ตอนที่ 6 บังเอิญอีกเเล้ว

1583 คำ
ตอนที่ 6 บังเอิญอีกแล้ว อันนาค่อนข้างว่างเดือนนี้ทั้งเดือนตารางงานเธอว่างมากเพราะผู้จัดการเคลียร์คิวให้แต่เนิ่นๆ ช่วงสิ้นปีแบบนี้ฉันจะไม่รับงานเพราะจะใช้เวลานี้อยู่กับครอบครัว หลังจากเสร็จสิ้นงานในวันนี้ผู้ช่วยก็เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ส่วนฉันได้รับหน้าที่อันพิเศษอยากทำตัวเป็นพี่สาวแสนดีมาเยี่ยมเยียนน้องสาวสักหน่อย เผื่อนางซ้อนผู้ชายไว้จะได้ไปฟ้องแม่ ‘ชั้นที่ 9 ห้อง 208 รหัส 200312’ ฉันมองข้อความที่ถูกส่งมาก็ต้องยกยิ้มใช่แล้วนี้เป็นการมาขึ้นบ้านใหม่ฉบับสองพี่น้องซุปเปอร์สตาร์ฉันเลยหอบอุปกรณ์ในการทำครัวมามากมายหลังจากให้ผู้ช่วยไปตะเวนซื้อมาให้ก่อนกลับ ฉันเงยหน้ามองคอนโดหรูซึ่งยายเอ็มม่าพึ่งจะซื้อที่นี้ไปและเข้ามาได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ส่วนตอนนี้นางยังไม่เลิกจากกองถ่ายเลยฉันเลยรับหน้าที่มาเตรียมเสบียงรอ ติ้ง! “สวยเหมือนกันนะว่าไป” ฉันชื่นชมคนออกแบบ คอนโดแห่งนี้แม้จะดูเรียบๆแต่มันสบายตามาก นี่แหละสไตล์น้องสาวฉันเลย “ห้องนี้สินะ” ฉันทำการกรอกรหัสก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องที่กว้างมากในสายตา แม้สายตาจะมองไปรอบๆห้องแต่ทิศทางการเดินตรงไปที่ห้องครัวเพื่อวางเครื่องเคียงที่ซื้อมาต่างๆไว้ ห้องนี้ใหญ่มากแต่ไม่เท่าห้องฉันแต่ก็พอเข้าใจเอ็มม่ามันงกจะตายแถมมีนิสัยชอบอะไรเรียบง่ายไม่เหมือนฉันแค่หมอนก็มีครบตามเฉดสีของสายรุ้งแล้ว “ปวดฉี่จัง” ฉันบ่นๆสายตาก็มองหาห้องที่คิดว่าเป็นห้องนอนก่อนจะรีบสับขาเดินไป อันนาเดินเข้ามาในห้องนอนอย่างที่คิดไว้แต่กลิ่นในห้องมันแปลกๆนะหรือยายเอ็มม่ามีรสนิยมพิลึก ไม่อยากสนใจแล้วฉันรีบเดินตัวปลิวไปเข้าห้องน้ำทันที ด้วยความที่ห้องมืดมากตอนเดินเข้ามาเหมือนมีตาทิพย์มองเห็นทุกอย่างแต่พอทำธุระเสร็จเดินออกมาภายในห้องนอนฉันกลับรู้สึกว่ามันมืดจนมองไม่เห็นราวกับมีคนดึงผ้าม่านที่มีช่องว่างน้อยนิดปิดแสงตอนที่ฉันเข้ามาซึ่งเห็นว่ามันเปิดอยู่ พรึ่บ! ฉันทำการเดินไปเปิดไฟเพราะเจ้าน้องสาวบอกว่าเครื่องปรุงหม่าล่าอยู่ในกล่องวางในห้องนอนยังไม่ได้แกะ จะให้หามืดๆแถมยังเคยมาครั้งแรกเธอคงจะหาเจอเลยทำการคาดเดา สวิชท์ไฟแล้วเดินไปเปิด !!! “นี่มันอะไรกัน” มือเรียวสวยยกขึ้นมาปิดปากตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า “เฮ้ย!!” “คุณ คุณ คุณ” มือก็ชี้ชื่อก็ติดอยู่ปลายลิ้น เธอมาติดอ่างอะไรตอนนี้ยายอันนา “คุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง!!” “ห้องคุณ?” บ้าเหรอจะเป็นห้องพี่หมอภูของเธอได้ยังไง มือบางค่อยๆลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าปากกระพริบตาขึ้นลงมองคนนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ผมเผ้าไม่ได้ทรงแถมยังดูงัวเงียเหมือนถูกคนปลุกให้ตื่น สภาพเปลือยท่อนบนอีกหรือท่อนล่างด้วยแต่ผ้าห่มคลุมไว้อยู่ “เธอเป็นโจรหรือไง?” เขาลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองคนที่พรวดพราดเข้ามาในห้องส่วนตัวของเขา “หรือแม่ผมให้รหัสห้องผมกับคุณ” “คุณเป็นอะไรกับเอ็มม่า?” คงไม่หรอกใช่ไหม ฉันยิงคำถามหัวใจก็เต้นตุ้บตับเหมือนจะหลุดออกมา “เอ็มม่าอะไรของคุณ!” “เอ็มม่าเจ้าของห้องนี้ไง!!” ฉันแว้ดใส่คนบ่นเตียงรู้สึกโกรธจนตัวสั่น “คุณตั้งสติหน่อย นี่มันห้องผม” หมอภูธารายกมือเสยผมลวกๆราวกับขัดใจกับอะไรนักหนา จะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่แม่นางแบบคนนี้ อันนาหมุนตัวเร็วๆเดินออกมาจากห้องนอนขนาดใหญ่เป้าหมายคือโทรศัพท์ที่ตัวเองวางไว้บนโต๊ะในห้องครัวเธอต้องรู้เดี๋ยวนี้ว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไงกันแน่ รีบเปิดโทรศัพท์ในหัวคือต้องต่อสายหาน้องสาวเพื่อถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน เธอเซ้าซี้หรือจีบผู้ชายทุกคนได้ยกเว้นผู้ชายของน้องสาวตัวเอง เพราะฉะนั้นตอนนี้หัวใจฉันมันเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ ‘โทษที ห้อง 209 นะอัน’ มือที่ถือโทรศัพท์ไว้ถึงกับอ่อนแรงนี่มันความบังเอิญในรูปแบบไหนกัน แต่อย่างน้อยก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งเอ็มม่าและหมอภูไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิด “สรุปจะบอกผมได้ยัง ว่าเอารหัสห้องมาแต่ไหน” เธอแค่ใส่ตามวันเกิด เขาน่ะสิมาเลขตรงกันได้ยังไง พรึ่บ “อุ้ย!” ฉันหันมาตามเสียงก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับอะไรขาวๆ หิมะที่เคยเล่นทุกปียังไม่ขาวเท่านี้เลย แล้วจะนุ่มเหมือนหิมะหรือเปล่า ไวเท่าความคิด หมับ! มือข้างซ้ายตะปมเข้าที่น้องซิคแพคแน่นๆ “ยัยบ้า!” ภูธาราขยับถอยไปหลายก้าวเมื่อถูกลวนลามซึ้งๆหน้า “คุณหมออ่อยฉันเองนะคะ” มองตามมือตาละห้อย “ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้” คุณหมอหน้าใสชี้มือไปที่ประตู ใบหน้าเรียบนิ่งยากจะคาดเดา “หูตึงหรือไง” “โอ๊ย!” อันนายกมือขึ้นมากุมท้องใบหน้าเหยเก “เป็นอะไร!” แม้จะเอ่ยถามแต่ยังขยับตัวหนีราวกับไม่ไว้ใจ จนดูให้แน่ใจว่าคนตรงหน้าไม่ได้แสดงละครกับเขาจึงเดินไปคว้าเสื้อมาสวมอย่างรวดเร็วติดกระดุมรีบๆ แล้วเดินเข้าไปหาคนที่นั่งยองๆมือกุมท้องอยู่ “ปวดท้องมากเลยคะหมอ” อันนาเงยหน้ามองคนที่เดินมานั่งข้างๆตัวเองเพื่อถามไถ่อาการของเธอ “อะ...โอ๊ยย ปวดมาก” “มาผมอุ้มคุณไปนั่งที่โซฟา” ภูธาราขยับตัวสอดแขนใต้ขาเรียวใช้แรงอุ้มคนที่ตัวเล็กกว่าเขาไม่มากเพราะอันนาจัดเป็นผู้หญิงที่รูปร่างดีตามมาตรฐานหญิงไทยส่วนสูง 170 เซนติเมตร ยิ่งเธอใส่ส้นสูงก็เตี้ยกว่าเขาไม่มากนักเรียกได้ว่าคุยกับเธอไม่ต้องก้มหน้าให้เมื่อยคอ นี่อาจจะเป็นข้อดีอย่างเดียวที่เขาค้นพบในตัวอันนา “นี่ยาเคลือบกระเพาะ คุณน่าจะไม่ได้กินข้าวล่ะสิ” เขายื่นยามาให้พร้อมน้ำ อันนามองมันหยีๆแต่เพื่อแผนการต่อให้มียาที่ไม่ชอบสิบเม็ดมาอยู่ตรงหน้าเธอก็จะกินมันเดี๋ยวนั้น “ขะ...ขอบคุณค่ะ” ถ้าไม่ติดว่าจะเวอร์เกินไปหน่อยเธอจะแสร้งบีบน้ำตาให้ แต่แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ “คุณหมอใจดีกับฉันกว่าปกตินะคะ” “ผมแค่ไม่อยากให้คนมาตายในห้องผม” เขาพูดจบก็ถอยห่างไปนั่งที่โซฟาตัวถัดไป ราวกับไม่อยากเข้าใกล้เธอนักหนา “ปากร้าย” ดวงตากลมโตวูบไหวยามสบประสานกับสายตาเรียบนิ่งที่มองมา “แต่ใจดี” เธอยิ้มให้เขาเต็มหน้า เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ปั้นสร้าง ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นหมอภู หนึ่งในสิบของผู้ชายที่ฉันเตาะเล่นๆ นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าการที่เราแกล้งรักใครสักคนเราจะเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาเอง “ดีขึ้นแล้วก็ออกไป” ร่างสูงเดินมาด้านหน้าสายตาจับจ้องมาที่อันนา หมับ! พรึ่บ! มือเล็กคว้าเข้าที่ข้อมือหนาทำให้คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียหลักเซล้มลงมาทับร่างอีกคนบนโซฟาตัวยาว อันนานอนราบไปกับโซฟาซึ่งมีคุณหมอล้มทับลงมา สองคนจ้องตากันในระยะประชิด เธอได้ยินเสียงหัวใจกระหน่ำเต้นอย่างบ้าคลั่งแต่มันไม่ได้มาจากเธอคนเดียว “ผม...” อุ๊บ... ในจังหวะที่อีกคนจะผละตัวออกไปอันนาใช้ความเร็วในการล็อกลำคอหนาเข้าหาตัวเอง ทำให้เขาทิ้งตัวลงมาอย่างรวดเร็วตามแรงของเธอจนปากเราสองคนติดกัน อันนาไม่ปล่อยมือบดริมฝีปากเข้ากับความนุ่มหยุ่นในตอนที่หมอภูไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงเขาจะไม่ได้จูบตอบแต่ไม่ได้ปิดปาก เผยอค้างอยู่อย่างนั้นให้เธอไล้ขบเม้มหยอกล้ออันนาเลียรอบปากเบาๆก่อนจะผลักคนที่อยู่ในอาหารตะลึงค้างให้ลุกขึ้นนั่ง เขาจ้องเธอตาจะถลนออกมาแล้ว “นี่ถือว่าเป็นการทักทายการกลับมาของฉัน อดีตลืมมันไปเลยค่ะสาวสวยคนนั้นตายไปแล้ว เตรียมตัวให้ดีฉันจะยั่วคุณให้ตบะแตกไปเลยทุกครั้งที่มีโอกาส” เอาสิ เอาให้มันรู้กันไปเลยว่าการแสดงที่ร่ำเรียนมามันจะเสียเงินไปเปล่าๆหรือได้ผลงานชิ้นเอกกลับมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม