วี้หว่อ..วี้หว่อ..เสียงไซเรนรถพยาบาลวิ่งเข้ามาหยุดที่หน้าประตู ร่างของหญิงสาวที่เคยสงบนิ่งตอนนี้ไหวติงเป็นระยะตามแรงกด ด้านบนมีนายแพทย์นั่งคร่อมร่างกำลังยื้อแย่งความตายจากมือมัจจุราช
"ผู้กอง ผู้กอง"
"ฟางหรง ได้ยินไหมฟางหรง"
เสียงผู้หมวดหนานเซียวและลูกน้องคนสนิทส่งเสียงเรียกหญิงสาวตามทางที่เข็นเปลมายังห้องฉุกเฉินไม่ขาดสาย
ภายในห้องฉุกเฉินสถานการณ์คับขันวุ่นวาย สายระโยงระยางมากมายถูกนำมาติดที่ร่างกายของหญิงสาว...
ติ๊ดดดดด..... เสียงดังยาวมาจากหน้าจอที่แสดงผลเส้นตรง
......
"กรี๊ด...." เสียงกรีดร้องดังลั่นของหญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดประหลาดดังขึ้น ดังจนตงฟางหรงแสบแก้วหู
"นี่หยุดได้แล้ว" ตงฟางหรงตะโกนแข่งกับเสียงของเธอ
"ผีหลอก" หน้าตาตื่นตกใจ
"ไหนผีหลอก (ตงฟางหรงเลิ่กลั่กหันซ้ายทีขวาที) ฉันหรือ" หญิงสาวชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเอง
สาวใช้ที่นั่งอยู่กับพื้นพยักหน้ารับอย่างหวาดกลัว
"ฉันไม่ใช่ผี นี่อะไร" ตงฟางหรงค่อยๆ หยิบดอกไม้สีขาวที่อยู่บนตัวออกทีละดอก
"หวงกุ้ยเฟยยังไม่ตายหรือเพคะ" สาวใช้ค่อยๆ คลานเข้ามาอย่างช้าๆ นางค่อยๆ ยกมืออันสั่นเทาขึ้นสัมผัสมือของตงฟางหรง ร่างกายที่เคยเย็นเฉียบตอนนี้อบอุ่นขึ้นอย่างน่าประหลาด
"หวงกุ้ยเฟยยังมีพระชนม์ชีพอยู่จริงๆ" สาวใช้กุมมือของตงฟางหรงไว้แน่นตอนนี้นางร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม
"พอแล้วๆ ปล่อยได้แล้ว" (ความฝันบ้าบออะไรกันเนี่ย ทำไมเหมือนจริงแบบนี้ ไม่ได้ๆ ตงฟางหรงเธอต้องรีบตื่น) หญิงสาวหลับตาลงนับหนึ่ง สอง สาม ในใจก่อนลืมตา (ทำไมยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ผลงั้นหรือ)
"หวงกุ้ยเฟยทรงเป็นอะไรเพคะ" สาวใช้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายทำท่าทางแปลก
"เปล่า" (ทำไมไม่ได้ผล ใจเย็นตงฟางหรงลองอีกที) เธอสูดหายใจเข้าหลับตาและลืมตาอีกครั้ง ทำแบบนี้อยู่สองสามรอบ โดยมีสาวใช้นั่งมองท่าทางประหลาดอยู่ข้างๆ
(นี่มันเหมือนจริงเกินไปแล้ว หรือนี่จะเป็นความจริง)
ตงฟางหรงยกมือข้างที่ถนัดขึ้นมาเธอมองมันเล็กน้อยอย่างลังเลก่อนออกแรงเหวี่ยงเต็มที่ ...เพี้ยะ... เสียงฝ่ามือปะทะกับแก้มงามจนเกิดสีแดงเป็นรอย ใบหน้าของหญิงสาวหันตามแรงปะทะ
"โอ๊ย!! เจ็บ! ไม่ได้ฝันงั้นหรือ" หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง แววตาดูเป็นกังวลและหวาดวิตกเข้าแทรกแซง ร่างกายของเธอแน่นิ่งตะลึงงัน
(นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน)
"หวงกุ้ยเฟย! ทรงเป็นอะไรเพคะ ฮือๆ"
สาวใช้ตกใจกับท่าทางแปลกประหลาดที่ตงฟางหรงแสดงออกมา แม้ว่ารูปโฉมของหวงกุ้ยเฟยจะยังคงงดงามเหมือนเดิมหากแต่วาจาและท่าทางกลับต่างออกไป หรืออาจจะเป็นเพราะได้รับการกระทบกระเทือนจากการจมน้ำ
"หม่อมฉันจะตามหมอหลวงมานะเพคะ" สาวใช้นามไต้ซีรีบร้อนลุกขึ้นอย่างร้อนรน
"ไม่..ไม่ เดี๋ยวก่อน" ยังไม่ทันที่ตงฟางหรงจะทันพูดจบตอนนี้สาวใช้วิ่งหน้าตื่นออกไปเชิญหมอหลวงเสียแล้ว
ตงฟางหรงนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงนอนพร้อมทั้งก้มลงสำรวจร่างกาย ชุดที่เธอสวมใส่ถูกตัดเย็บอย่างประณีตและออกแบบเช่นเดียวกับหญิงสาวในยุคโบราณ ใบหน้างามค่อยๆ เงยขึ้นพินิจสิ่งต่างๆ ตรงหน้า ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณที่ดูใหม่เอี่ยมไร้ที่ติ ฉากกั้นไม้ที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง แบ่งส่วนต่างๆ ของห้องช่างดูงดงาม ด้านหน้าของเตียงนอนมีชุดโต๊ะไม้ขัดเงาสำหรับดื่มชา ด้านบนโต๊ะมีชุดน้ำชาที่ทำมาจากทองคำดูล้ำค่าวางอยู่ หญิงสาวมองออกไปทางประตูและหน้าต่างล้วนทำมาจากไม้ทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนประณีตงดงาม หากเป็นเช่นยุคปัจจุบันหน้าต่างเหล่านั้นคงถูกแทนด้วยกระจกบานเลื่อน แต่ที่นี่ล้วนทำขึ้นจากไม้ทั้งหมด
แอ๊ด...เสียงประตูถูกเปิดออก สาวรับใช้คนเดิมตอนนี้กำลังเดินนำชายแก่เข้ามาภายในห้องอย่างรีบร้อน
"ท่านหมอหลวงเชิญเจ้าค่ะ" เสียงใสของเธอเอ่ยชวนชายแก่ให้นั่งลงด้านล่างเตียงที่ตงฟางหรงนอนอยู่
ชายแก่เดินเข้ามาจับข้อมือของหญิงสาวแล้วทำท่าแปลกใจ
"แปลก แปลกมาก" เสียงท่านหมออุทานด้วยความแปลกใจ
ตงฟางหรงมองหน้าชายแก่ที่ดูเหมือนจะเป็นหมอหลวงด้วยประโยคคำถาม
"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะหวงกุ้ยเฟย ก่อนหน้านี้กระหม่อมตรวจชีพจรหวงกุ้ยเฟยแล้วไม่ปรากฏชีพจรใดๆ หากแต่ตอนนี้ไม่เพียงชีพจรเป็นปกติร่างกายยังดูแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม" หมอหลวงพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
"อะ..อืม" ตงฟางหรงมองหน้าหมอหลวงอย่างงงๆ
"ตั้งแต่เกิดมาหม่อมฉันเพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก แปลกมาก"
"งั้นคือ..ฉันไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม งั้นท่านหมอหลวงก็กลับไปเถอะ//เธอนะ..(สาวใช้มองหน้าตงฟางหลงอย่างงงๆ) เธอนั่นแหละไปส่งคุณหมอหน่อย"
ด้านนอกมืดแล้วมีเพียงแสงสลัวของตะเกียงที่จุดไว้เท่านั้นที่พอให้ความสว่างยามค่ำคืน ตงฟางหรงยังนั่งครุ่นคิดทบทวนเรื่องราวทุกอย่างอยู่บนเตียงที่ตกแต่งตรีมขาว-ดำไม่ไปไหน (ฉันพลาดท่าโดนยิงได้อย่างไงเนี่ย)
"หวงกุ้ยเฟยยังไม่นอนหรือเพคะ"
"ยัง..เจ้าชื่ออะไร"
"ไต้ซี เพคะ" (โธ่หวงกุ้ยเฟยที่น่าสงสาร ไม่เพียงแค่จมน้ำ นึกไม่ถึงยังกระทบกระเทือนถึงจิตใจแม้แต่ชื่อของหม่อมฉันที่ดูแลหวงกุ้ยเฟยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ก็ทรงจำไม่ได้) สาวใช้คิดในใจ
"แล้วข้าล่ะ ชื่ออะไร"
"โธ่..หวงกุ้ยเฟย" สาวใช้ปล่อยโฮร้องไห้ต่อหน้าหญิงสาว
"เป็นอะไรไปอีก หยุดร้องได้แล้ว โอ๊ย! ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันอยากออกไปจากที่นี่..นี่แล้วตกลงฉันเป็นใคร"
"หวงกุ้ยเฟยมาจากสกุลตง ชื่อฟางหรง เพคะ"
"ตงฟางหรง ดีที่ยังชื่อเดิม..กระจก..เจ้ามีกระจกไหม เอามาให้หน่อย"
"เพคะ " ไต้ซียื่นกระจกให้หญิงสาว
ตงฟางหรงมองใบหน้าตนเองในกระจกเงา ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูแกมแดง พวงแก้มนิ่มตอนนี้เป็นสีชมพูระเรื่อ ปากกระจับเล็กถูกแต่งด้วยสีแดงที่มีกลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ (ดีที่ยังหน้าตาเหมือนเดิม) หญิงสาวหันซ้ายทีขวาทีอย่างพินิจ (นึกไม่ถึงแต่งหน้าแล้วก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย)
"ไต้ซี ก่อนหน้านี้เจ้าเรียกข้าว่าอย่างไรนะ"
"หวงกุ้ยเฟยเพคะ"
"คืออะไร" ตงฟางหรงเอ่ยถามขึ้นอย่างงงๆ
"ภรรยาของฮ่องเต้เพคะ"
"ภรรยา งั้นก็หมายความว่าข้าก็ต้องมีสามีนะซิ"
"เพคะ หวงกุ้ยเฟยเป็นภรรยาของฮ่องเต้เพคะ"
ตงฟางหรงตอนนี้ทำท่าคิดหนักสองมือยกขึ้นกุมขมับ
"แล้วมีฮองเฮาด้วยไหม แบบในหนังที่แย่งชิงอำนาจ" ตงฟางหรงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นราวกับเป็นเรื่องสนุก
"ไม่มีเพคะ ตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้แต่งตั้งฮ่องเฮาเพคะ ตอนนี้มีเพียงหวงกุ้ยเฟย กุ้ยเฟยอีกสองคน ภรรยายตำแหน่งเฟยอีกสี่คน ตำแหน่งผินอีกหกคนเพคะ"
"โอ้มายก๊อด ต้องเป็นผู้ชายแบบไหนถึงมีเมียหลายคนขนาดนี้" ตงฟางหรงทำท่าทึ่งกับสิ่งที่ได้ยินพลางส่ายหัว
(แต่ที่แน่ๆ พีคไปอีกฉันมีสามีแล้ว ไม่เรื่องพวกนี้ต้องเป็นแค่ความฝัน เป็นความฝันซินะ)
"หน่วยเทพสายฟ้าฉันคิดถึงพวกนาย ตอนนี้พวกนายทำอะไรกันอยู่ ฉันอยากกลับไปหาพวกนายแล้ว"
....
ติ๊ด...............................ติ๊ด..ติ๊ด..ติ๊ด
หน้าจอแสดงผลกราฟที่กลับมาขยับขึ้นลงตามจังหวะการเต้นของหัวใจอีกครั้ง