ตอนที่ 6 ทดลองอยู่ด้วยกัน

1991 คำ
​​-เซโร่ ทอร์ค- @บ้าน วรกุล เวลา 18.30 นาที “สวัสดีครับคุณยาย” “มาเร็วจังเลยลูก มิเกลยังไม่มาเลย เสียมารายาทจริงๆให้แขกมารอ” “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณยายวันนี้ผมตั้งใจมาเร็วเพราะมีเรื่องจะมาขอความคิดเห็นของคุณยายนะครับ” “เรื่องอะไรละ ไปคุยกับยายที่ห้องนั่งเล่นดีกว่า” @ห้องนั่งเล่น “ไหนว่ามาสิมีอะไรจะคุยกับยาย”คุณยายนั่งลงที่โซฟาประจำตำแหน่งและพูดขึ้น “ผมคิดว่ามิเกลกำลังหลบหน้าผมครับ เพราะตั้งแต่ทานอาหารเช้าด้วยกันวันนั้นน้องก็พยายามเลี่ยงที่จะเจอผมมาโดยตลอด จนผมคิดว่าแผนที่คุณยายวางใว้อาจไม่สำเร็จครับ” “ยายก็ยังห่วงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันยัยเกลนะรักตาพลมาก แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดีละถ้าเกลยังเป็นอยู่แบบนี้”คุณยายเริ่มมีสีหน้าเครียด “ผมอยากขออนุญาติคุณยายให้มิเกลย้ายไปอยู่กับผม อย่างน้อยเราก็จะได้เจอกันบ่อยขึ้น ผมสัญญาครับว่าจะไม่ทำให้น้องเสียหาย”จริงๆผมคิดทบทวนเรื่องนี้มานานแล้วหละเพราะถ้าน้องยังหลบหน้าผมอยู่แบบนี้ความสำพันธ์ของเราคงไม่คืบอีกไม่กี่เดือนผมก็ต้องกลับไปบินอีกครั้ง ผมไม่มีทางปล่อยน้องใว้แบบนี้แน่ๆ “ถ้าเรื่องที่เราคุยกันใว้แล้วหลานยังยืนยันคำตอบนั้นอยู่ยายก็ไม่มีปัญหา ยายมั่นใจในตัวเซโร่ว่าจะดูแลมิเกลแทนยายได้แน่นอน ยายจะได้หมดห่วงซะที” “ผมยังยืนยันคำเดิมครับคุณยาย แต่เราจะบอกมิเกลยังไงดีครับน้องต้องไม่ยอมแน่ๆ” “เดี๋ยวเรื่องนี้ยายจัดการเอง ว่าแต่คุณหญิงอภิรดีจะไม่ว่าอะไรหรอลูก” “คุณแม่ท่านยินดีมากๆครับ คุณยายไม่ต้องห่วงแต่ผมจะขออนุญาติพาเกลไปอยู่ที่คอนโดผม เพราะถ้าเข้าบ้านเกรงว่าน้องจะไม่ยอมแน่นอน” แค่คอนโดมิเกลจะยอมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ คงต้องบังคับกัน “ยายก็คิดว่าอย่างนั้น” และแล้วอาหารเย็นวันนั้นก็มีเพียงผมกับคุณยายเพราะมิเกลโทรมาบอกว่าติดประชุมด่วนเลยกลับมาร่วมโต๊ะอาหารเย็นไม่ทัน... -มิเกล ทอร์ค- หวังว่านานนั่นจะรีบๆกินแล้วรีบกลับ ฉันไม่อยากเจอหน้าเขาเลยจริงๆ แค่ทำงานก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ยังต้องมาคอยหลบหน้าเขาอีก แต่ไม่มีรถแปลกๆจอดอยู่หน้าบ้านก็แสดงว่าเขากลับไปแล้วจริงๆ ฉันค่อยเข้าบ้านได้อย่างสบายใจหน่อย “เกลกลับมาแล้วหรอ มาคุยกับยายหน่อยสิยายมีเรื่องจะคุยด้วย” เท้าข้างซ้ายพึ่งเหยียบเข้ามาในตัวบ้าน เสียงคุณยายก็ดังขึ้น “แต่มันดึกมากแล้วค่อยคุยกันตอนเช้าไม่ได้หรอคะ”ฉันพยายามเลี่ยงเพราะเรื่องที่คุณยายจะคุยก็คงจะหนีไม่พ้นผู้ชายคนนั้น “ยายต้องคุยกับเกลเดี๋ยวนี้ ขึ้นไปพบยายที่ห้องอ่านหนังสือ” “ก็ได้...คะ” @ห้องหนังสือ “คุณยายมีอะไรจะคุยกับเกลหรอคะ"”ในเมื่อเลี่ยงที่จะไม่คุยไม่ได้ฉันเลยต้องใช้ลูกอ้อนเข้าหาคุณยาย “ทำไมเกลไม่กลับมาทานอาหารเย็นพร้อมยาย” “ก็เกลฝากนมอ่อนมาบอกคุณยายแล้วนี่คะว่าเกลติดประชุมด่วน” “ยายโทรไปเช็คกับเลขาของหลานมาแล้วว่าหลานไม่ได้ติดประชุมอะไรทั้งนั้น” “เกลยอมรับก็ได้คะ ก็เกลไม่อยากเจอหน้านายนั่นอีกนี่คะ”เมื่อโดนคุณยายต้อนซะจนมุมสุดท้ายฉันก็ต้องยอมรับออกมา “เกลจำเรื่องที่เราคุยกันได้ไหมลูก นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง3เดือนแล้วนะเรื่องแต่งงานเกลจะทำยังไงไหนตอบยายมาสิ ว่าถ้านักขาวมารุมถามเราจะตอบไปว่ายังไง” “ป่านนี้แล้วคงไม่มีใครจำได้แล้วแหละคะคุณยายไม่ต้องห่วงนะคะ คนไทยแปปๆก็ลืม” “ถ้าหลานคิดแบบนี้ยายคงต้องพิจารณาเรื่องบริษัทใหม่ซะแล้วหละ”คุณยายเอาบริษัทมาขู่ “ไม่นะคะคุณยายอย่ายึดบริษัทเกลนะคะ ก็ได้คะต่อไปนี้เกลจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วคะ” สายตาคุณยายจริงจังจนฉันต้องรีบเข้าไปอ้อน “ยายมีข้อเสนอใหม่มาให้เราตัดสินใจ” “อะไรคะ” “ยายจะให้เกลไปทดลองอยู่กับพี่เขาเป็นเวลา2เดือนแต่ถ้าครบกำหนดเวลาแล้วเกลยังยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เขาจริงๆยายก็จะไม่บังคับตกลงไหม”คุณยายยื่นข่อเสนอที่ฉันไม่มีทางยอมรับ “ไม่นะคะคุณยายเกลไม่มีทางไปเด็ดขาด คุณยายจะให้เกลไปอยู่กับเขาได้ยังไงละคะเกลเสียหายนะคะ” “แต่นี่มันเป็นทางออกเดียวนะลูกแล้วอีกอย่างยายก็มันใจว่าเซโร่จะไม่ทำให้เกลเสียหายแน่นอนเชื่อยายนะลูก” “คุณยายไม่รักเกลแล้วหรอคะทำไมถึงให้เกลไปอยู่กับคนอื่น” ฉันจะไม่มทางไปอยู่กับนายนั่นเด็ดขาด คนใจร้าย “ยายจะไม่บังคับเกลนะ แต่การตัดใจครั้งนี้มีผลต่อบริษัทของเกลแน่นอน” “คุณยาย.....” “ยายให้เวลาเกลตัดสินใจ1คืน พรุ่งนี้พี่เขาจะมาเอาคำตอบด้วยตัวเอง ยายไปนอนละคิดดีดีนะลูก”คุณยายพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป ฉันเดินออกมาจากห้องอ่านหนังสือด้วยจิตใจที่ล่องลอย นี่ฉันจะต้องไปอยู่กับนานนั่นจริงๆหรอเนี่ยฉันไม่ได้กลัวนานนั่นหรอกนะแต่ฉันกลัวใจตัวเองต่างหาก อุสาห์พยามยามหนีมาได้ตั้งนานฉันจะไม่กลับไปเสียใจแบบนั้นอีกเด็ดขาด คนอะไรอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไปคิดจะมาปั่นหัวฉันเล่นหรือไง @เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าหวังจะลงมาสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนที่ฉันจะต้องตัดสินใจเรื่องที่คุณยายบอกใว้เมื่อคืนแต่ความตั้งใจของฉันกับต้องดับลงเพราะ “ตื่นแต่เช้าเลยนะครับเกล”นานนั่นเดินมาดักหน้า แล้วยิ้มแบบกวนๆ “นาย!!!มาทำไมแต่เช้านี่ก็ยังไม่ถึงเวลานัดซักหน่อย”ฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วทำสีหน้าไม่พอใจ “ก็พี่อยากมาฟังคำตอบของเราเร็วๆไง” “ฉันไม่มีคำตอบอะไรให้นายทั้งนั้นแหละ”ฉันกำลังจะหันหลังเดินกลับห้อง “แต่พี่ว่ามีนะ...”เขาจับมือฉันไว้แล้วทำหน้ากวนๆ “ชิ...ไม่อยากคุยด้วยละเหม็นขี้หน้า” “มิเกลทำไมไปพูดกับพี่เขาแบบนั้นไม่น่ารักเลยลูก”คุณยายเดินลงมาจากบันได ได้ยินที่ฉันพูดพอดี “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณยาย อย่าไปว่าน้องเลยครับ”เซโร่พูดยิ้มๆแล้วทำหน้ากวนๆใส่ฉัน “จริงๆเลยเราเนี่ยยิ่งโตยิ่งดื้อ แล้วทำไมป่านนี้ยังไม่ไปอาบน้ำอีกขายขี้หน้าแขกจริงๆเลย”คุณยายบ่นฉันชุดใหญ่แต่ฉันได้สนใจเพราะว่ามัวแต่หมันใส้ผู้ชายที่ยืนอยู้ข้างๆคุณยาย “คะๆ งั้นเกลไปอาบน้ำก่อนนะ” @ห้องอาหาร “เกลลงมาพอดีเลยลูก มาทานข้าวพร้อมกันจะได้ออกไปทำงาน” ฉันเดินจับมือคุณยายมาที่ห้องอาหารโดนมี เขาเดินตามมาห่างๆ “เกลยายลืมบอกเลยลูกวันนี้เกลคงต้องหารถไปเองนะลูกเพราะยายสั่งให้สุนทรเอารถในบ้านเราทุกคันไปเช็คสภาพที่ศูนย์กว่าจะได้ก็คงพรุ่งนี้ยังไงวันนี้เกลหารถไปเองก่อนนะ” “แต่คุณยายพึ่งจะเอารถเกลไปเซ็คสภาพเมื่อเดือนที่แล้วเองนะคะ” “โอ้!!ยายลืม แต่ไม่เป็นไรยังไงเซโร่ก็ว่างใช่ไหมลูกยายฝากไปส่งเกลที่บริษัททีนะ” “ไม่มีปัญหาครับคุณยาย” “ไม่เป็นไรหรอกคะคุณยาย รบกวนคุณเขาป่าวๆเกลไปเองดีกว่า”ฉันปฏิเสธเพราะรู้จุดประสงค์ของทั้งคุณยายและก็เซโร่ว่าต้องการอะไร “จะไม่เป็นไรได้ไงละลูกวันนี้ยายโทรไปเช็คกับเลขาเกลล่ะ ว่าเกลมีประชุมเช้า..ผู้บริหารเข้าประชุมสายน่าเกลียดตายเลยให้พี่เซโร่ไปส่งนะดีแล้ว” “แต่.....” “ไม่มีแต่จะหลานรัก แล้วก็เลิกเรียกพี่เซโร่ว่านายนั่นได้แล้วเกลต้องเรียกว่าพี่เซโร่สิลูก เหมือนที่เกลชอบเรียกตอนเด็กๆไง” หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อยคุณยายก็เดินออกมาส่งฉันที่หน้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถูกใจเหลือเกินที่ทำให้ฉันไปกับเขาได้ “เดินทางปลอดภัยนะลูก ทั้ง2คนเลย ตั้งใจทำงานนะมิเกล”คุณยายกอดฉันแล้วหันไปยิ้มให้นายนั่น “ผมไปนะครับคุณยายสวัสดีครับ”นายนั่นยกมือไหว้คุณยายแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนนั่งให้ฉัน @บนรถ “จอดข้างหน้าก็ได้คะเกลจะลง”ฉันพูดขึ้นหลังจากรถขับออกมาถึงหน้าปากซอย “ได้ไงพี่รับปากคุณยายใว้แล้วว่าจะไปส่งเกลที่บริษัทพี่จะผิดคำพูดได้ไง” “ก็ตอนนี้ไม่มีคุณยายแล้วพี่ไม่จำเป็นต้องรักษาคำพูดก็ได้คะ จอดฉันจะลง”ทีเมื่อก่อนบอกกับเราว่าจะไม่ไปไหนยังทิ้งเราไปได้เลยทีงี้กลัวจะผิดตำพูดชิ... “เกลยังโกรธพี่อยู่หรอ” “ฉันจะไปโกรธนายเรื่องอะไรคะ ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราไปรู้จักกันตอนไหน” “พี่รู้ว่าเกลจำพี่ได้ พี่ขอโทดแต่พี่มีความจำเป็นจริงๆตอนนั้นบ้านพี่ล้มละลายพี่ต้องรีบหนีออกจากประเทศให้เร็วที่สุดไม่งั้นเงินก้อนสุดท้ายก็จะต้องโดนยึด เกลเข้าใจพี่นะ”เขาอธิบายแต่ฉันทำเป็นไม่สนใจ แค่มาบอกจะไปไหนมันคงไม่เสียเวลาขนาดนั้นหรอกมั้ง “พูดจบแล้วใช่ไหม ฉันจะรีบไปทำงาน”ฉันตัดบทเพราะกลัวจะใจอ่อนกับคำขอโทษของเขาผู้ชายที่เธอไม่เคยลืมได้แม้แต่ซักนาทีเดียว ถึงแม้เธอจะรักพีรพลมากก็จริงแต่ในใจเธอลึกๆเธอยังมีเขาอยู่ตลอดเวลา “มิเกล..”ฉันเอื้อมมือไปเปิดวิทยุเสียงดัง เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงเขา @หน้าบริษัท MIGUEL BOUTIQUE “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”ฉันหันไปพูดกับเขาตามมารยาทแล้วกำลังจะลงจากรถ “เกลเลิกงานกี่โมงให้พี่มารับนะ เกลไม่ได้เอารถมานิ” “ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันกลับแท็คซี่ได้ ไม่รบกวนนายหรอก” “5โมงเจอกันตรงนี้นะครับเกลอย่าลืมสิว่าเกลต้องให้คำตอบอะไรพี่ นี่พี่ยืดเวลาให้เราได้คิดอีก1วันเลยนะ”เขาทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด “นายต้องการอะไรกันแน่ นายไปแล้วจะกลับมาอีกทำไมหรือนายต้องการกลับมาปั่นหัวฉัน ฉันพูดให้เลยนะว่านายทำสำเร็จแล้ว พอใจยัง” เขาส่ายหน้า “พี่ต้องการเกลคืน พี่รักเกล” นายนั่นพูดจบก็ดึงฉันเข้าไปจูบ แม้ฉันจะพยายามดึงตัวเองออกแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ “อื้ม...อื้อ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม