EP03.2 ll เอาไงดีน้า [2]

1145 คำ
♥선생님 Injured Girl Let's Kill this love - Black Pink หมอคะ ถ้าไม่คบ เป็นศพแน่ EP03.2 ll เอาไงดีน้า [2] วันรุ่งขึ้น “วันนี้ มึงไปไหนต่อ เกรท” เดย์ถามขึ้นขณะที่พวกเรายืนสวยๆ กันสามคนอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ “ไปนั่งวาดรูปเหมือนเดิมปะ” เดย์กำลังพูดถึงการหารายได้อีกหนึ่งช่องทางของฉัน ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ บางวันฉันจะไปนั่งวาดรูปเหมือนที่ตลาดกลางคืนให้คนที่ผ่านไปผ่านมา หรือพวกนักท่องเที่ยว ก็นะ ฉันทำทุกทางเพื่อให้ได้เงินเยอะๆ เป็นลูกโง่ๆ ที่พ่อแม่ไม่ได้รัก แถมยังโดนหักเงิน ก็ต้องสู้ชีวิตกันนิดนึง อย่าให้ฉันมีเงินเยอะๆ นะ ฉันจะหนีออกจากบ้านแน่ คอยดู “เออ ก็กะอยู่ แต่น่าจะไปโรงพยาบาลก่อน ไปล้างแผล ♥” ฉันอมยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยก่อนจะหันไปมองหน้าอีมิ้นต์ที่เบ้หน้าไม่เชื่อนัก “ไปล้างแผล หรือไปอ่อยหมอฮะอีเกรท” “ล้างแผลอ่ะคือหน้าที่ อ่อยหมอก็คือกำไรปะ” “ให้กูไปช่วยฉุดปะมึง เดี๋ยวเรียกพวกพี่โยไปช่วย เอาให้จบ” อีเดย์กำลังแสดงอำนาจมืดใส่ด้วยการพูดถึงพวกแก๊งพี่โย พวกเขาเป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้วแต่ยังกลับมาหารุ่นน้องอยู่บ่อยๆ เป็นขาใหญ่ที่ใครก็ต้องก้มหัว “หมอไม่น่าเอามึงหรอก กูว่าถ้าอยากได้จริงๆ คงต้องใช้กำลัง” “เออ อีเดย์ก็พูดถูกนะเกรท” อีมิ้นต์สนับสนุนความเห็น “มึงอย่าทำหน้าจริงจังตอนพูดสิ กูไขว้เขวนะ” “เอ้า กูก็จริงจังนะ” อีเดย์หัวเราะแล้วมองหน้ากับอีมิ้นต์ทำให้ฉันเบ้หน้า “เสน่ห์ล้นเหลือแบบเนี้ย ไม่ต้องใช้กำลังหรอก แต่ถ้าหว่านทุกวิถีทางแล้วยังไม่ได้ คงต้องเก็บไว้พิจารณา” ฉันปัดปอยผมแล้วกะพริบตาหวานๆ สามทีใส่พวกมัน จนมันทำหน้ากระอักกระอ่วน “จ้า สวยจ้ะ” อีมิ้นต์กลอกตามองบน “เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดพี่กูก่อน ละกูค่อยไปล้างแผล” ฉันว่า “เออ ไปคนเดียวก็อย่าลืมถอดเข็ม ถอดหัวเข็มขัดให้เรียบร้อยนะมึง ระวังโดนเช็ค” อีเดย์เตือน ฉันก็เลยก้มลงเช็คเสื้อผ้าตัวเองอีกที การไปไหนมาไหนคนเดียวพร้อมหัวเข็มขัดและเข็มกลัดสถาบันเหมือนการฆ่าตัวตายทางอ้อม ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ใช่ว่าจะรอดไปทุกรอบ ถ้าโดนสถาบันอื่นเขม่นแล้วรุมกันเข้ามาถาม ฉันก็คงสู้ไม่ได้ “เออ ยิ่งใกล้วันสถาปนาด้วย เมื่อวานไอ้เมฆก็โดนตบเข็มไป” อีมิ้นต์ว่า มันเป็นธรรมเนียมที่รู้กันในหมู่พวกเรา การเช็ค คือการที่เด็กสถาบันอื่นเข้ามาเช็คว่าเราเรียนที่ไหน ถ้าเป็นคู่อริ หรือสถาบันตรงข้ามก็อาจจะโดนรุมเอาได้ง่ายๆ หรือน้อยสุดก็แค่ขู่เข็ญเอาเข็มกลัดสถาบันหรือหัวเข็มขัด ตบเข็ม ที่อีมิ้นต์พูดถึง ไม่ใช่การตบ แต่คือการขอหรือบังคับเอาสัญลักษณ์สถาบันอื่นไป บางคนเอาไปสะสม พอมีคนเอาไป ก็จะมีการไปเอาคืน วนเวียนไม่สิ้นสุด การตบเข็ม หัวเข็มขัดหรือสัญลักษณ์อื่นๆ จะดุเดือดมากขึ้นในช่วงใกล้วันสถาปนาโรงเรียน บางทีพวกฉันก็เข้าร่วมบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นการเอาคืนซะมากกว่า ถ้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไป ก็จะเอาคืนจากเด็กคนอื่นในสถาบันนั้น เมื่อวานเพื่อนในห้องของฉันเพิ่งโดนตบเข็มไป พร้อมกับโดนซ้อมกลับมาซะอ่วม พวกรุ่นพี่เลยกำลังรวมกันเพื่อควานหาตัวไอ้คนที่มาทำไอ้เมฆ คาดว่าก่อนวันสถาปนา น่าจะมีสงครามกันบ้างแหละ “กูรู้งานน่า” ฉันตอบมัน ฉันจำได้ว่าฉันทิ้งทุกอย่างไว้ที่คอนโดพี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เรื่องอะไรฉันจะพกมาด้วย ขืนโดนคนอื่นเช็คตอนฉันอยู่คนเดียว ฉันก็ซวยดิ “ไม่ต้องห่วง คนสวยๆ อย่างกู ผู้ชายไม่อยากทำร้ายหรอก” “น่าจะฆ่าให้ตายเลย ทำร้ายมันไม่พอ” อีเดย์ว่า “เออ ไปหลอกผู้ชายไว้เยอะ ระวังเถอะ” อีมิ้นต์เสริม แหม พวกนี้เห็นฉันเป็นคนยังไงกันนะ ฉันไม่ได้หลอกสักหน่อย เค้าเรียกว่าผลประโยชน์ร่วมกัน! ขณะที่พวกเรากำลังยืนเม้าส์มอยกันอยู่ รถเมล์ที่ฉันต้องขึ้นก็มาพอดี ฉันก็เลยบอกลาพวกมันแล้วขึ้นไปเบียดเสียดอยู่บนนั้นอยู่นาน ผ่านมรสุมกลิ่นเหงื่อ กลิ่นอาหาร กลิ่นน้ำหอมตีจนมึนหัว ไหนจะฝนตก ร้อนชื้นอบอ้าวจนเกือบตาย ค่าโดยสารเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่การบริการไม่ได้ดีขึ้น แถมยัง... “เฮ้ย มึงเรียนไหนวะ” เสียงกระโชกโฮกฮากจากทางด้านหลังดังขึ้น ฉันแอบเหล่สายตาไปมองก็เห็นแก๊งผู้ชายจากสถาบันเดียวกันกำลังมะรุมมะตุ้มผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่บนเบาะรถ แต่เพราะพวกเขายืนล้อมเลยไม่เห็นหน้าผู้โชคร้าย “หน้าคุ้นๆ นะมึง” เอาละ จะตีกันบนรถไหมเนี่ย แผลเก่าฉันยังไม่หาย จะได้แผลใหม่รึเปล่าวะ ก็เรียนที่เดียวกันแหละแต่วันนี้ไม่มีอารมณ์ร่วมนะเว้ย ต้องไปอ่อยผู้ชายก่อน “เฮ้ย ที่ถามไม่ได้ยินหรือไงวะ!!” คนกร่างตะโกนดังขึ้น พอฉันหันไปมองชัดๆ ก็เห็นว่าเป็นลูกน้องแก๊งพี่โย แต่เพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันเลยไม่อยากเข้าไปยุ่ง เสียงผู้คนจอแจและซุบซิบ แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าเข้าไปห้าม มีแต่เ**กระเป๋ารถเมล์ที่ยืนห่างเป็นวาแล้วตะโกนใส่พวกนั้นด้วยน้ำเสียงปรามาศ “นี่! อย่ามาตีกันบนรถนะ ถ้าจะตีก็ลงไป คนอื่นเขาเดือดร้อน” “อะไรป้า อย่ายุ่ง” ไอ้กร่างนั่นว่าก่อนจะโน้มตัวลง หน้าของเขาตีสีหน้าหงุดหงิด “ตกลงมึงจะตอบกูหรือไม่ตอบ!! ถ้ามึงไม่ตอบกูจะดูเอง!” พรวด! มันโวยวายแล้วดึงคอเสื้อของคนที่นั่งอยู่ขึ้นมา ด้วยความอยากรู้แต่ไม่อยากถามฉันเลยหันไปดู ตัวคนที่นั่งอยู่ลอยขึ้นมาตามแรงดึง เขาทำหน้าเฉื่อยชา กะพริบตาเหมือนคนเพิ่งตื่น นัยน์ตาคมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นที่แต่งมาไม่เรียบร้อยนัก ผมเผ้าไม่ได้เซ็ตทำให้หน้าม้าปรกลงมาที่หน้าผาก ริมฝีปากสีชมพู ผิวขาวละเอียด คลับคล้ายคลับคลาว่าเขาจะ... “พี่หมอ!!” มาอยู่บนรถเมล์สายนรกนี่ได้ไงวะ!! [2]
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม