ตอนที่ 5 พบเจอ (ไม่ค่อยถูกชะตา)

1412 คำ
​@บ้าน เทวกุล “กลับมาแล้วครับคุณแม่ คิดถึงที่สุดเลย”เซ่โร่หนุ่มนักบินพูดพร้อมเดินเข้าไปสวมกอดมารดาอันเป็นที่รัก “ไงละพ่อตัวดีไปบินทีเป็นเดือน ไม่คิดจะติดต่อกลับมาหาแม่บ้างเลย”คุณหญิงอภิรดี​พูดกับลูกชายคนโตที่หายหน้าไปทีหลายเดือน และไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาบ้างเลย พล่ามมาซ่ะนานลืมแนะนำตัวเลยผมซื่อเซโร่ ผมมีอาชีพเป็นนักบินของสายการบินหนึ่ง ผมมีพี่น้อง2คนผมเป็นคนโต น้องของผมเป็นผู้ชายอายุมันก็ไล่เรี่ยกับผมเนี่ยแหละมันชื่อ ซีโน่ บ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาและพวกโรงแรมต่างๆมีสาขาอยู่ทั่วเอเชียแต่ผมเบื่อไม่อยากทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศเลยเลือกเรียนการบินซึ่งขัดใจคุณแม่สุดๆแต่จะทำไงได้ก็ผมเลือกแล้วส่วนเรื่องบริษัทผมขอแค่เป็นผู้ถือหุ้นก็พอผมยกงานบริหารทั้งหมดให้น้องชายเป็นผู้ดูแล และที่ผมกลับมาครั้งนี้เพราะผมได้รับข่าวใหญ่ที่รอคอยมานานผมจะมาทวงของของผมคืน “คุณพ่อกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงไปไหนคับเนี่ยไม่เจอหน้ากันนานละ”ผมถามถึงน้องชายเพราะตั้งแต่เข้ามาเหยียบที่บ้านผมก็ยังไม่เห็นมันเลย “น้องไปประชุมที่ต่างประเทศ ส่วนคุณพ่อไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนๆเดี๋ยวค่ำๆคงกลับ แล้วนี่จะมาอยู่บ้านกี่วันหรือจะไปนอนคอนโดเลย”แม่ถามเพราะปกติผมกลับมาก็จะไปนอนที่คอนโดไม่ค่อยนอนบ้านซักเท่าไหร่ “ไม่ละคับไหนๆไอ้โน่ก็ไม่อยู่ ผมอยู่อ้อนคุณแม่ที่บ้านดีกว่าจะได้ไม่มีคนมาขัด”ผมพูดจบก็หอมแก้มคุณแม่ซ้ายขวาอย่าเอาใจ และชดเชยให้ท่านตอนผมไม่อยู่ ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงค่ำผมก็อยู่พูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่จนถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องพักผ่อน ผมเดินขึ้นมาบนห้องตัวเองทุกอย่างในห้องยังคงเหมือนเดิมเพราะกฏเหล็กของห้องนี้คือห้ามทุกคนเข้าออกเด็ดขาดเข้ามาได้เฉพาะเวลาที่ต้องทำความสะอาดเท่านั้น เพราะผมค่อนข้างหวงความเป็นส่วนตัว ผมเดินไปหยิบรูปที่ลิ้นชักหัวเตียงขึ้นมาดู เป็นภาพที่ผมถ่ายคู่กับเด็กน้อยคนนึงหน้าตาน่ารัก แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอคนนี้ยังจำผมได้อยู่หรือไม่ แต่ถึงจะจำไม่ได้ผมนี่แหละที่จะเป็นคนที่ทำให้เธอจำผมได้เอง มณิการ์ วรกุล @เช้าวันต่อมา เวลา 06.30 นาที วันนี้ผมตื่นแต่เช้า ทั้งที่จริงๆแล้วคนที่กินนอนไม่เป็นเวลาอย่างผมไม่มีทางตื่นเวลานี้แน่นอน แต่เพราะวันนี้ผมมีนัดสำคัญกับคนสำคัญจึงทำให้ผมต้องรีบลุกมาอาบน้ำแต่งตัวเพราะผมไม่อยากสายแม้แต่วินาทีเดียว “วันนี้พายุต้องเข้าแน่ๆเลยคะคุณ ลูกชายของเราตื่นแต่เช้าเชียว”คุณแม่แซวทันทีที่เห็นผมเดินลงมา “คุณละก็แซวลูก จะไปไหนแต่เช้าละ” “ผมมีนัดสำคัญนะคับ รีบมากด้วยไปนะคับคุณพ่อคุณแม่แล้วเจอกันเย็นนี้คับ”พูดจบผมก็ตรงเข้าไปหอมแก้มคุณแม่แล้วรีบวิ่งมาที่รถเพราะสายแล้ว @บ้าน วรกุล -มิเกล ทอร์ค- เช้านี้คุณหญิงแพรวดูจะสดใสกว่าทุกวันถึงขนาดลงมาควบคุมการเตรียมอาหารเช้าด้วยตัวท่านเองเพราะไม่อยากให้มีบางอย่างผิดพลาด ท่านสดใสจนหลานสาวอย่างมิเกลอดที่จะถามไม่ได้ “เช้านี้คุณยายมีแขกสำคัญมาหรอคะ ถึงขนาดลงมาจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเองแบบนี้”ทั้งๆที่ปกติจะให้แม่บ้านเป็นคนจัดการ “นี่ก็ใกล้จะได้เวลานัดแล้วหละ อีกซักพักคงถึงทุกคนจัดโต๊ะอาหารได้”คุณยายไม่ยอมตอบคำถามฉัน แต่หันไปคุยกับแม่บ้านซ่ะงั้น “ถ้าคุณยายมีแขก เกลไปท่านอาหารเช้าที่บริษัทเลยแล้วกันคะจะได้ไม่กวนคุณยาย เกลไปนะคะ”ฉันกำลังจะไปหอมแก้มคุณยายเหมือนทุกวัน แต่ก็ถูกคุณยายดึงมือไว้ “นั่งลงก่อนมิเกล ยายต้องการให้เกลอยู่ต้อนรับพี่เขากับยาย” คุณยายพูดยิ้มๆก่อนที่แม่บ้านจะเดินมาบอกว่าแขกที่คุณยายนัดไว้มาถึงแล้ว “คุณสุชาติไปเชิญแขกคนสำคัญของฉันเข้ามาได้”คุณยายหันไปสั่งหัวหน้าแม่บ้าน ฉันเลยต้องนั่งประจำที่แบบงงๆ “สวัสดีครับคุณยาย” พอได้ยินเสียงคนที่เข้ามาใหม่ ขนาดยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองฉันก็รับรู้ได้ ว่าน่าจะอายุไม่ต่างจากฉัน แต่ที่ฉันสงสัยคือทำไมคุณยายถึงให้ความสำคัญถึงขนาดเชิญให้มาเป็นแขกตอนมื้อเช้า “สวัสดีลูกไม่เจอกันนานยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ มิเกลสวัสดีพี่เขาสิลูก” คุณยายสกิดให้ฉันเงยหน้าขึ้นมอง ฉันรู้สึกว่าคุ้นหน้าเขามากแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า “เอ่อๆ...สวัสดีคะพี่..”ฉันอึกอักเพราะไม่รู้จักชื่อเขาเลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร “เซโร่คับ พี่ชื่อเซโร่”พอเขาคนนั้นพูดแนะนำตัวทำฉันร้องอ๋อในใจที่แท้คนที่คุณยายว่าก็คือนายคนนี้ คนที่ทิ้งฉันไปโดยไม่ร่ำราและตอนนี้จะกลับมาทำไมอีกละ “ทีนี้จำพี่เขาได้แล้วใช่ไหมลูก”คุณยายหันหน้ามาถามฉัน “จำไม่ได้หรอกคะคุณยาย มิเกลไปอยู่อเมริกาหลายปีลืมเรื่องที่นี่ไปหมดแล้วแหละคะ”ฉันพูดประชดออกไป “จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อวันที่พี่เขาต้องยายบ้านกระทันหันโดยที่ไม่ได้บอกเรา เรายังมาร้องไห้กับยายอยู่เลย แถมยังมาขอร้องให้ยายย้ายบ้านตามพี่เขาไปอีก” “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณยายน้องยังจำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงผมก็ยังต้องอยู่ที่ประเทศไทยอีกนานเวลานี้คงจะทำให้น้องจำผมได้บ้าง” นายคนนั้นทำท่ามั่นใจ แต่นายคงไม่รู้สินะว่าฉันเป็นคนไม่ใช่ควายที่นึกจะทิ้งก็ทิ้ง จะนึกจะมาก็มา -เซโร่ ทอร์ค- จริงๆมิเกลจะโกรธผมมันก็เป็นสิทธิ์ของเธอเพราะถ้าเป็นผมผมก็คงโกรธเหมือนกันที่จู่ก็หายไปโดยไม่ได้บอกลากันจริงๆผมก็เสียใจนะแต่จะทำไงได้บ้านผมโดนฟ้องล้มละลายเราเลยจำเป็นต้องรีบขายบ้านรวมถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อบินไปอยู่ที่อังกฤษกับญาติทางฝ่ายพ่อ พ่อต้องการไปเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยเงินก้อนสุดท้าย แต่กว่าพ่อจะกอบกู้ธุรกิจกับมาได้ก็ใช้เวลาเกือบ5ปี หลังจากนั้นผมก็รีบกลับมาไทยกับมาที่บ้านหลังเดิมแต่ก็ไม่ทัน เพราะคุณยายของเธอได้บอกกับผมว่ามิเกลสาวน้อยหน้ารักของผมได้บินไปเรียนต่อที่อเมริกากับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ตอนนั้นผมก็ยังเด็กผมไม่รู้จะไปตามหาเธอได้อย่างไร ผมคิดแต่เพียงว่าผมจะต้องเป็นนักบิน ผมจะได้บินไปตามหาเธอได้แต่นั่นก็คือความคิดในวัยเด็ก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้งแต่ก็มาพร้อมข่าวร้ายเพราะเธอพาแฟนของเธอกลับมาด้วยจริงๆผมก็ถอดใจไปพักนึง แต่พอได้ยินข่าวว่าแฟนของมิเกลจะแต่งงานแต่คนนั้นไม่ใช่มิเกลทำให้ผมมีความหวังอีครั้ง พร้อมกับที่คุณยายของมิเกลติดต่อมาหาผมปรึกษาเรื่องของมิเกลมันจึงเป็นโอกาสของผมอีกครั้งที่จะทวงเจ้าหญิงของผมคืน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม