Ep.1 มีเรื่องปรึกษา
-ไบรอัน-
ย้อนไปวันที่มีอาออกจากโรงพยาบาล
20นาทีก่อนหน้าที่อีริคจะโทรมา
"ครับแม่"
แม่ของผมโทรทางไกลมาจากอเมริกา
[ ไบรอัน ทำอะไรอยู่ลูก ]
เป็นคำถามที่แม่จะถามทุกครั้งที่โทรมา และผมก็มักจะตอบท่านด้วยคำตอบเดิมๆทุกครั้งไป
"กำลังตรวจบัญชีของผับอยู่ครับ"
[ เฮ้ออออออ ! แกก็เอาแต่ทำงานอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานซะที ! ]
ผมทำหน้าเซ็งทันทีที่แม่พูดจบ แต่คำถามของแม่ที่ตามมาทำเอาผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง !
[ ไบรอัน ! ไม่ใช่ว่าแกเป็นเกย์หรอกนะ !?]
ชิบหายแล้ว ! หรือแม่จะรู้ !?
"แม่ ! พูดอะไรน่ะ ! ผมไม่ได้เป็นเกย์ "
ผมรีบปฏิเสธจนลิ้นนี่แทบจะพันกัน ดีหน่อยที่แม่ไม่ได้วีดีโอคอลมา ไม่อย่างนั้นท่านคงจะเห็นพิรุธบนใบหน้าของผมแน่ๆ
[ แม่สงสัย ! อายุแกก็เข้าเลข3แล้ว แม่ยังไม่เคยเห็นแฟนแกเลยซักคน แล้วแกจะให้แม่คิดยังไง ? ]
ผมยกมือขึ้นกุมขมับ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีเลย ถึงจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันแต่แม่ก็ยังเป็นแม่อยู่วันยังค่ำ และด้วยความที่อยากให้แม่ไม่สบายใจผมก็เผลอหลุดปากโกหกออกไป !
"ผมไม่ได้เป็นเกย์ และตอนนี้ผมก็มีแฟนแล้วด้วย ! "
[ . . . . . ]
โกหกทีเดียว2เรื่องรวดเลยเป็นไง ทั้งเรื่องเป็นเกย์ ทั้งเรื่องไม่มีแฟน ชีวิตช่างบรรเทิง
นั่นล่ะครับเรื่องทั้งหมดก่อนที่อีริคจะโทรมาสั่งให้ผมเเอาเสื้อผ้าไปให้อีอา
เรื่องที่โกหกแม่ไปแบบนั้น ผมไม่ได้กังวลอะไรเท่าไหร่ เพราะถ้าแม่กลับมาที่ไทยแล้วถามหาแฟนของผม ผมก็จะบอกท่านว่าเราพึ่งเลิกกันไป เห็นไหมว่ามันไม่ใช่ปัญหา
แต่ตอนนี้ปัญหาของผมก็คือ. . .
ผมสับสนในตัวเอง. . . !
อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าผมชอบอีริค และผมก็เข้าใจว่าตัวเองเป็นเกย์ !
แต่. . .
เมื่อผมตัดใจจากอีริคได้ และพยายามมองคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ผมกลับไม่รู้สึกอะไรกับใครเลยซะงั้น !?
ผมลองทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นๆ ว่าตัวเองจะรู้สึกตื่นเต้น หรือมีอาการใจเต้นแรงบ้างรึเปล่า แต่นอกจากผมจะไม่มีอาการเหล่านั้นแล้ว ผมยังรู้สึกขนลุกทุกครั้งอีกต่างหาก
ตกลงผมเป็นหรือไม่เป็นกันแน่ ผมเริ่มงงใจกับตัวเอง !?
ตัดไปตอนมีอาออกจากโรงพยาบาล
(เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นพวกคุณคงรู้กันอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น)
ระหว่างทางเดินที่เชื่อมต่อกับลานจอดรถ
สายตาของผมดันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้น คนที่ชื่อ ' กิ่งกานดา ' หรือที่ผมแอบเรียกเธอในใจว่า ' ยัยหมอโรคจิต '
' โรคจิต ' ในความหมายของผมไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นโรคจิตนะ แต่เพราะเธอเป็นหมอจิตแพทย์ต่างหาก ผมถึงได้เรียกเธอแบบนั้น
พลันความคิดหนึ่งก็วาบเข้ามาในหัวของผม ความสับสนที่กำลังเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้ บางทีกิ่งกานดาคนนี้อาจจะช่วยผมได้ ในเมื่อเธอเป็นจิตเเพทย์
"อีริค ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระตัองไปทำ แยกกันตรงนี้นะ"
ผมหันไปบอกอีริค ก่อนจะเดินแยกไปอีกทางที่เห็นหมอกิ่งกานดาเดินหายไปเมื่อครู่
หมับ !
" ! "
ผมตรงเข้าไปจับแขนยัยหมอโรคจิตไว้ก่อนที่เธอจะเข้าไปนั่งในรถ เธอสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันกลับมามองผมอย่างตกใจพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของผม
"มีอะไร ! อย่าบอกนะว่าจะตามมาเรียกค่าทำขวัญน่ะ ?"
เมื่อตั้งสติได้ยัยนี่มันก็แหวใส่ผมทันที
"เปล่า. . .มีเรื่องอยากจะปรึกษานิดหน่อย"
ผมพูดเสียงเรียบ
เธอก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
"ฉันพักเที่ยงแล้วค่ะ กำลังจะไปกินข้าว คุณต้องไปยื่นบัตรที่ห้องทำบัตรก่อน แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะกลับมาตรวจให้ตามคิว"
พูดจบเธอก็หันกลับไปทำท่าจะเปิดประตูรถ
ปึ่ก !
ผมยื่นมือไปดันประตูรถไว้ไม่ยอมให้เธอเปิด จากนั้นก็แย่งกุญแจรถในมือของเธอมาถือไว้ซะเอง
"คุณ !"
"ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งรอคิวหรอกนะ เอาเป็นว่าจะเลี้ยงข้าวเที่ยงเธอละกัน"
พูดจบผมก็เดินนำเธอไปที่รถของผมทันที โดยไม่สนใจว่าเธอจะตามผมมาไหม เพราะยังไงเธอก็ต้องตามผมมาอยู่ดี ก็ในเมื่อกุญแจรถของเธออยู่กับผม
"เดี๋ยว !"
เธอส่งเสียงเรียก แล้วรีบเดินมาดักหน้าผม ในใจผมคิดว่าเธอคงจะโวยวายใส่ผมแน่ๆ แต่ที่ไหนได้. . .
"ขออาหารญี่ปุ่นนะคุณ"
"หึ ! เห็นแก่กิน "
ผมบ่นเบาๆพอให้เธอได้ยิน ก่อนจะจับมือเธอแล้วกระตุกเบาๆให้เดินตามผมไป
- ไบรอัน -