EP.12 แผนร้าย(ก้อนน้ำแข็ง)
ปั้ง! ปั้ง!
พรึ่บ! เเกร๊ก!
"อึก! เจ็บไปหมดเเล้ว" ฉันค่อยๆวางปืนลงพร้อมประคองมือข้างขวาไปด้วย เเรงสะบัดของปืนมันทำให้เเขนฉันเเทบจะหักออกเป็นหลายๆท่อน พวกเขามันโหดร้ายฝึกคนหรือฝึกหุ่นยนต์เนี้ย หญิงสาวได้เเต่ตัดพ้อในใจ เหมือนว่าข้อมือของเธอทนรับเเรงสะบัดของปืนไม่ไหวเเล้ว ฉันมองผลงานตัวเองก่อนจะกรอกตาไปมา ถ้าเขาเอาเธอไปออกงานจริง เธอคงตายเเต่งานเเรกเเน่ๆ ฉันก้มหน้ามองดูข้อมือที่มันเเดงจนเขียวซ้ำเป็นจ้ำๆ
ต่างจากใบหน้าเรียบนิ่งที่ยืนมองผลงานของ ตัวล่อกระสุน ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ถ้าเธอเจอสถานการณ์จริงเธอคงไม่รอดเเน่ฝีมือเเค่นี้ เเต่นั้นมันก็ชีวิตเธอเขาไม่ได้สนอยู่เเล้ว ถ้วยกาเเฟลายหินอ่อนถูกยกมาจ่อริมฝีปากหยักลึก สายตาคมทอดมองไปยังสนามฝึกยิงปืน ที่มีร่างบางล้มลุกคลุกคลานกับการยิงปืนอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ ใจไม่ได้เสาะเหมือนหน้าตานิ
"เธอถือว่ามีการพัฒนาอยู่นะครับ" มือขวาอย่างอัลล์ที่ยืนอยู่ข้างหลังกล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ได้ยิน เเต่เขาก็เเค่ชายตามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวใหญ่
"หึ.." เขาเเค่ส่งเสียงในลำคอเบาๆ ไม่มีใครรู้ความคิดของเขาตอนนี้เเน่นอนว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงเอาชีวิตผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้มาเเขวนไว้บนเส้นด้าย มันก็จริงอยู่ที่พ่อเธอยกลูกสาวให้เขาเป็นการใช้หนี้ เเต่คนอย่าง เจ้าสัวรัสเตร ผู้ไม่เคยสนเรื่องเเบบนี้ กับยินยอมรับเธอมาขัดหนี้... เขากำลังคิดอะไรอยู่กันเเน่
"ชีวิตเธอมันไม่ได้มีประโยชน์ต่อฉันสักนิด ฉันก็เเค่เลือกที่จะหยิบยื่นทางที่จะรอดให้เธอเท่านั้นเอง" เขาเเค่ต้องการให้เธอทำงานให้คุ้มเงินที่เสียไปกับพ่อเธอหน่อยเท่านั้น ยังไงชีวิตเธอเขาก็ได้มาฟรีๆ เเค่จัดฉากนิดฉากหน่อยล่อคนที่คิดร้ายกับเขาออกมาเท่านั้นเอง ที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ได้ครึ่งหนึ่งของวงการนี้หรอก คนเจ้าเเผนการณ์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"เจ้าสัวครับ...เอ่อ" คนเป็นเจ้านายเงยหน้ามองมือขวาเล็กน้อย ปกติอัลล์จะไม่ใช่คนตัดสินใจช้าเเบบนี้มาก่อน เเต่พอมียัยตัวดีเข้ามา เหมือนมือขวาเขาจะค่อยๆเทความรู้สึกไปฝ่ายเธอด้วยหรือป่าว?
ไม่ได้การ
ตอนนี้เขากำลังถูกปองร้ายจากใครเเก๊งไหนเขายังไม่รู้ชัด เเต่ถ้าพวกมันเจาะจงมาที่เขาคนเดียวนั้นก็คงไม่คิดเเผนเเบบนี้ขึ้นมา เเต่ตอนนี้บอดี้การ์ดของหายสาบสูญไป สองวันถัดมาไปเจอก็เป็นศพไปเเล้ว รวมถึงผู้หญิงที่ผมควงออกงาน เธอจำเป็นที่มีเหตุต้องถึงคราดับของชีวิต พวกมันเหมือนต้องการจะทำอะไรบางอย่าง ซึ่งผมต้องหยุดพวกมันให้ได้ เเละพวกมันต้องชดใช้ให้กับชีวิตของลูกน้องที่เสียไป สวรรค์ก็ชั่งเป็นใจส่งผู้หญิงที่สวยเหมือนนางฟ้ามาให้เขาใช้ล่อเหยื่อซะอย่างนั้น ก็ในเมื่อชีวิตเธอไม่ได้มีค่าสำหรับเขาก็ต้องใช้ให้เธอไปเสี่ยงตายทุกรูปเเบบ...
มีเเต่อัลล์ที่อยู่ติดกับเธอจนมือขวาคนสนิทของเขาจะเอนเอียงไปทางเธอเเล้วด้วย ไม่ได้การหรอก ยัยนั้นต้องเเอบเอาอะไรให้มือขวาเขากินเเน่ สงสัยจะฝึกง่ายไปให้อิสระไม่ชอบอย่ามาร้องทีหลังเเล้วกัน เเววตาดุดันฉายขึ้นก่อนจะลุกขึ้นเเล้วเดินออกจากห้องรับรองใต้ดินนี้ไปเหลือไว้เเค่ร่างบางที่ซ้อมยิงปืนเเบบผิดเเบบถูกมั่วซั่วไปหมด
สองวันผ่านไปที่ฉันซ้อมยิงปืนหามรุ่งหามค่ำอย่างเอาเป็นเอาตาย ข้อมือที่มันเจ็บจนเเทบขยับไม่ได้มันกลับค่อยๆเคยชินมากขึ้น เเต่ฝีมือนั้นหรอ หึ คิดว่าเก่งใช่ไหมล่ะ เเต่เปล่าเลย เธอกับไม่มีการพัฒนาต่อยอดอะไรเลยด้วยซ้ำ ยิ่งซ้อมยิ่งห่วย ยิ่งพยายามยิ่งเป็นศูนย์ ถ้าเขาชวนเธอออกงานพรุ่งนี้ ชีวิตฉันก็คงจบพรุ่งนี้นั้นเเหละ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่ิองเสริมปรุงเเต่งใดๆ ถอดถอนลมหายใจเสียยาวเหยียด มือเรียวก็ขย่ำเเผ่นกระดาษที่มันวัดการประเมินการฝึกตลอดมาของเธออยู่
ฟิ่วว~
ก้อนกลมๆถูกโยนไปตกที่พื้นพร้อมอีกหลายก้อนที่ยับยู่ยี้ไม่ต่างกันต้นเหตุก็มาจากคนที่ยืนทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวอยู่ตอนนี้ ฉันคิดถึงลูก ถึงเเม้เขาจะไม่ใช่ลูกฉันจริงๆ เเต่ฉันก็เลี้ยงเขามากับมือ ถึงเเม้อีตานั้นจะบอกว่าไบรเนียร์ปลอดภัย เเต่ฉันเชื่อเขาได้หรอ รายละเอียดต่างๆก็ไม่บอก ฉันกวาดตามองรอบๆสนามยิงปืนที่มีเเต่ลูกน้องเขาไม่ต่ำกว่าร้อยเดินไปเดินมาอยู่ ฉันคงหนีได้หรอก ถ้าหนีได้ไกลสุดก็หน้าประตูฝึกซ้อมนี้เเหละ
เเต่วันนี้น้ำเเข็งสองก้อนไม่อยู่หนิ!!
ใบหน้างามเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะหุบยิ้มไว้ตามเดิมเพราะมีลูกน้องเขาอีกสองคนจับตามองฉันอยู่ฉันหยิบปืนมาควงอย่างใช้ความคิด
ทำยังไง? ทำยังไง?
ฉันไม่หวังให้ตัวเองรอดเเต่เธอเป็นห่วงไบรเนียร์ที่ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้ ใครพอจะช่วยเธอได้นะ คิดไปคิดมารูปคนคนหนึ่งก็ลอยเเวบเข้ามาในสมองฉัน ฉันอ้าปากค้างทำตาโต ใช่!
"ฉันลืมเเกไปได้ไงเนี้ย!" บอดี้การ์ดทั้งสองมองหน้าฉันเหมือนจับผิดเเต่ดีนะที่ฉันสบถเป็นภาษาไทย เกือบไปเเล้ว สองน้ำเเข็งคงกลับมาช่วงเย็นๆ เธอยังมีเวลาพอคิดได้ดังนั้นฉันก็คิดเเผนหลอกล่อบอดี้การ์ดสองคนนี้ทันที เอาว่ะลองดูฉันวางอุปกรณ์ทุกอย่างลงก่อนจะหมุนตัวไปหาพวกนั้นที่ยืนอยู่ทางออก เเต่พวกเขาเตรียมจะเดินตามฉันฉันเลยยกมือโบกไปมาเชิงว่า หยุด
"เอิ่ม..ฉันว่าฉันหิวเเล้วล่ะ นายช่วยไปซื้อต้มยำที่ร้านอาหารในโรงเเรมให้ฉันหน่อยได้ไหม" ฉันหันไปพูดกับคนที่ยืนมองฉันอยู่ฝั่งขวา ก่อนที่เจ้านี้จะยกเครื่องสื่อสาร ฉันเลยยกมือห้ามไว้ก่อน เอาไงดีๆคิดสิยัยสมองกลวง
"เอ่อ..นายไม่ต้องสั่งคนเอามาให้หรอก นายนั้นเเหละไปซื้ออยู่ใกล้เเค่นี้เอง เเค่นี้เอง.." ฉันย้ำอีกรอบพร้อมหงึกหัวงึกๆ หมอนี้มันหันไปมองคนข้างๆก่อนจะพยักหน้าให้ฉัน เยส! เข้าเเผน
ฉันต้องทำท่าเดินไปมา ใช่! ใช่! เมื่อตกลงกับตัวเองเสร็จฉันก็ทำสีหน้าเหมือนกังวลคิดไม่ตกพร้อมเดินวนไปมาหน้าบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่ง
"ทำไงดีเนี้ย ตายเเน่ๆ " ฉันทำท่าครุ่นคิดเเล้วหันมามองหน้าคนที่มองฉันเพราะความสงสัยอยู่ก่อนเเล้ว "ฉันอาจทำพวกนายเดือดร้อนเเน่ๆ เพราะเจ้าสัวบอกให้ฉันโทรหา ทุก 2 ชั่วโมง เเต่ฉันลืมไปว่าฝากโทรศัพท์ไว้กับอัลล์ พวกนายต้องซวยเเน่ๆ"
เเม้บอดี้การ์ดจะเเปลกใจว่าพวกเขาจะซวยยังไง ผู้หญิงตรงหน้าก็ทำท่าเหมือนหนูติดจั่น เดินวนไปมาเหมือนคนคิดมากจนเขาก็กลัวไปด้วยจริงๆ
"ถ้าเขาโกรธ เขาต้องมาลงที่พวกนายเเน่ๆ ฉันขอโทษล่วงหน้าเลยนะ เขาต้องคิดถึงฉันมากเเน่ๆ" ฉันทำหน้าสำนึกผิดเสียเต็มประดา ก่อนที่จะหันหลังให้พร้อมความสะอิดสะเอียดที่ขึ้นมาจ่อที่คอหอย ฉันเสเเสร้งเป็นตั้งเเต่มาอยู่ที่นี้เเหละ ฉันเหร่ตามองบอดี้การ์ดที่ความหาโทรศัพท์มือถือก่อนจะยื่นมันมาทางฉัน
"นี้ครับนายหญิงโทรได้เลยครับ" เขาพูดพร้อมถอยออกไปหลายก้าวให้ฉันได้คุยโทรศัพท์อย่างสะดวก ชื่อนายนี้มันศักดิ์สิทธิ์กับที่นี้จังเลยนะ ลูกน้องกลัวจนคอหดหมดเเล้ว มันก็ไม่เเปลกหรอก หน้านิ่งไร้อารมณ์ซะขนาดนั้น ฉันทีเเรกก็กลัวนะหลังๆอาจชิน..มั้ง พอได้โทรศัพท์มาตามเเผนฉันก็กดเบอร์ที่คุ้นเคย พร้อมหาที่หลบกล้องอย่างไม่ให้พวกนี้สงสัยที่สุด ฉันก็ทำท่าคุยยิ้มหวานทำท่าเอียงอายก่อนจะมาหลบที่มุมหนึ่ง
ถ้าแกไม่รับฉันตัดเพื่อนเเกเเน่!
(ฮัลโหล ใคร!) เสียงคุณหนูกรอกเข้ามาเหมือนโดนขัดใจอะไรมา ฉันยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักของตัวเอง 'อิงอิง' หรือเยี่ยอิงคุณหนูตระกูลหลี่ที่รำรวยมั่งคั่งในฮ่องกง ฉันระงับความตื่นเต้นก่อนที่จะกรอกเสียงตัวเองลงไป
"เอาเเต่ใจไม่เปลี่ยนเลยนะยัยคุณหนู" เสียงของปลายสายที่ดังสอดเเทรกเข้ามา ทำเอาเยี่ยอิงที่กำลังน้อยอกน้อยใจคนเป็นพี่ชายเเทบกรี้ดสลบ เสียงเเบบนี้ใช่เธอเเน่ เเล้วเธอหายไปไหนมา
(วาน่า! เเกจริงๆด้วยเเกหายไปไหนฉันติดต่อไม่ได้เลย ฮรือ)เสียงสะอึกสะอื้นทำเอาปลายสายคลี่ยิ้มสวย เเต่เธอมีเวลาไม่มาก เดี่ยวฉันจะอธิบายทีหลังนะเพื่อนรัก
"ตอนนี้ฉันเดือดร้อน ฉันต้องพึ่งเเก" ฉันเล่าทุกอย่างให้เธอฟังคร่าวๆเเต่ไม่บอกว่าตอนนี้ฉันอยู่ไหน อิงอิงรู้เเค่ว่าฉันโดนจับมาเป็นตัวล่อเป้าต่อให้เธอสงสัยมากมายเเต่เพื่อนเธอเหมือนจะเดือดร้อนจริงๆ ฉันคิดว่ายัยนั้นคงรู้ "เธอตามหาเด็กคนนั้นให้ฉัน อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด เเละไม่ต้องส่งอะไรมาให้ฉันนะ ฉันจะติดต่อไปเอง"
(โอเครๆ ฉันเข้าใจไว้เเกมาอธิบายทีหลังนะ เเกต้องทุกข์ใจเเน่ๆพวกมาเฟียมีเเต่เเก่ๆน่าเกลียด อี๋! เเกอย่าเสียตัวให้อีตาเเก่หนังเหี่ยวนะ)
ฉันหลุดอมยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อมีคนพูดถึงใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรหน้าน้ำเเข็งนั้น เป็นมาเฟียหนังย่นหน้าเหี่ยว
"ใช่เเก่มาก น่าเกลียดด้วย ไม่มีอะไรน่ามองเลย เเต่ฉันจะอดทน" ฉันยิ้มออกมาอย่างจริงใจในรอบสิบครั้งก็ว่าได้ เพื่อนก็คือเพื่อน เเละนี้ก็คือความหวังสุดท้ายของฉัน เเละฉันก็หวังเอาไว้มากเสียด้วย เพราะอิงอิงครอบครัวเธอก็มีอิธิพลมากเหมือนกัน คงไม่เกินกว่าเเรงเธอเเน่
(เอาเถอะๆ ถ้าเเกพูดต่อฉันอาจจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ไปช่วยเเกไม่ได้ เอาเป็นว่าฉันจะหาข้อมูลให้เร็วที่สุด เเละรอเเกติดต่อมานะ รักษาตัวเองดีๆนะวาน่า ฉันไม่อยากให้เเกเสียเวอร์จิ้นให้คนเเก่ น่าเกลียดจะตาย บ๊าย รักเเกนะ)
ปิ้ป! อิงอิงคงไม่รู้ว่าผู้ชายที่เธอว่าเเก่หนังหนาหน้าเหี่ยวนั้น จะเป็นเทพบุตรหล่อล้มละลายของสาวๆเเทบทั้งยุโรปรวมไปถึงเอเชีย เเถมยังเป็น 'พี่ชาย' ของเธอเองเสียด้วย...