ตอนที่ 5 เอาคืน

1392 คำ
อัศวินจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เขาจำได้แม่น สายตาแบบนี้ หน้าตาไร้กรอบแว่นแบบนี้ เป็นคนๆเดียวกับที่สร้างความเจ็บแสบให้เขาที่ผับเมื่ออาทิตย์ก่อนแน่นอน ดารวีที่พึ่งได้สติ รีบถอยตัวออกจากมือใหญ่ที่พยุงเธอเอาไว้ พร้อมกับมองหาแว่นที่เธอใส่เพื่อปกปิดใบหน้าก่อนจะหยิบมันขึ้นมาใส่อีกรอบพร้อมกับเอ่ยขอตัวแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปทันที โดยมีสายตาของอัศวินมองตามอย่างไม่คลาดสายตา “เหลือเชื่อ เหอะๆๆๆ ยัยเฉิ่มนั้น กับยัยคนนี้...คือคนเดียวกัน เหอะๆๆ ตลกล่ะ” อัศวินที่ยังไม่อยากเชื่อถึงกับหัวเราะแห้งๆออกมา เมื่อเธอคนนั้นคือพนักงานของเขานี่เอง เธออยู่ใต้จมูกเขาแท้ๆแต่เขากลับไม่เคยสังเกต ก่อนที่ชายหนุ่มจะยิ้มเย็นออกมา “ได้เวลาแก้แค้นแล้ว คอยดูเถอะยัยเฉิ่มเอ้ย” บ.ก.หนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างหมายมาด เขาจะสั่งสอนหญิงสาวให้ไม่กล้ามาหือกับเขาอีกเลยคอยดูโทษฐานที่ทำให้เขาเจ็บตัว แถมทำให้เขาไม่เป็นอันทำงานตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาอีก “เฮือก ยัยวี ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ” ดารวีที่พึ่งวิ่งออกมาหยุดพักอยู่ตรงบันไดหนีไฟนั้นพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นลง เมื่อเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้น หญิงสาวดันไปใจเต้นแรงให้กับเจ้านายหนุ่มซะได้ เพียงแค่เขาจับต้องตัวของเธอ ขนทั้งร่างก็สามัคคีกันลุกเกรียว ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “แกเป็นอะไรยัยวี แกไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนี่ วู้ววว ใจเย็นลูกแม่ ใจเย็น” ดารวีพยายามสูดหายใจเข้าออกจนกระทั่งหัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นปกติ เธอจึงเดินกลับไปยังห้องที่ใช้ทำงาน แต่พอเริ่มทำงาน สมองเจ้ากรรมก็เอาแต่จินตนาการไปถึงเจ้านายหนุ่มของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายเธอตัดสินใจยกคอมฯกลับไปทำงานที่บ้าน เพราะยังไงอยู่นี่ก็คิดงานไม่ออกอยู่ดี เช้าวันต่อมา ดารวีต้องหอบคอมฯเครื่องโปรดมาทำงานที่บริษัททั้งๆที่วันนี้เธออุตส่าว่าจะได้นั่งทำงานอยู่บ้านอย่างสบายใจแล้วเชียว แต่ชัชวาลดันโทรมาบอกให้เธอเข้าบริษัทซะงั้น “เร็วยัยวี วันนี้ บ.ก.ใหญ่เรียกประชุมด่วน นี่คงใกล้เริ่มแล้วมั้ง” เสียงชัชวาลบอกขึ้นเมื่อเขาเดินลงมารอดารวีอยู่ที่ชั้นล่างเพื่อขึ้นไปพร้อมกัน ทำเอาหญิงสาวถึงกับรู้สึกงงที่หัวหน้ามารอรับเธอขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรนอกจากสาวเท้าเดินตามหลังไปทันที “อ่าว” แต่พอเดินเข้ามาในห้องประชุม ดารวีถึงกับต้องร้องออกมาอย่างแปลกใจ เพราะทั้งห้องมีเพียงอัศวิน ชัชวาลแล้วก็เธอ ไหนว่าเป็นประชุมสำคัญ แล้วนี่มีแค่นี้เองเหรอ “อ่าวยัยวี นั่งลงสิ จะยืนอยู่ทำไม” ชัชวาลรีบหันมาร้องบอกลูกน้องของตน ก่อนที่ดารวีจะเดินเข้ามานั่งอย่างงงๆ “อืม ตรงเวลา งั้นเริ่มเลยแล้วกัน” อัศวินที่นั่งรอได้สักพักแล้วพูดขึ้น ก่อนจะจับจ้องหน้าของนักเขียนสาวนิ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่ายัยเฉิ่มตรงหน้าตอนนี้จะเป็นคนๆเดียวกับที่เขาเจอที่ผับวันนั้น “เอ่อ คือ ขอโทษนะคะ นี่เราจะประชุมหัวข้ออะไรคะ” ดารวีที่ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยนั้นพูดขึ้น พลางมองหน้าคนนั้นคนนี้ที “อ่าว พี่ลืมบอกแกเหรอว่าแกต้องพรีเซนต์งานเขียนของแกทั้งหมด บ.ก.อยากฟังว่าแกเอาแนวคิดการแต่งนิยายมาจากไหน และทำไมงานเขียนของแกถึงมีชื่อเสียงขนาดนั้น” ชัชวาลรีบกระซิบบอก สงสัยเขาลืมเพราะมัวแต่ตื่นเต้นตกใจอยู่ ส่วนดารวี พอได้ยินที่ชัชวาลบอก ทำเอาหญิงสาวถึงกับไปไม่เป็น เรื่องสำคัญแบบนี้ชัชวาลดันลืมบอกเธอเหรอเนี่ย แล้วเธอจะเอาอะไรไปพรีเซนต์ในเมื่อไม่ได้เตรียมอะไรมาสักอย่าง “เอ่อ คือ...” “เร็ว ผมมีประชุมต่อ” อัศวินที่พอจะเดาเหตุการณ์ออก รีบพูดดักทางเอาไว้ ยังไงวันนี้เขาต้องเล่นงานหญิงสาวคืนบ้างที่บังอาจมาว่าแถมยังทำเขาเจ็บตัวอีก เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ เขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นและทำอะไรไร้สาระขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เขากลับอยากทำมัน ส่วนดารวี เมื่อเลี่ยงไม่ได้ เธอค่อยๆลุกขึ้นยืน ก่อนจะเริ่มพูดถึงงานเขียนของเธอ แต่พอมองหน้าเจ้านายหนุ่มเธอกลับแทบพูดอะไรไม่ออก จะให้เธอบอกได้ยังไงเกี่ยวกับงานของเธอ เพราะมันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องบนเตียงทั้งนั้น และมันก็เป็นแค่จินตนาการและการแอบลักจำขโมยจำอีกนิดหน่อยเอง “แนวคิดในการเขียนนิยายของดิฉัน คือว่า...มันมาจากจินตนาการค่ะ จินตนาการล้วนๆกับการหาข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อย” “หึ จินตนาการงั้นเหรอ อย่าบอกนะที่คุณแต่งได้ขนาดนั้นแค่จินตนาการ หึหึ สงสัยการจินตนาการของคุณจะต้องมีแต่เรื่องพวกนั้นละสิถึงทำได้ขนาดนี้” คำพูดของอัศวิน ทำเอาทั้งชัชวาลและดารวีถึงกับอ้าปากค้าง ชัชวาลนั้นทีแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอัศวินถึงอยากประชุมกับเขาและดารวี และตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจ ส่วนดารวีนั้นตอนนี้ในใจเริ่มกรุ่นโกรธเจ้านายหนุ่มเสียแล้ว เธอเริ่มคิดว่าที่เขาทำอย่างนี้เพราะอยากแก้เผ็ดที่เธอทำร้ายเขาวันนั้นเป็นแน่ “ค่ะ จิตนาการ แล้วดิฉันก็ไม่ทราบด้วยว่า ผลงานที่ขายดีและทำกำไรให้บริษัทมากมายของดิฉัน จะเป็นปัญหาถึงกับต้องเรียกประชุมแถมยังมาโดนกระแนะกระแหนอย่างนี้ แล้วอีกอย่างนักเขียนจะเขียนอะไรมันก็คือผลงานของเขา ดิฉันก็ไม่ได้เขียนผิดศีลธรรมจรรยาบรรณอะไรเลยสักนิด ถึงจะต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไร” ดารวีร่ายยาวออกมาอย่างเหลืออด ทำเอาชัชวาลที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมองหน้าเจ้านายที ลูกน้องที เริ่มเอะใจแล้วว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เขารู้มาแน่นอน “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่อยากฟังจากปากเจ้าของผลงาน งั้นถ้าได้มีประสบการณ์โดยตรง คุณคงเขียนได้ดีกว่านี้...ใช่ไหม” ดารวีกำมือแน่น เธออยากเดินเข้าไปชกหน้ายียวนนั้นเหลือเกินถ้าไม่กลัวว่าจะมีปัญหา “โอเค ผมเข้าใจแล้ว เลิกประชุมแค่นี้แหละ” พูดจบอัศวินก็เดินออกไปทันที ทำเอาอีกสองคนในห้องได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างอัศวินจะมาทำอะไรไร้สาระและเสียเวลาแบบนี้ “วีไม่เข้าใจ วีไม่เข้าใจ!!!” ดารวีตะโกนออกมาอย่างเหลืออด เมื่อเห็นว่าเขาออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว “เออ ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าแต่แกกับ บ.ก.ใหญ่มีอะไรกันรึเปล่า ดูแปลกๆชอบกล” “ไม่มงไม่มีอะไรกันทั้งนั้นแหละ!! วันนี้วีไม่เขียนงานที่นี่นะ ไม่มีอารมณ์!!!” ดารวีบอกขึ้นพร้อมกับเดินมาหอบของบนโต๊ะแล้วออกจากห้องประชุมไปทันที “อะไรกันวะเนี่ยยยยยย” ชัชวาลตะโกนออกมาอย่างสับสน แล้วนี่เขาเข้ามานั่งในห้องนี้ทำไมยังไม่เข้าใจเลยสักนิด ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมตามทั้งสองไป “อะไรนะ!!! บ.ก.ใหญ่อ่ะนะจะไร้เหตุผลขนาดนั้น หรือว่าเขาจำแกได้ยัยวี” “บ้า จะไปจำได้ยังไงในเมื่อแกดูสภาพฉันตอนนี้กับตอนนั้นสิ แทบจะเป็นคนละคน ฉันว่านะ อีตานี่ต้องการแกล้งฉันที่ดันไปทำหน้าทำตาใส่เขาวันนั้นแน่นอน” ดารวีกับมธุรสนั่งคุยกันถึงสาเหตุที่อัศวินเป็นแบบนั้น แต่ก็ได้แค่เดา เพราะสองสาวไม่รู้ความจริงอะไรสักอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม