ตอน 8

3140 คำ
"นี่ขโมยข้าวเพื่อนกินอีกแล้วนะ นิสัยไม่ดีเดี๋ยวไม่มีเพื่อนคบนะ แหนะ! ยังไม่ไปอีก แฮร์..." ส้มจี๊ดทำท่าแยกเขี้ยวตามสุนัขตัวเล็กในวัดก่อนเอาไม้ไล่ไปไกลๆ แกนะไอ้หางด้วนขนาดฉันไม่เคยทำอะไรใครยังไม่มีคนอยากคบเลย อยากเป็นเหมือนฉันหรือไง "ส้มจี๊ดอย่าลืมให้น้ำต้นไม้ด้วยนะ เดี๋ยวพ่อไปกวาดศาลาวัดก่อนพรุ่งนี้วันหยุดคนคงจะมาทำบุญเยอะ" นายตุเอาขาเทียมที่เริ่มเก่าแล้วมาสวมใส่ขาข้างซ้ายเพื่อที่จะให้เดินได้ปกติเหมือนคนทั่วไป ไปๆ มาเขากับลูกสาวก็อาศัยอยู่ที่วัดซะเลยคอยช่วยงานที่วัดซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมด้วยโดยนายตุได้ช่วยงานจิปาถะในวัด ส่วนส้มจี๊ดได้ไปประจำอยู่ที่ร้านขายกาแฟขางวัด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ดูเธอจะสดใสขึ้นมากไม่อมทุกข์ไว้ตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนเพราะเจอแต่คนที่ใจดีกับเธอ แผลตามตัวค่อยๆ จางลงแล้วจนเธอกล้าที่จะใส่เสื้อแขนสั้นโชว์ผิวขาวอมชมพู "ส้มจี๊ดมานี่ป้าตัดผมให้ เห็นแล้วรำคาญตา หน้าตาก็ดีจะเอาผมมาบังหน้าทำไม แล้วดูเสื้อผ้าสิเชยมากกก... เก่าก็เก่านี่ใส่ของบริจาคมาใช่มั้ย" จะไม่เชยได้อย่างไรก็มันเป็นชุดที่ป้าเธอบริจาคให้ เสื้อผ้าดีๆ ที่ลุงเธอซื้อให้นางก็บอกว่าเธอไม่ชอบก่อนจะเอาไปให้มินนี่หมด ป้าจิ้บเจ้าของร้านกาแฟที่จ้างส้มจี๊ดทำงานอาสาตัดผมให้ส้มจี๊ดใหม่ อีกทั้งยังเอาเสื้อผ้าที่ลูกสาวนางไม่ใส่แล้วมาให้อีก ซึ่งมันดูดีกว่าของที่เธอใส่อยู่มาก "พอแต่งตัวใหม่ตัดผมเผ้าออกน่ารักมากอย่างกับคนละคนเลย" ว้าว... นี่เราเหรอตาฝาดหรือเปล่า เหมือนตุ๊กตายังไงไม่รู้แปลกตาชะมัด จะว่าไปไม่ได้เอาผมข้างหน้าออกนานละสบายหัวจัง "น้องแตงโมปั่น เฮ้ยน่ารักว่ะ... ชื่อไรอะสนใจไปแว๊นกับพี่ปะ พี่ชื่อปิงบ้านอยู่ท้ายวัดนี่เอง" เพี๊ยะ! "ป้าจิ้บมาตีหัวผมไมอ่า..." "อย่ายุ่งกับส้มจี๊ดมึงอยากเสียก็เสียไปคนเดียว มาสั่งน้ำไหนละตังค์กูไม่ให้กินฟรีนะไม่เคยช่วยงานอะไรเลย" "บ่นไรป้า หนวกหู... ต่อหน้าสาวนะหลานนะเนี่ยหลานนนน!" ส้มจี๊ดแอบยิ้มให้กับสองป้าหลานที่ทะเลาะกันอย่างกับเด็ก ปิงเป็นหลานชายของป้าจิ้บเจ้าของร้านถือว่าหน้าตาดีมากคนหนึ่งออกแนวคมเข้มดูและเป็นคนติดนิสัยกวนหน่อยๆ ป้าจิ้บแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันจึงทราบว่าปิงเรียนอยู่ปีสามคณะวิศวกรรมที่เดียวกับเธอ เขาจะมาช่วยงานที่ร้านตอนที่ไม่มีเรียน "แน่ะๆ มีแอบยิ้มให้ด้วยหล่อละสิ ยิ้มให้แบบนี้ถือว่าเป็นแฟนแล้วนะ" ปิงแหย่ส้มจี๊ดเล่นจนเธอแอบยิ้มด้วยความอาย ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเธอมาก่อน "ไอ้ต้าเดินเร็วๆ สิวะฉันรีบ" "ไรวะเฮียคนกำลังนอนเพลินๆ มึงไปคนเดี๋ยวไม่ได้เหรอครับ" หาววว... โอ้ย ง่วงโว้ยย! พึ่งสิบเอ็ดโมงจะรีบตื่นไปทำไมงานมันไม่หนีไปไหนหรอก จะรีบขยันไปไหนหรือว่าอีเฮียจะตายแล้ว โธ่... ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ ฮือ ฮือ ต้องลำบากไปหาซื้อชุดดำมายืนร้องไห้หน้างานศพแล้วสิเรา "มึงจะเพ้อเจ้ออีกนานมั้ยไอ้น้องเวร กูแค่ให้มึงขับรถไปส่งที่ประชุมแค่นี้จะตายห่า ไม่ได้ดังใจสักคนทำงานยังกับคนง่อยแดก" เสือเดินขึ้นรถที่จอดไว้หน้าบ้านให้น้องชายขับรถให้เพราะเจ็บมือไม่หายจากการชกต่อยกับคู่อริจนล่มผิดท่า วันนี้พ่อเขาเรียกให้ไปประชุมตอนบ่ายถ้าไปสายคงจะโดนต่อว่าอีก เขาขี้เกียจจะฟังเสียงคนแก่บ่น "ไงจ๊ะเสือ นึกว่าจะโดดประชุมเหมือนคราวที่แล้วน้าอุตส่าห์เตรียมฉลองเลยนะคิดกว่าเสือไม่มา" มาริสาภรรยาใหม่ของพ่อเขาพูดจากระแนะกระแหนจนชีต้าที่ยืนใกล้อยากจะเอาหนังยางดีดปากห้อยๆ ของนาง "ป้าห้อย นั่นปากเหรอทำไมมันห้อยจังแอบปากเน่าด้วยหรือเปล่าทำไมมันมีกลิ่นเหม็นอยู่แถวนี้" ชีต้าย่นจมูกใส่มาริสา เจอสองคนนี้นางต้องอารมณ์เสียทุกที มาริสาขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงจึงเดินจากไป หลังจากประชุมเครียดสองชั่วโมงผ่านไปเรื่องยอดผลิตอาหารของโรงงานที่น้อยลง เสือถอดเสื้อสูทออกไปไกลตัวด้วยความร้อนแม้ในห้องจะเปิดแอร์ฉ่ำสิบแปดองศาจนชีต้าที่นั่งเล่นเกมอยู่หลังห้องตัวสั่น "คุณพุทธิชัยครับเราติดต่อคุณพจณีไม่ได้เลย ผมไปสืบตามบ้านญาติก็ไม่ได้ไปหาไม่รู้ไปอยู่ไหนกัน ที่มหาลัยลูกสาวกับหลานสาวก็ไม่ไปเรียนส่วนลูกชายคนโตที่เรียนปริญญาโทก็ลาออกไปทำงานต่างประเทศครับ" ทนายความรายงานเรื่องลูกหนี้ที่ทำท่าจะเบี้ยวให้ฟัง นายปฐมพ่อของเสือที่ดำรงตำแหน่งประธานยืนฟังสีหน้าไม่พอใจที่เสือทำงานไม่ได้ดั่งใจ "ให้ไปทวงหนี้แค่นี้ก็ไม่ได้เรื่อง แล้วฉันจะกล้าให้แกมาดูแลธุรกิจได้ยังไง" นี่ก็ยกที่สามแล้วที่เริ่มมีปากเสียงกัน เสือมองหน้าพ่อด้วยแววตาแข็งกร้าว "คงจะห่วยเหมือนพ่อนั่นแหละ คนสนิทของตัวเองยังปล่อยให้เขาโกงเงินไปได้ แล้วไง... อยู่ๆ มาโยนขี้ให้ผมทำอีกหัดใช้สมองบ้างเถอะดีแต่ด่า" เพล้ง!! นายปฐมโยนแก้วน้ำลงพื้นจนแตกด้วยความโมโหที่ลูกชายกล้ายอกย้อนเขา "แกเป็นแค่ลูกไม่มีสิทธิ์มาขึ้นเสียงกับฉัน! ที่ชีวิตพวกแกอยู่ดีกินดีทุกวันนี้ก็เพราะฉันบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ!!" ท่านตวาดเสือลั่นห้องประชุมที่ผู้บริหารกลับกันหมดแล้ว เสือไม่รอให้ผู้เป็นพ่อไล่เดินออกไปอย่างเร็วจนชนกับมาริสาที่หน้าประตูก่อนจะผลักนางจนล้มหัวโขกกับเหลี่ยมประตูจนหัวแตก "ไอ้เสือ!!" นายปฐมรีบเข้าไปดูภรรยาที่ยังกองที่พื้นเอามือจับหน้าผากที่มีเลือดซิบสีหน้าเจ็บปวด ฉิบหายแล้ว... ทำไมกูต้องมาอยู่เหตุการณ์แบบนี้ด้วยวะ ชีต้าเอ้ย... นั่นก็พ่อบังเกิดเกล้านี่ก็พี่ชายคลานตามกันมาจะเข้าข้างใครดีวะตีนหนักทั้งคู่เลย "แกรีบพาพี่แกออกไปไกลหน้าฉันเลยก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวไปมากกว่านี้!!" "เหอะ กลัวตายล่ะ..." ขอให้เลือดออกจากตัวตายห่าไปเลยชอบแย่งของคนอื่นดีนัก ตัวเสนียด เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้ที่เข้ามาแย่งพ่อจากแม่ทั้งๆ ที่รู้ว่าพ่อเขามีลูกเมียแล้ว พ่อเขาทำได้แค่ขอโทษท่านไม่ได้รักแม่ของเขา ไม่รักแล้วมาแต่งงานด้วยทำไมไม่ปล่อยให้นางไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่งงานอยู่กินกันเกือบยี่สิบแต่พอเห็นผู้หญิงคนนี้กลับทิ้งแม่เขาหน้าตาเฉย แล้วจะให้เขายอมรับคนที่ทำให้บ้านไม่เป็นบ้านได้อย่างไร นอกจากแม่เขาแล้วผู้หญิงทุกคนไม่มีค่าพอสำหรับเขา แต่ละคนเข้าหาเพราะผลประโยชน์ทั้งนั้น "เฮียรอด้วย! อีเฮียยย!! แล้วกูจะกลับยังไงวะโว้ยยย!! ทิ้งกูอีกแล้วไอ้ห่าสักวันจะเตะปากมึงให้ได้เลยคอยดูไอ้พี่บ้า!!" ฮือ ฮือ ทิ้งน้องชายผู้น่ารักได้ลงคอเงินก็ไม่ได้เอามาสักบาทกลับเข้าไปขอพ่อก็ไม่ได้ มือถือก็แบตหมดคนหล่อเซ็ง ไถ่เงินใครค่ารถดีวะ รปภหรือแม่บ้านดี "เป็นไงลูกไปทำงานกับป้าจิ้บสนุกมั้ย" นายตุเห็นลูกสาวกลับที่พักก็หยุดมือทันที เธอยิ้มๆ ให้ชโงกหน้าดูในจานว่ามีอาหารอะไรบ้าง "ก็สนุกดีค่ะคุณป้าใจดีมาก หนูชงน้ำเป็นตั้งหลายอย่าง" อยู่ที่นี่ถึงห้องจะไม่ใหญ่โตนอนสบายเหมือนบ้านของลุงแต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นสบายใจกว่าเยอะ อาหารการกินถึงจะไม่หรูหราเป็นแค่กับข้าวก้นบาตแต่มันก็ทำให้พวกเธออิ่มท้องในวันที่ไม่เหลืออะไรสักอย่าง เธอขอแค่นี้ก็พอแล้วไม่ต้องการอะไรมากมาย "มีแกงพแนงกับแกงจืดเต้าหู้ของเมื่อเช้าพ่อตุใส่ตูเย็นไว้ กินเยอะๆ นะลูกหนูผอมจนจะเห็นกระดูกละ "น้องส้มจี๊ด! ลุงตุ!" เธอมองตามเสียงเห็นปิงเดินถือถุงอาหารหลายอย่างมาทางเธอ "พอดีเลยผมซื้ออาหารมาเยอะแยะแต่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเอามาให้น้องทาน" ปิงวางถุงอาหารสามอย่างดูหน้าตาหน้าทานทั้งนั้น อันที่จริงเขาเห็นสองพ่อลูกกินแต่อาหารเดิมๆ กลัวส้มจี๊ดจะเบื่อเลยซื้อกับข้าวมาเลี้ยงเธอ ปิงดูจะชอบพอส้มจี๊ดไม่น้อยเพราะเธอดูเรียบร้อยสุภาพผิดกับผู้หญิงสมัยนี้ เห็นหน้าครั้งแรกเขาก็ถูกชะตาทันทียิ่งป้าเขาเล่าเรื่องของเธอให้ฟังแล้วเขายิ่งสงสารอยากจะปกป้องเธอ "พี่ปิงจะพาส้มจี๊ดไปไหนคะ นี่... อย่าลากแขนแรงสิเจ็บนะ" "โทษที" ปิงเปลี่ยนเป็นกุมมือแทน ที่แรกเธอก็ชักออกด้วยไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้าได้แต่จับชายเสื้อเดินตาม แต่คนเริ่มเยอะขึ้นเธอกลัวหลงทางจึงยอมให้เขากุมมือเธอแทน ปิงพาส้มจี๊ดไปเที่ยวตลาดตอนกลางคืน ทีแรกเธอว่าจะไม่มาเพราะไม่เคยออกมาเที่ยวตอนกลางคืนแบบนี้มาก่อนแต่พ่อเธอบอกให้มาเที่ยวเล่นบ้างจะได้ผ่อนคลาย นายตุกล้าปล่อยลูกสาวมาด้วยเพราะหลวงพ่อที่วัดการันตีปิงไว้แล้วด้วยรู้จักตั้งแต่เด็ก อีกทั้งตลอดหนึ่งเดือนที่อยู่ที่นี่เขาเป็นคนที่คอยดูแลพูดคุยหยอกล้อจนเธอกล้าพูดคุยกับคนอื่นแปลกหน้าที่เข้ามาทัก "ร้านนี่แหละที่พี่จะพามา เสื้อร้านนี้สวยน่ารักเหมาะกับส้มจี๊ดมาก ดูสิมีสีชมพูด้วยสวยมะร้านคนรู้จักพี่เอง" ปิงพาส้มจี๊ดมาดูเสื้อผ้าผู้หญิงที่มีให้เลือกมากมายทั้งเครื่องประดับเสื้อผ้าและรองเท้าเยอะจนส้มจี๊ดตาลาย "พี่ปิงไปกันเถอะส้มจี๊ดไม่มีเงิน" เธอดึงชายเสื้อให้เขาออกจากร้าน "ใครจะให้จ่ายเล่าเดี๋ยวซื้อให้ ตัวไม่กี่ร้อยเอง" ปิงเอาเสื้อลองทาบกับตัวหญิงสาวที่มองตาปริบก่อนจะส่งเสื้อให้พนักงานขายให้ใส่ถุง ส้มจี๊ดดูลำบากใจมากแต่ปิงไม่สนเขาเห็นเธอใส่แต่เสื้อผ้าตัวเก่าๆ เขาพอจะมีเงินอยู่บ้างเลยอยากซื้อให้เป็นขอขวัญต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่ "ขอบคุณนะถ้าส้มจี๊ดมีตังค์จะรีบใช้คืนเลยค่ะ" "ตอบแทนด้วยการเป็นแฟนพี่ได้ปะล่ะ" "ไม่ได้จ๊ะ" "หว่า... แห้วเลย ปะกินข้าวกันเสต็กมั้ย?" ทั้งสองไปนั่งทานเสต็กฟังเพลงเบาๆ บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คนที่มากินดื่มช้อป ส้มจี๊ดดูจะตื่นตาตื่นใจกว่าใครอะไรก็เป็นของแปลกตาสำหรับเธอจนปิงอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอไปอยู่ป่ามาหรืออย่างไร "หนูไม่เคยออกมาเที่ยวเลยเหรอ?" เธอพยักหน้ารับหันมองผู้คนที่เดินสวนไปมา ดูการแต่งตัวของแต่ละคนจัดเต็มจนเธอลายตา "อยากไปดูวงดนตรีมั้ยตรงโน้นมี" "ไปค่ะ" เธอเห็นคนเดินไปทางฝั่งดนตรีเยอะดูท่าทางสนุกก็อยากจะไปบ้าง รีบทานเสต็กหมูให้หมดโดยเร็ว "ไอ้แดนกินเร็วๆ นะมึงกูขี้เกียจฟังเสียงบ่นไอ้ปาล์มมี่ทุกวันนี้กูคิดว่ามันเป็นแม่อีกคนละ บ่นเก่งชิบ" "เออ... รอแป้บกูยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยนะเว้ย" เสือกับแดนแวะทานเสต็กร้านเดียวกันกับส้มจี๊ดโดยที่ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ส้มจี๊ดก้มหน้าก้มตาทายอย่างเดียวไม่ทันมองโต๊ะตรงข้ามว่ามีคนจ้องอยู่ไม่สบอารมณ์อย่างแรง "ยัยแคระหายหน้าไปหลายอาทิตย์มาแรดกับไอ้หลินปิงนี่เอง" "ไรวะเสือ?" เขาชี้ไปที่ส้มจี๊ด แดนแทบจะพ้นน้ำออกจากปากพวานาไม่ให้เสืออาละวาด เหี้ยแล้วไงหายไปกับไอ้ปิงคู่แค้นคู่อาฆาตนี่เอง เอาไงดีกูร้านอาหารเขาจะพังไม่วะ แดนไม่ทันได้ห้ามเสือก็ลุกไปกระชากตัวส้มจี๊ดออกมาจากโต๊ะ ส้มจี๊ดหน้าซีดตกใจที่เห็นเสือ "พี่เสือ!" "ใช้ยังจำฉันได้เหรอ?" "ไรวะไอ้เสือมาดึงเขาทำไมพูดกันดีๆ ก็ได้!?" ปิงตกใจที่อยู่ๆ ส้มจี๊ดก็โดนกระชากตัวออกไปอย่างแรง "มึงไม่ต้องเสือกเป็นเรื่องกูกับยัยส้มเน่านี่!" เสือพยายามลากส้มจี๊ดออกนอกร้านไม่สนว่าตัวเธอจะชนกับอะไรบ้าง "พี่ปล่อยส้มจี๊ดนะหนูเจ็บ! ปล่อย!!" สมจี๊ดร้องด้วยความเจ็บเพราะท้องกระแทกกับโต๊ะอาหารอย่างแรง "เป็นแค่ลูกหนี้กล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอ! ฉันอุตส่าห์ใจดีค่าเสื้อก็ลดให้! หนี้ตั้งหลายสิบล้านฉันก็ใจดีไม่จับเข้าคุก! อยู่ๆ ก็หายหน้าไปแล้วป้าเธออีก อยู่ๆ ก็หนีไปเลยคิดจะเบี้ยวฉันเหรอพวกสิบแปดมงกฎ!!" "หนูไม่ได้เบี้ยวแต่มันไม่ใช้หนี้ของหนู! พ่อบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องสนพวกคุณลุงคุณป้าเป็นคนโกงแล้วเกี่ยวอะไรกับส้มจี๊ดด้วยเล่าก็ไปทวงกับคุณป้าสิ!!" "จะไม่เกี่ยวได้ไงเงินที่เธอกินเธอใช้ชีวิตสุขสบายนั่นมันก็เงินพวกฉัน! เพราะฉนั้นหนี้ครึ่งหนึ่งเธอต้องรับผิดชอบ!!" เสือผลักคนตรงหน้าใส่กำแพงด้านหลังอย่างแรงจนเธอน้ำตาคลอด้วยความเจ็บและตกใจ ปิงสะบัดแดนออกได้แล้วก็วิ่งหาสองคนจนทันเห็นเสือรังแกส้มจี๊ดก็ตรงเข้าไปต่อยทันทีจนล้ม เสือเองก็ไม่ยอมลุกขึ้นถีบคืนปิงล้มไปโดนโต๊ะแก้วตกแตกกระจายก่อนจะเข้ามาแลกหมัดกัน ทั้งสองไม่ถูกกันอยู่แล้วเจอหน้ากันที่ไรทะเลาะกันทุกที แดนพยายามเข้าไปห้ามแต่โดนลูกหลงไปหลายหมัดจนเซยอมแพ้ปล่อยให้ตีกัน เขาหันไปมองส้มจี๊ดแต่เธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก่อนเหลือบไปเห็นเธอมุดเข้าไปใต้โต๊ะอาหารน้ำตาแห่งความหวาดกลัวหลั่งไหลออกมา เธอร้องไห้เอามือปิดหูหลับตานั่งตัวสั่นเทิ่มอย่างกับเด็กที่กำลังกลัวอะไรบางอย่าง "พวกมึงเลิกกัดกันได้แล้ว! หยุด! แม่งเอ้ยกูบอกให้หยุด!!" ซ่า.... แดนยกเหยือกน้ำแข็งที่ละลายแล้วสาดใส่หน้าทั้งสองคนจนคืนสติหันมาจะเล่นงานเขาแทน "อย่าพึ่งตีกูพวกมึงดูยัยนั่นก่อนมุดใต้โต๊ะแล้ว!" ปิงเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าไปหาทันทีพร้อมเรียกให้เธอออกมาข้างนอก "ส้มจี๊ดไม่ออก ฮือ.... ฮือ.... พอแล้วหนูกลัวแล้ว... อย่าทำอะไรหนูเลยหนูจะไม่ดื้อจะเชื่อฟังทุกคนอย่าตีหนูเลยนะหนูเจ็บ... ฮือ ฮือ" ส้มจี๊ดสะอื้นไห้ไม่หยุด ปากก็พูดพึมพำคนเดียวอย่างกับคนเสียสติ ปิงที่รู้จากป้าจิ้บว่าเธอเคยโดนทำร้ายมาก็เข้าใจเหตุการณ์ เมื่อครู่ที่เขาทะเลาะกับเสือคงจะไปซ้ำเหตุการณ์ที่เคยเจอ "ชิบหายตายห่าละที่นี้อาการแบบนี้ไม่เคยเจอด้วย ส้มจี๊ด.... นี่พี่ปิงเองพี่ขอโทษพี่ไม่ทะเลาะกันแล้วนะคนดีออกมาเถอะ.... พี่สัญญาแล้วไงว่าจะไม่มีใครทำร้ายน้องอีก" ปิงพยายามปลอบโยนเธอเบาๆ ท่ามกลางสายตาของเสือกับแดนที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น "ยัยนั่นเป็นอะไร!" "เพราะมึงนั่นแหละ! น้องพึ่งโดนทำร้ายมาอาการกำลังจะดีขึ้นแต่มึงยังมาซ้ำแผลเก่าอีกมึงรีบไปไกลๆ ตีนกูเลย! ส้มจี๊ดกลับบ้านกันนะคะไปหาพ่อตุไง...." คนตัวเล็กยังสะอื่นใต้โต๊ะไม่หยุดก่อนลืมตามองทุกคนตาแดงกร่ำเต็มด้วยน้ำตาอาบสองแก้ม เธอนั่งอยู่อย่างนั้นเกือบยี่สิบนาทีก่อนจะค่อยๆ คลานออกมาปิงถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ค่อยๆ ดึงเธอมาใกล้ๆ แล้วลูบผมเบาๆ ปลอบ เสือยืนกอดอกดูส้มจี๊ดไม่เข้าใจอาการที่เธอเป็นรู้สึกหงุดหงิดที่ปิงอยู่ใกล้เธอ "จะพาลูกหนี้ฉันไปไหน!" ปิงไม่สนใจคำถามรีบพาส้มจี๊ดกลับทันที เสือจะตามไปเอาเรื่องแต่โดนแดนห้ามไว้ "มึงแหกตาดูสิวะเสือ กูว่ามันผิดปกติแล้วนะเว้ยน้องเขาหน้าจะป่วยว่ะ เหมือนกลัวไรสักอย่าง" "กลัวกูทวงหนี้เลยแสดงละสิ ป้ายัยนั่นก็หายไปยัยหลานสาวพี่สาวก็หายไปติดต่อไม่ได้มึงจะให้กูคิดว่าไง" "เออๆ คิดไงก็ช่างมึงเถอะมาจ่ายค่าเสียหายก่อน อ้าวเฮ้ยไอ้เสือกูไม่ได้เอาเงินมาเสือออ!!" แล้วกูจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าพังร้านอาหารกูมีอยู่ร้อยห้าสิบ เอาวะจงมั่นใจในฝีตีนตัวเอง กูชิ่งละกันพรุ่งนี้ค่อยให้ไอ้เสือมาจ่าย "อ้าวเฮ้ยหนีไปอีกคนแล้วรีบตามไปเร็ว!!" เสือรีบออกรถตามหาจนเจอมอเตอร์ไซค์ของปิงที่ขับช้าเต่าเรียกพี่แล้วแอบตามไป ในใจเขาตอนนี้สับสนไปหมดจะเอายังไงกับลูกหนี้สาวดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม