่ครับคุณหนู" ไคเลอร์ที่นั่งข้างเตียงมองเจ้านายสาวที่นอนเล่นอยู่บนเตียงเขาอย่างสบายใจ "ตอนนี้บ้านเงียบมากเลยเนอะ เฮียๆมีเมียกันไปหมดแล้ว" "ครับ" พูดได้ไม่นาน มารีนก็ค่อยๆหลับตาลองนอนอยู่บนเตียงของไคเลอร์อยู่แบบนั้น เขาที่เห็นเธอนอนหลับสบาย ก็ไม่รู้ว่าจะปลุกเธอยังไง กระทั่งเริ่มเช้า "ไคเลอร์.." "เช้าแล้วครับ เดี๋ยวผมดูต้นทางให้ คุณหนูต้องรีบออกแล้วครับ" "อ่อ" บอดี้การ์ดหนุ่มที่ตอนนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดก็เปิดประตูเพื่อดูด้านหน้าห้อง เพราะเวลานี้การ์ดรอบแรกน่าจะออกไปประชุมงานตอนเช้ากันหมดแล้ว "น่าจะไม่มีใครมาแล้วครับ" "โอเค งั้น ฉันไปนะ" (ไคเลอร์ ทำไมวันนี้ตื่นสายวะ) เสียงเพื่อนการ์ดด้วยกันตะโกนมาใกล้หน้าห้องที่ไม่ได้ปิดประตูสนิท ไคเลอร์รีบพามารีนไปหลบ ที่เดียวที่หลบได้ในห้องขนาดไม่กว้างนี้คือในห้องน้ำเท่านั้น เพราะทุกที่เพื่อนเขาคงเข้ามาแน่ "กูอาบน้ำอยู่ มึงมีอะไร" "เห็นแม่บ้านบอกคุณหนูไม่อยู่ที่บ้าน เลยมาถามมึงว่าคุณหนูไปไหน แม่บ้านจะได้ตั้งโต๊ะ เผื่อมึงรู้" เสียงเพื่อนการ์ดเอ่ยในขณะที่สองคนยืนในระยะประชิดกันในห้องน้ำนั่น "คุณหนูออกไปข้างนอกมั้ง หรือยังไม่ตื่น" "มึงเข้าบ้านคุณหนูได้ ไปดูคุณหนูหน่อย เมื่อคืนคุณหนูดื่มเยอะไม่ใช่เหรอวะ" "เออ มึงออกไปก่อน" "มึงนี้มีพิรุจนะ ทำไมวันนี้เปิดประตูห้องทิ้งไว้ แถมตื่นสาย ปกติไม่เคยนี่หว่า หรือมึงเอาแม่บ้านคนไหนมากกวะ น้องนิ่มหรือเปล่าวะ เห็นชอบไปหามึง" ทันทีที่ประโยคนั้นเอ่ยขึ้น มารีนที่ยืนซุกกลางอกบอดี้การ์ดหนุ่มแบบห้ามไม่ได้ ถึงกับเบิกตาใส่เขาอย่างต้องการคำตอบ "ไม่ใช่ กูไม่ได้พาใครมากกทั้งนั้น มึงออกไปได้แล้วไป" "เออๆ ไว้เจอกัน มึงรีบไปดูคุณหนูนะ" หลังจากเสียงประตูปิดลง มารีนลากแขนไคเลอร์เดินออกจากห้องน้ำ ก่อนยืนกอดอกแล้วมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง "ผมเปล่านะครับ" "นายเคยพาใครมากกใช่มั้ยเนี้ย เพื่อนนายแซวขนาดนั้น ห้องนายนอนคนเดียวด้วยดิ" "เปล่านะครับ ผมไม่เคยพาใครมา จะมีสาวที่มานอนห้องครั้งแรก ก็คุณหนูนี่แหละครับ" "แน่นะ" "แน่ครับ" "ไปอาบน้ำเลย ฉันจะไปรอที่บ้าน" หลังจากกลับมาที่บ้านปีกขวา มารีนยอมรับว่าหงุดหงิด ทำไมได้ยินอะไรแบบนี้แล้วไม่โอเคเลยนะ หรืออาจจะเพราะตอนนี้พี่ชายทั้งสองมีครอบครัวไปหมด มีแค่ไคเลอร์เท่านั้นที่ตอนนี้เหมือนเป็นทุกอย่างให้เธอ เขาเป็นทั้งบอดี้การ์ด เป็นทั้งเพื่อน ไปไหน มาไหน ตามใจเธอตลอดเวลา พอได้ยินว่ามียุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแล้วเธอหงุดหงิดไม่น้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม