EP03 ll ยืมตัวเป็นผัวเเปปดิ

1488 คำ
“เกลของกู” การพร่ำบ่นครั้งที่แปดร้อยของวันทำให้ผมรู้สึกผิด ตั้งแต่ที่ไอ้เต็มสิบแหกปากออกไปตอนนั้น ยัยจุดบอดกาแล็กซี่ผีพรายก็หายวับไปกับสายลมให้ผมหายใจได้คล่องคอขึ้นนิดนึง “เออน่ามึง ชะนีมีเยอะแยะ เศร้าเสียใจไปทำไม” “เงียบเลยมึงอ่ะ” มันว่าก่อนจะเอาเท้ากระทุ้งก้นผมที่นั่งอยู่บริเวณปลายเตียงของมัน พวกเราอยู่ห้องใกล้ๆ กันนั่นทำให้ผมมานั่งปลอบใจที่มันเสียดาวมหาลัยเพื่อเพื่อนหล่อๆ อย่างผม โอ้โห ยิ่งพูดยิ่งซาบซึ้ง บุญคุณนี้จะมิลืมเลย ขอทิชชู่ม้วนสิครับ “แม่งเพราะมึงเลยทำให้เกลคิดว่ากูเป็นเกย์!” “แหม เพื่อนครับ เป็นมึงมึงก็ทำแบบกูแหละน่า มึงก็เห็น อีปลาทะเลน้ำลึกนั่นมันตามกูมาทุกฝีก้าวขนาดนั้น ถ้าเพื่อนมึงเสียพรหมจรรย์ให้ชะนีแบบนั้น มึงจะยอมเหรอ?” “ใครก็ได้ที่ไม่ใช่กู!” “โหย เอาน่า ให้มันผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน มึงค่อยไปเคลียร์กับเค้าก็ได้ ให้อีปลาบึกน้ำจืดมันได้เหยื่อใหม่ก่อน โอเคไหม?” ก็สาบานว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ... “ไม่ กูไม่ช่วยมึงแล้ว มึงรู้ไหมวันนี้กูต้องรับโทรศัพท์กี่สาย!” ไอ้สิบโวยวายแล้วทำท่าจะถีบผมอีกรอบ “โทรศัพท์ใคร?” “ของกูสิ!” “เออ แล้วกูจะไปรู้กับมึงไหมละครับผม สมองและสติหน่อยครับผม โอ๊ย!”ผมสะดุ้งเมื่อเท้านั่นกระทุ้งตูดผมอีกทีอย่างโกรธๆ เห็นยอมนิดยอมหน่อยเอาเท้าสะกิดผมไม่เลิกเชียว! “ไปหาคนอื่นมาช่วยมึงแทนกูเลย ไอ้พันเอกไง มึงก็ไปขอให้มันช่วยดิ” มันโยนภาระอันหนักหน่วงไปให้คนอื่น ก่อนที่ผมจะถอนหายใจยาว ก็ผมอ้างชื่อมันไปแล้วปะวะ ขอให้ช่วยแค่นี้ทำเป็นอิดออด แล้วเรื่องอะไรผมจะยอมให้มันไปดี๊ด๊ากับน้องเกลผู้สวยปานนางฟ้านางธิดาจากสวรรค์ ส่วนผมต้องมากล้ำกลืนกับอีจุดบอดกาแล็กซี่ ผีในหลุมดำนี่คนเดียวด้วย! เป็นเพื่อนกันอ่ะ ต้องทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน ถูกปะ! “กูขอให้มึงช่วยเนียนเป็นแฟนกูแค่นี้ ทำเป็นกระเง้ากระงอด” ผมบ่นอุบ “มึงดูสารรูปมึงหน่อยดีไหม?” “ทำไม กูหน้าตาดีออก” ผมยืดอกแล้วทุบดังตุ้บๆ อย่างมั่นหน้า “แต่มึงเป็นผู้ชายยยย!!!” น้ำเสียงลากยาวนั่นโวยวายพร้อมกับฝ่าเท้าที่กระแทกเข้ามากลางหลัง ดูจากสถานการณ์แล้วมันคงไม่ได้คิดจะใช้เท้านวดหลังให้ผมเป็นแน่ “ผู้ชายอ่ะ มึงเข้าใจไหม!” “ก็เพราะแบบนั้น กูถึงให้มึงช่วยไง! มันจะได้หายไปจากชีวิตกู” ผมขยับออกจากเตียงก่อนจะยืนเท้าสะเอว ไม่รู้มันเห็นผมเป็นจักรยานหรือไง ถีบอยู่ได้ ไอ้เวร! “มึงก็ทำบุญให้มันไปที่ชอบๆ ซะสิ” “ก็มันเสือกชอบอยู่กับกูไงคร้าบบบ” ผมพยายามอธิบายไอ้เต็มสิบที่ดูสติหลุดเพราะอกหักอย่างแรง ผมก็เข้าใจมันนะ แต่ผมคิดว่า ณ จุดนี้ผมควรสงสารตัวเองมากกว่า คิดดูสิ อกหักจากชะนี ยังดีกว่าได้ผีกองกอยมาเป็นเมียนะ! “มึงคิดดูเหอะ ถ้ามันตามไปถึงบ้านกู เจ้าที่หน้าหมู่บ้านกูก็คงวิ่งอ่ะ” “โอ๊ย! แม่ง!” “เออน่า อย่าคิดมากไม่นานหรอก ช่วยกูแป๊ปเดียวเองนะมึงนะ” ผมออดอ้อนแล้วทำตาปิ๊งปั๊ง “ไม่” มันปฎิเสธเสียงแข็ง “น่า” แต่ผมก็ยังไม่วายอ้อนมันอีกนิดนึง ก็ไอ้สิบน่ะมันเป็นคนใจอ่อน... “โน!!” “สิบครับ” ผมพูดเสียงหวานแล้วจิ้มแก้มมันทีนึง “ครับพ่อมึงอ่ะ!” “น่า เนียนเป็นผัวกูแป๊ปเดียวเอง” ผมเอานิ้วชี้จิ้มเท้ามันอีกทีนึงเป็นการขอร้องแต่ได้รับปฏิกิริยาตอบสนองแบบไม่งามสักเท่าไหร่ แล้วจะให้ผมทำยังไงได้เล่า นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่มีวิธีไหนที่สมองน้อยๆ ผมจะสรรค์สร้างออกมาได้แล้ว จะให้รอยัยนั่นเบื่อไปเอง ผมไม่กลายเป็นจุลินทรีย์ตายไปซะก่อนเหรอ! แค่มองหน้าก็รู้สึกเหมือนโดนของแล้วอ่ะ “ตกลงให้กูเป็นผัวมึงหรือมึงเป็นผัวกู?” “เออ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ มันสำคัญตรงไหนวะ?” ผมว่าเมื่อไอ้เวรนั่นทำเสียงอ่อนเหมือนจะยอมขึ้นมานิดนึง แหงล่ะ ยังไงมันก็ไม่เหลืออะไรแล้วนี่ “เป็นเมียบ้าง เป็นผัวบ้าง สลับๆ กันไป จะได้ไม่เบื่อ เนอะๆๆๆๆ” “เนอะพ่อ...” มันพูดแบบไม่มีเสียงแล้วถอนหายใจอย่างเสียมิได้ “ที่ร๊ากกกกก” ผมหยอกมันอย่างกวนประสาทก่อนจะขยับใบหน้ามุ้งมิ้งเข้าไปใกล้ทำเอาไอ้เวรนั่นสะดุ้งเฮือกแล้วกระเด้งตัวไปติดหัวเตียง “อะไรๆๆ อะไรของมึง!” สาบานว่าไอ้เวรนั่นไม่รู้ว่าผมแกล้งมันเล่น ใบหน้ามันซีดเผือกพร้อมกับปรายสายตาลุกลี้ลุกลนมาทางผมอย่างไม่ไว้วางใจ ทำให้ผมยิ่งนึกสนุก “ฮั่นแน๊ ก็เราสองตกลงปลงใจกันแล้ว ผัวเมียอยู่กันสองต่อสอง... ฮิๆๆ” ผมแลบลิ้นแผล่บๆ เหมือนพวกโรคจิตก่อนจะหักนิ้วดังกร๊อบ พร้อมกับหมุนลำคอประหนึ่งจะลงสนามมวย “มามะ เรามาทำกิจกรรมใต้ร่มผ้าให้สมกับสถานะพวกเราดีกว่า อิอิ” “ไอ้เหี้ยไนท์ กูไม่เล่น!” “แล้วใครบอกว่ากูเล่น กูเอาจริงนะจ๊ะ ที่รักจ๋า” ผมยิ้มตาหยีก่อนจะคลานไปตามเตียงแล้วทำท่าแมวยั่วสวาท สะบัดตูดพอเป็นพิธี นิ้วทั้งห้าผายออกมาก่อนจะขย้ำดังฟืดกับผ้าปูเตียง ไอ้สิบผวาไปครู่นึงก่อนจะปรับโหมดโต้กลับผมอย่างรู้ทัน “ฮ่า มึงจะเล่นกับกูสินะ... ได้ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังนะ กูบอกก่อน” “เสียใจอะไรจ๊ะ ใครจะเสีย... เฮ้ย!!” ไม่ทันให้ริมฝีปากขยับจบประโยค ฝ่าเท้าขนาดเท่าใบหน้าก็ลอยมาปะทะกับผิวแก้มเนียนนุ่มที่ชุ่มชื้นด้วยคอลลาเจนของผม ก่อนที่แรงผลักจะทำเอาผมหงายโครมไปอีกทาง “อื้อหือ หน้ามึงนี่เหมาะกับไซส์ 42 ของฝ่าตีนกูมากเลยว่ะ” มันชื่นชมผลงานก่อนจะหัวเราะลั่น “บอกเลยว่าสากและหยาบมาก จากใจนะที่รัก ผมขอให้คุณปรับปรุงคุณภาพส้นตีนด่วน” ผมบ่นอุบก่อนจะลูบหน้าตัวเองเบาๆ ให้ตายเถอะ ถ้าผมสิวขึ้นจะทำยังไงวะครับ! “ทำไมล่ะ สากๆ หยาบๆ นี่ดีออก จั๊กกะจี้ดี ไม่ว่าอย่างนั้นเหรอครับ” ไอ้สิบยิ้มเยาะก่อนจะเอานิ้วโป้งเท้านั่นไล้ขึ้นมาตามรู้สึกถึงแรงหยาบกับกลิ่นสาบๆ นิดหน่อย... ไอ้เวร! “เนอะ” “โอ๊ยยยย!!” ผมหวีดร้องเมื่อสิ้นเสียงกวนๆ ไอ้สิบก็กดฝ่าเท้าลงมาที่แขนผมแรงๆ ก่อนจะโน้มตัวใช้มืออีกข้างมากดหัวผมฝังเข้ากับฟูกที่นอน “อะไรๆๆๆ มึงกดหัวกูทำไม กูเจ็บนะเนี่ย!” “ก็เห็นบอกอยากเล่นกิจกรรมใต้ร่มผ้าให้สมสถานะผัวเมีย” “แล้วเหยียบ... โอ๊ยๆๆๆๆ” ผมดิ้นเมื่อไอ้เวรนั่นขยับตัวมานั่งทับแผ่นหลังผมจากทางด้านหลัง ก่อนจะตบก้นผมดังฉาด! “ไอ้ซาดิสก์นี่!” “พูดใหม่นะไนท์ กูไม่ได้ซาดิสก์” ว่าแล้วมันก็หยิกก้นผมด้วยความหมั่นไส้จนความรู้สึกเจ็บแปล๊บแล่นพล่านเข้ามาทางเส้นประสาททำเอาผมเปล่งเสียงร้องโอดโอยไม่เลิก เพราะนอกจากหยิกแล้วมันยังบิดด้วยไง! “แค่ติดใจความรุนแรงเองนะจ๊ะ ที่ร๊ากกกก” ดูดู๊ มันย้อนผม! ผมจิ๊ปากอย่างเซ็งๆ ก่อนที่ไอ้สิบจะพูดต่อ “นี่กูยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับการแกล้งเป็นคู่เกย์กับมึงเลย ทั้งต้องอกหัก แถมยังโดนรุมประณามว่าชอบไม้ป่าเดียวกัน...” “แหม ช่วยเพื่อนแค่นี้ นี่มึงคบกูหวังผลประโยชน์เหรอไอ้สิบ ฮะ?” “มึงคิดดูสิ กูมีแต่เสียกับเสีย... มึงก็ควรเสียอะไรบ้าง” เสียงหัวเราะแฝงเลศนัยทำให้ผมหวั่นใจชอบกลเมื่อลมหายใจร้อนๆ ของคนด้านบนมันเริ่มขยับเข้ามาใกล้ใบหูผม ผมเคยได้ยินมาว่า มีผู้ชายบางส่วนที่ต่อให้ชอบผู้หญิงจริงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บางคนในนั้นก็ยังอยากลองกับผู้ชายด้วยกันเองสักครั้ง... แต่ผมไม่แน่ใจว่าไอ้บางคนที่หมายถึงน่ะมันจะรวมถึง... ไอ้เต็มสิบด้วยรึเปล่า? “อย่างเช่นเสียตัวเป็นต้น ☺”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม