ตอนที่ 1
เธอ จะล่อให้เขาหลง หลอกให้เขารัก แต่พอเธอจะตีจาก กลับถูกเขามัดไว้ด้วยความรัญจวน
แสงระวี ต้องทำหน้าที่คอยดูแลปราบ ปราบศักดา ตามคำสั่งแม่ของเขา ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ชอบเธอสักนิด ฉะนั้นเธอจึงวางแผนล่อหลอกให้เขารัก แล้วเธอจะทำให้เขาอกหัก แต่...เธอจะทำได้จริงหรือ
“แม่...บอกแล้วยังไงครับว่าไม่ต้องให้ใครตามผมไปบังกะโลที่เกาะ”
เสียงทุ้มห้าวบอกอารมณ์ว่าคนพูดกำลังหัวเสียดังขึ้นภายในห้องรับแขกของบ้าน ปราบพินิจ ในขณะที่เจ้าของร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อยืดกางเกงเดนิมนั่งอยู่ที่เก้าอี้และมีสีหน้าบึ้งตึง
“ปราบ...แม่ก็แค่ให้คนตามไปช่วยลูกที่บังกะโลก็แค่นั้น จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานในบ้านด้วยยังไงล่ะจ๊ะ”
คุณหญิงชนัดดากล่าวกับบุตรชายคนเดียวซึ่งเป็นเจ้าของมายาวี รีสอร์ต ที่พักแบบบังกะโลเล็ก ๆ บนเกาะซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งทะเลไปทางตะวันออกไกลโข
“ไม่จำเป็นเลยครับแม่” ปราบยังคงเสียงแข็ง “ผมก็อยู่ของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร งานบ้านในที่พักผมก็ทำเองทุกอย่าง ผมชินแล้วครับแม่”
ปราบยังคงยืนยันความคิดของเขา ซึ่งเป็นความคิดของผู้ชายที่มีความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวและที่สำคัญ เขาไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิตถึงแม้ว่าคนคนนั้นคือคุณหญิงชนัดดา แม่ของเขาเองก็ตาม
ตลอดทั้งวันนี้เขายังตกลงไม่สำเร็จเรื่องที่คุณหญิงชนัดดาจะให้คนไปช่วยงานบ้านภายในบังกะโลที่พักของเขาบนเกาะ ปราบเห็นว่างานเหล่านั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ของคนเป็นแม่ที่เห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ชายที่ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังภายในบังกะโลเพียงคนเดียว
“ไม่รู้ล่ะ ปราบ...แม่จะให้แสงระวี หลานแม่พร้อม แม่นมของลูกตามไปช่วยงานบ้านในบังกะโลบนเกาะ”
“อะไรนะครับแม่! ” ปราบขมวดคิ้วมุ่น นี่คนที่แม่ของเขาจะให้ไปอยู่บนเกาะและช่วยดูแลบังกะโลเป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ ชายหนุ่มไม่ทันได้พูดอะไรคุณหญิงชนัดดาก็ชิงพูดเสียก่อน
“แสงระวีเขาพึ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำ แม่ก็เลยจะให้เขาไปช่วยงานในบังกะโลของลูก ปราบ...ใจจริงแม่อยากให้ลูกกลับมาอยู่บ้านจะแย่ อายุอานามลูกก็จะย่างสามสิบอยู่แล้ว อยู่ที่เกาะโดดเดี่ยวแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่แม่จะได้ลูกสะใภ้กับเขาเสียที”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นหรอกนะครับแม่...แล้วแสงระวีอะไรนั่นน่ะที่แม่จะให้ไปช่วยงานผม เด็กพึ่งเรียนจบแบบนั้นทำอะไรเป็นบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้”
“เขาเก่งเรื่องการบ้านการเรือนนะลูก เหมือนแม่พร้อม แม่นมของลูกอย่างไรล่ะ”
“แล้วเขาจะอยู่ได้หรือครับ อยู่บนเกาะที่ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก เด็กพึ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ ก็ต้องอยากหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิตเป็นธรรมดา ผมว่าเด็กนั่นคงไปอยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ ขี้คร้านจะร้องขอกลับมาอยู่ในเมือง จะได้เจอแสงสีอย่างที่ตัวเองชอบ”
“เขาอยู่ได้แม่มั่นใจ”
“และอาจจะเบื่อเพราะไม่ได้เจอผู้ชายด้วยครับแม่”
“ปราบ...หยุดเถียงแม่เดี๋ยวนี้นะ! ” คุณหญิงชนัดดาตวาดลูกชายอย่างเหลืออด ทว่าหน้าตาอันสวยงามและมีเมตตาไม่ได้ทำให้ปราบกลัวสักนิด แต่เขาก็ไม่อยากขัดใจแม่ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ชายหนุ่มสงบปากสงบคำลงและปรับอารมณ์ให้เย็นลงเล็กน้อย
“โอเคครับ...โอเค” ชายหนุ่มจำนนในที่สุด “ผมจะไม่ขัดใจแม่ แต่ถ้าเมื่อไหร่เด็กคนนั้นอยากกลับขึ้นมาบนแผ่นดินใหญ่ผมจะโทรให้คนของแม่ไปรับกลับในทันที”
นั่นเองรอยยิ้มอ่อนหวานก็จุดประกายบนริมฝีปากสีชมพูอ่อน คุณหญิงชนัดดาขยับเข้าไปหาลูกชายและกอดเขาอย่างแสนรัก
“ปราบของแม่...แม่แค่อยากให้ลูกได้รับความสะดวกและไม่ต้องพะวงกับเรื่องจุกจิกและเรื่องอาหารการกิน เท่าที่ฟังแม่พร้อมบอก เด็กคนนั้นเป็นเด็กดีมาก แม่เลยไว้วางใจให้เขาไปอยู่จ้ะ”
“อย่าดีแตกก็แล้วกันครับแม่”
“ปราบ...”
“โอเคครับ...ผมรักแม่”
ชายหนุ่มตัดบททั้งที่ลึก ๆ แล้วไม่อยากทำตามใจมารดาสักนิด ช่างมันเถอะ...เด็กสาวที่พึ่งจบใหม่คนนั้นคงทนอยู่ได้ไม่นานบนเกาะส่วนตัวของเขาที่รายรอบไปด้วยทะเลและแทบไม่มีสิ่งจรรโลงใจอะไรเลยบนนั้น นอกจากแผ่นฟ้าสีครามกับต้นไม้และหาดทราย
ขี้คร้าน...จะวิ่งแจ้นกลับบ้านแทบไม่ทันตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง
ร่างเล็กบางในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีหวานและสวมหมวกสานปีกกว้างยืนมองคนขับเรือที่กำลังยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงเรือที่จอดเทียบท่าด้วยสีหน้าที่กำลังครุ่นคิดท่ามกลางแสงแดดริมทะเลที่แผดจัด
เจ้าของใบหน้าสวยหวานใต้กรอบเรือนผมดำยาวสลวยก้มต่ำเพื่อหลบละอองแดดที่แผ่รังสีเข้ามากระทบผิวขาวอมชมพูซึ่งโผล่พ้นใต้ร่มผ้าออกมา แก้มนวลเนียนเป็นสีชมพูกุหลาบ จมูกโด่งเล็กและริมฝีปากจิ้มลิ้มเป็นสีแดงระเรื่อ
แสงระวีมาถึงท่าเรือก่อนเวลาที่คุณหญิงชนัดดาสั่งเอาไว้เพราะเกรงว่าถ้ามาถึงช้าอาจถูกลูกชายคนดีของท่านว่าเอาได้ ใจหนึ่งเธอก็ไม่ได้อยากมาอย่างที่รับปากกับยายของเธอนั่นคือแม่พร้อมซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านปราบศักดาเอาไว้ แต่อีกใจเธอก็อยากเผชิญหน้ากับคนที่เธอต้องติดตามไปช่วยงานบ้านที่เกาะคนนั้น
ปราบ ปราบศักดา
ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงชนัดดา ผู้มีพระคุณกับครอบครัวของเธอมากมายจนอ้าปากปฏิเสธความต้องการไม่ได้แม้หญิงสาวจะนึกเจ็บแค้นอยู่ในส่วนลึก
“แสงระวีอะไรนั่นน่ะที่แม่จะให้ไปช่วยงานผม เด็กพึ่งเรียนจบแบบนั้นทำอะไรเป็นบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วเขาจะอยู่ได้หรือครับ อยู่บนเกาะที่ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก เด็กพึ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ ก็ต้องอยากหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิตเป็นธรรมดา ผมว่าเด็กนั่นคงไปอยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ ขี้คร้านจะร้องขอกลับมาอยู่ในเมือง จะได้เจอแสงสีอย่างที่ตัวเองชอบ”
เสียงของความหมิ่นแคลนยังดังอยู่ในหูทั้งสองข้างทั้งที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปได้ยินคุณหญิงชนัดดาคุยกับลูกชายคนเดียวของท่านเลยสักนิด เธอยังไม่ได้เห็นหน้าเขาชัด ๆ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วช่างเป็นผู้ชายที่หยิ่งจองหองสิ้นดี เขาบังอาจพูดจาดูถูกเธอถึงขนาดนี้ก็จะแกล้งเอาคืนให้หลาบจำ ให้รู้ซะบ้างว่าเธอมีอะไรดีมากกว่าที่เขาคิด