ใบไม้ | คิดถึงนะ

1354 คำ
ฉันไม่ได้เปิดอ่านมันหรอก อ่านผ่าน ๆ แค่ตอนมันเด้งขึ้นหน้าจอเท่านั้น เพราะอิต้นไม้ข้าง ๆ มันเหมือนกำลังจับผิดฉันอยู่ ฉันจึงรีบไปส่งมันที่คอนโดก่อน แล้วหาที่จอดรถเงียบ ๆ เปิดไลน์อ่าน แค่ไลน์มาไม่กี่คำมือไม้แม่งสั่นไปหมดแล้ว เป็นห่วงกูเหรอ? ถ้าคิดแบบนี้มันจะเป็นการเข้าข้างตัวเองไหมวะ เออช่างเถอะ กูจบเอกมโนศาสตร์มา LINE | KAI [KAI: มันอันตรายนะป้า] [BAIMAI: ชิน] [KAI: ชินกับใบสั่งที่ส่งไปที่บ้าน?] [BAIMAI: ชินกับน้ำหนักตีน -_-] [KAI: อยากลองโดนตีนป้าสักครั้ง ^^] ไอบ้า พิลึกคน [BAIMAI: ตลก] [KAI: ตลก แล้วหัวเราะรึยัง? ไม่สิป้าน่ะ..ควรยิ้มให้ได้ก่อน ^^] [BAIMAI: จะไลน์มากวนประสาททำไม -_-] [KAI: ไม่ได้กวน อย่าขับรถเร็ว ผมเป็นห่วงคนอื่นๆที่ใช้ถนนร่วมกับป้า โอเค๊] [BAIMAI: ถ้ายังสำส่อนกับแอร์ ก็ห่วงตัวเองก่อนเถอะ] [KAI: สำส่อนอะไร? ป้าอย่าหึงผมสิ เพื่อนกัน] [BAIMAI: ทำไมฉันต้องหึงแก?] [KAI: เพราะผมหล่อ ^^] อิดอกมั่นหน้า อืม... แต่หล่อจริง ๆ นะ [BAIMAI: ไร้สาระ] ปากด่า... แต่ใจพองยิ่งกว่านม ไคล์เป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ที่เขาทำเหมือนเป็นห่วง บ่อยมาก! บ่อยจนฉันแม่งคิดไปเองว่าเขามีใจ เพราะหลังจากวันนั้น วันที่ฉันได้ตุ๊กตาควายจากเขา เขาก็ชอบซื้อของให้ ทั้งวันเกิด ทั้งวันที่ฉันไม่สบาย แต่นั่นแหละ มิวายเป็นตุ๊กตาควายคละไซส์กัน จนตอนนี้มันตั้งเรียงเต็มห้องนอนฉันหมดแล้ว แต่ความประทับใจวันรับปริญญา ไม่ได้มีแค่นั้นนะเว้ย! หลังจากที่ได้เซอร์ไพรส์จิ้งจกผูกโบว์ไม่นาน แม่กับเจ๊ปลายฟ้าก็มา ฉันจึงรีบทำตัวปกติและชักสีหน้าใส่แม่แทน แต่แม่ไม่ได้สนใจฉันน่ะสิ มองแต่ควายที่ฉันอุ้มอยู่ “แถวนี้มีควายตัวใหญ่ด้วย” แซว แต่ทำไมต้องเน้นคำว่า ‘ควาย’ ด้วยวะ อิคนซื้อให้มันคิดอะไรอยู่ จะว่าแถวนี้มีขายก็ไม่น่าใช่ เพราะคนอื่นก็มีใครอุ้มควายสักคน มีแต่กูคนเดียว! “คนซื้อให้ไม่ค่อยปกติ” “ก็เห็นเหมาะกับป้าดี หน้านิ่ง ๆ เคี้ยวเอื้อง ๆ” แม่กับเจ๊ปลายฟ้าเอามือปิดปากหัวเราะลั่น ส่วนฉันน่ะเหรอ เหอะ โยนตุ๊กตาควายส่งคืน “เอาคืนไป เด็กปากหมา” “ใบไม้! ปากคอเราะร้ายนะเรา ไคล์อุตส่าห์มาแสดงความยินดียังไปว่าเขาอีก” ตลอดเลยแม่ฉัน คนอื่นอะไรก็ดีไปซะทุกอย่าง ฉันล่ะเบื่อจริง ๆ “ใครใช้ให้แม่กับเจ๊มาช้าล่ะ หนูจะเข้าห้องประชุมแล้วนะ” “สั่งดอกไม้ให้ลูกอยู่นี่ไง” แล้วแม่ก็ยื่นช่อดอกไม้ใหญ่โตมาให้ฉัน ก่อนที่จะเอื้อมมือมาหยิกแก้มฉันด้วย ส่วนเจ๊ปลายฟ้านางซื้อสร้อยทองคำขาวให้ เป็นจี้รูปตัว K ที่ย่อมาจากชื่อจริงฉัน กัณณ์รลิน วรพงศ์กุล แล้วไง... สุดท้ายฉันก็ต้องรอพ่อต่อ รอ...จนถึงเวลาที่เขาประกาศเรียกคณะอื่นไปถ่ายรูป พ่อฉันถึงมา ฉันยืนมองพ่อที่ใส่สูทวิ่งหอบมานิ่ง ๆ งานน่ะไว้ทีหลังไม่ได้รึไง ฉันรับปริญญาทั้งที เรียนก็เรียนให้แล้ว ยังช้าอืดอาดอีก ฉันไม่อยากบ่นพ่อหรอกนะ มันบาป แต่พ่อฉันเหมือนท่านเรียงลำดับเวลาไม่เป็น แม่ต้องคอยทำตารางให้ ว่าเวลาไหนควรทำอะไรก่อน “ยินดีด้วยนะใบไม้ ของขวัญลูกอยู่ที่ลานจอดรถนะ” พ่อยื่นกุญแจรถสีดำให้ฉัน พร้อมกับปาดเหงื่อไปด้วย “ขอบคุณค่ะ อะไรคะ? รถเหรอ?” “ใช่แล้ว Porsche 911 GT3 RS” ฉันรับกุญแจรถมาดู ฉันจำได้ว่าราคารถเวรนี่มันเริ่มต้น ยี่สิบสองล้าน แต่ดันนั่งได้สองคน พ่อเอาอะไรคิดวะ! ไอ้เร็วน่ะมันเร็วอยู่หรอกแต่กูเสียดายเงินมาก “เวอร์ตลอด” แม่บ่นอุบอิบและเบะปากใส่พ่อ แต่พ่อฉันแคร์ที่ไหน ยิ้มอย่างเดียว “ที่ช้า พ่อไม่ได้ประชุมเหรอคะ? เอารถมาให้หนู” “ใช่แล้วลูกสาว ขอบคุณนะ สำหรับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ลูกสาวพ่อเก่งที่สุด” พ่อกอดฉันและหอมหัวฉันฟอดใหญ่ จนฉันถูกเรียกไปถ่ายรูปหมู่และเข้าหอประชุม ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนไคล์ เขาเป็นคนในครอบครัวฉันเลย ขนาดต้นไม้ไม่อยู่ ไคล์ยังอยู่รอฉัน เขารอจนฉันออกจากหอประชุม และนั่งรอฉันคนเดียว! เพราะฉันออกมา ฉันก็ไม่เห็นครอบครัวฉันแล้ว มันเกือบสี่ชั่วโมงเลยนะ ที่เขานั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์เฝ้าดอกไม้เฝ้าควายให้ แถมเขายังรอฉันถ่ายรูปกับอาจารย์ต่ออีกชั่วโมง เออ... รวม ๆ แล้วห้าชั่วโมง! ตอนนั้นฉันรู้สึกดีกับไคล์จริง ๆ อีกอย่าง ถึงฉันจะโง่เรื่องนี้แต่ฉันสงสัยมาก มันไม่มีเหตุผลอะไร ที่เขาต้องรอฉัน แฟนก็ไม่ ญาติก็ไม่ มันเลยทำฉันมโนไปต่าง ๆ นา ๆ มโนถึงขั้นคิดว่า เขาชอบฉัน! “เหนื่อยไหมป้า” “เหนื่อย หิวว่ะ” ยื่นแซนวิซให้ฉัน แล้วดึงใบปริญญาในมือไปถือให้ “กินนี่ก่อนนะ เดี๋ยวค่อยพาไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน” แซนวิซน้ำส้มครบไม่มีขาด ฉันเดินไปกินไปเดินตัวปลิวมาก จนเรามาถึงรถสปอร์ตของขวัญฉัน ที่ฉันให้ไคล์เป็นคนขับคนแรก แล้วสิ่งหนึ่งที่ฉันสัมผัสได้ สัมผัสที่ทำฉันใจเต้นเร็วยิ่งกว่าแรงม้ารถก็คือ... ตัวเขาหอมมาก! เขาเอื้อมมือไปปรับแอร์ให้ฉัน คือแม่งเอ้ย หอมจริง ๆ ยิ่งนั่งในรถสปอร์ตแคบ ๆ ฉันยิ่งได้กลิ่นชัด ตอนนั้นฉันอยากกินเด็กจริง ๆ นะ มือเขาก็ขาว มีเส้นเลือดปูดนิด ๆ จมูกก็โด่งตาชั้นเดียว แต่มันมีเสน่ห์ฉิบหาย แถมขับรถไม่เร็วมาก อย่ายิ้มได้ไหม ยิ้มที ใจกูจะละลาย บ้าเอ้ย! ไม่ไหวว่ะ กว่าฉันจะดึงสติออกมาจากไคล์ได้ก็นานโข... คือฉันถูกสั่งให้เรียนโรงเรียนประจำ ถูกสั่งให้เดินตามรอยพ่อมาทุกอย่าง จนไม่เคยรู้ ว่าตัวเองชอบอะไร หรือต้องการอะไรจริง ๆ มันเป็นครั้งแรก ครั้งแรกที่ฉันรู้สึกชอบและอยากได้อะไรสักอย่าง แต่มันไม่ใช่สิ่งของ หรือคณะที่ฉันอยากเรียนน่ะสิ ฉันกำลังอยากได้ผู้ชายคนนี้ หลังจากนั้นฉันก็คลั่งไคล์หนักมาก คลั่งแบบมโนว่าเขาคือผัวตัวเอง ฉันนอนกอดตุ๊กตาควายเขาทุกวัน ใส่สร้อยที่เจ๊ปลายฟ้าให้ หนำซ้ำกูยังจินตนาการว่าจี้ K นั่นคือชื่อ KAI หนักไหมล่ะ เฮ้อ! จนถึงปัจจุบันนี่แหละ ที่ความคลั่งฉันลดน้อยลง อาจเป็นเพราะฉันแก่ หรือเพราะไคล์เขาคั่วแอร์ทุกไฟลท์ก็ไม่รู้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันหยุดชอบเขานะ ฉันมันพวกหน้าด้านหน้าทน อีกอย่างไคล์ก็ชอบทักมา ทักมาให้ท่าให้ฉันมโนต่อเหมือนวันนี้ ฉันเก็บโทรศัพท์แล้วขับรถกลับทันที แต่ไลน์เขานี่สิ อยู่ ๆ ก็เด้งขึ้นมาอีก ‘ตึ้ง’ LINE | KAI [KAI: คิดถึงนะ] เชี่ย! ฉันรีบตบไฟเลี้ยวจอดรถอีกรอบ และอ่านข้อความเขาที่โชว์บนหน้าจอวนรอบที่ล้าน ฉันไม่กล้าเปิดอ่านจริงจังเลย คือ... ไม่รู้ตัวเองควรตอบยังไง หน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว มือก็สั่นด้วย! โอ้ย... กูไม่มีสติเลยมึง จนประมาณห้านาทีได้ ‘ตึ้ง’ LINE | KAI [KAI: ส่งผิด] อิดอกเอ้ย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม