เด็กผู้หญิงมัธยมที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนประจำ วงจรชีวิตไม่มีอะไรมาก นอกจากเรียน กินข้าว และนอน วนเวียนอยู่แบบนั้น จนกว่าจะถึงวันเสาร์อาทิตย์ ถึงจะได้กลับบ้าน
กลับไปแล้วทำอะไร? หึ! ก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่น้องชาย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา กินกับคนที่ฉันเห็นพวกเขามาตั้งแต่เกิดวน ๆ อยู่แบบนั้น จนฉันขึ้นมหาลัย
เออ ก็เหมือนเดิม! ชีวิตแม่งเหนื่อย ที่เหนื่อยเพราะฉันดันเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน ฉันมีน้องชายฝาแฝดชื่อต้นไม้กับต้นกล้า ทุกครั้งที่ฉันกลับจากหอที่มหาลัยมา พวกมันก็รวมหัวกันแกล้งฉัน
บ้าเอ๊ย! ทั้งจิ้ก ทั้งตุ๊กแก ถ้ามีขี้หมาแห้งมันคงเอามาโยนใส่ฉันแล้วล่ะ พ่อแม่จะทำไอ้สองตัวนั้นออกมาทำไมวะ เปลืองออกซิเจน เปลืองน้ำอสุจิเปล่า ๆ
รำคาญ!
บอกตามตรงฉันเบื่อที่จะปั้นหน้ายิ้มแล้ว นี่ดีนะที่ต้นกล้ามันไปเรียนต่ออเมริกา ฉันก็คิดว่าตัวเองจะโล่งและมีความสุขขึ้นที่พ่อแม่แยกแฝดนรกออกจากกัน
แต่ไม่ใช่! ฉันถูกพ่อบังคับให้ย้ายไปเรียนวิศวะซอฟต์แวร์ เป็นคณะวิศวะที่แม่ง... ทั้งคณะมีแต่ผู้ชายถึกและปลวก! ฉันจึงชินที่จะอยู่เงียบ ๆ ก้มหน้าก้มตาเรียน อยู่กับหน้านิ่ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็หาว่าฉันไม่เป็นมิตร และไม่อยากคบหาสมาคมด้วย
ก็เรื่องของมึง กูก็ไม่อยากคบกับพวกมึงเหมือนกัน
ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ตอนนี้ฉันได้เป็นผู้บริหารบริษัทมาสเตอร์มอนเตอร์ บริษัทเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียตะวันออก ถึงการบริหารงานฉันจะแข็งทื่อและไม่เป็นมิตรกับใคร แต่ฉันสามารถสั่งงานพนักงานพวกผู้ชายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
พูดถึงผู้ชาย เหอะ... นึกแล้วก็อนาถใจ ฉันเรียนจบมหาลัยมาได้ไงวะ จบมาแบบไม่มีผู้ชายหมายตามองสักคน! หรือเป็นเพราะฉันไม่เปิดรับใคร ไม่มองหน้า ไม่สบตาผู้ชายพวกนั้น?
จนเกิดมาถึงบัดนี้ ผู้ชายที่ใกล้ ๆ ตัวฉัน ก็มีแค่พ่อและน้องชายสองคน
ไม่สิ! มีเพื่อนน้องชาย ที่เป็นลูกเพื่อนพ่อคนนั้นด้วย เขาชื่อไคล์...
ผู้ชายคนนี้ฉันเคยเห็นตั้งแต่เด็ก ๆ ฉันกับเขาเราไม่ได้สนิทกัน เพราะอย่างที่บอก ฉันเรียนโรงเรียนประจำ กลับบ้านเสาร์อาทิตย์ กลับมาก็มีบ้าง ที่เห็นไคล์มาหาต้นไม้ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไร เพราะเขามักจะมุดหัวอยู่ในห้องต้นไม้ทั้งวัน จนพ่อแม่เขามารับกลับถึงออกมา
ถึงไคล์จะหล่อที่สุด ในบรรดาผู้ชายที่ฉันเคยเห็น แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก จนวันนั้นล่ะ วันที่ฉันเรียนจบ วันรับปริญญาของฉัน
วันนั้นที่พ่อกับแม่ไม่มาสักที
CALLING | DAD
“พ่อ อีกชั่วโมงนึงหนูต้องถ่ายรูปหมู่และเข้าหอประชุม พ่อทำอะไรอยู่ อยู่ไหน?”
(กำลังช่วยกรมทางหลวง ขีดเส้นถนนอยู่ลูก ฮ่า ๆ)
พ่ออาจจะตลก แต่ฉันไม่! บัณฑิตคนอื่นเขาถ่ายรูปครอบครัว ได้ดอกไม้ แต่ฉันไม่มีอะไรในมือสักอย่าง! ทิชาเพื่อนที่รู้จักห่าง ๆ มันก็กลับคณะมันไปแล้ว
บ้าเอ้ย!
“ไม่ตลกค่ะ”
(เอาน่า... พ่อกำลังไปใบไม้ รอก่อนนะ ไม่ทันก็ไม่เป็นไรนะลูก กลับมาถ่ายที่บ้านก็ได้ พ่อพึ่งประชุมเสร็จช้าหน่อยนะ)
เสียงพ่อร่าเริงมาก แต่มือฉันที่จับโทรศัพท์แนบหู มันสั่นไปหมดแล้ว
“ค่ะ” ฉันตอบท่านเบา ๆ และกดวางสายไป ก่อนจะเดินไปนั่งเงียบๆคนเดียวที่โต๊ะไม้ยาว มองคนอื่นที่ถ่ายรูป มองคนอื่นยิ้มแย้มกับครอบครัว มองคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่แฟน บางคนถูกขอแต่งงานในวันสำเร็จการศึกษา ทุก ๆ คนถูกรายล้อมไปด้วยญาติ
มองมาที่กูสิ ไม่มีใครสักคน
รู้สึกแย่ฉิบ ตอนนี้ขอได้ไหม ขอใครสักคนที่มายืนข้าง ๆ ฉัน มันไม่ไหวว่ะ ฉันไม่เคยรู้สึกแย่จนอยากจะร้องไห้แบบนี้เลย ฉันรีบเงยหน้าขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเลอะเครื่องสำอาง พยายามกะพริบตาถี่ ๆ อยู่แบบนั้น
จนก้มหน้าลงมา
แทนที่จะเห็นผู้คนถ่ายรูปครอบครัวกัน แต่ตอนนี้ฉันเห็นตุ๊กตาควายสีดำ มีสายสะพาย Congratulations ตรงหน้า และคนที่ถือมันยื่นให้ฉัน คนนั้นก็คือไคล์
ไคล์เพื่อนน้องฉัน ไคล์ที่ฉันคุยกับเขานับคำได้
“ยินดีด้วยนะป้า ทำไมไม่ยิ้มเลยล่ะ? ได้ตั้งเกียรตินิยม หรือว่าซื้อใบจบมา”
เรียกกูป้า... แก่สัส
แต่เวลานี้ฉันไม่กล้าว่าเขาเรื่องสรรพนามหรอก เพราะนอกจากไคล์ ฉันมองซ้ายมองขวาก็ไม่มีวี่แววคนอื่นเลย เอาวะ ยังดีที่มีไคล์อยู่เป็นเพื่อน
“ป้ามองหาใครครับ ไอ้ต้นไม้เหรอ? ไอ้นั่นมันติดเก็บชั่วโมงบินมาไม่ได้ แต่มันฝากของมาให้ป้าด้วยนะ เอ่อ... ช่วยรับตุ๊กตาควายผมไปก่อน”
เขายื่นตุ๊กตาควายให้ฉัน แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมา
ตอนนี้คนอื่น ๆ ต่างพากันมองฉันกับไคล์ คงจะคิดว่าฉันกำลังถูกแฟนขอแต่งงาน แต่ไม่... เมื่อเขาเปิดกล่องของขวัญเล็ก ๆ คล้ายกล่องแหวนนั่นออกมา
ในนั้นมันกลับเป็น
จิ้งจกปลอมผูกโชว์สีชมพู!
“อิเชี้ย!” ฉันรีบลุกจากเก้าอี้แทบเสียหลักล้มตึงไปข้างหลัง แต่โชคดีที่ไคล์เขารีบจับมือที่ไขว่คว้าเอาอากาศของฉันไว้ทัน มือใหญ่ที่นุ่ม ๆ นั้น ทำฉันตกใจยิ่งกว่าอิจิ้งจกเวรตะไลในมืออีกข้างเขาอีก
เพราะมือนี้เป็นมือผู้ชายคนแรก ที่จับมือฉันจริงจัง แถมสายตาที่เขามองมา มันยังมีประกายวิบวับแปลก ๆ และริมฝีปากสวย ๆ นั่นที่พูดกับฉัน ก็เหมือนเขากำลังท่องคาถาพรมน้ำมันพรายร่ายมนต์ใส่
จงรักจงหลงเขา มองแค่เขา... แค่เขาเพียงคนเดียว
ทำไมใจฉันเต้นแรงขนาดนี้ หรือนี่มันจะเป็นวันตายของฉัน ภาพทุกอย่างมันก็สโลโมชั่น และกล้องกำลังแพลนวนรอบ ๆ ฉันกับเขา...
จนอยู่ ๆ ฉันก็คิดอะไรออกมาแปลก ๆ นางฟ้าคะ ฉันขอเปลี่ยนจิ้งจกตัวนั้นเป็นแหวนเพชร เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตธรรมดา ๆ ของเขาเป็นชุดทักซิโด้ และเปลี่ยนชุดครุยฉัน เป็นชุดเจ้าสาวได้ไหม... ได้ไหม!
“งานที่ภูเก็ต แกไม่ไปดิวเองเหรอใบไม้”
เฮ้ย! ทุกอย่างหายวูบไปกับตา เมื่อฉันสะดุ้งตื่น แล้วเอามือทาบอกตัวเองก่อนที่จะปรับพนักเก้าที่เอนในห้องทำงานกลับมาปกติ
ฉันฝันถึงวันนั้นอีกแล้ว... วันที่ฉันตกหลุมรักไคล์!
“ใบไม้แกฟังฉันไหมเนี่ย บริษัทเยอรมันยักษ์ใหญ่เลยนะ ผู้บริหารควรไปเองรู้รึป่าว!” ฉันรีบตั้งสติ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้มองหน้าพี่สาว
คนนี้นี่เองที่ดึงฉันออกมาจากความฝันนั่น เจ๊แกชื่อปลายฟ้า เป็นลูกอาฉัน ที่พ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด หน้าตาก็งั้น ๆ พอไปวัดไปวาได้
แต่ถ้าเดินข้าง ๆ ฉัน ผู้ชายมองเจ๊แกมากกว่า
“เข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียงเจ๊ไปเถอะ ขี้เกียจคุย” เจ๊ปลายฟ้ามองฉันแล้วกลอกตาใส่ แต่ฉันไม่สนใจ พิงพนักเก้าอี้มองออกไปนอกหน้าต่างแทน
ใจฉันยังไม่หยุดเต้นแรงเลย
“ใบไม้ ถ้าแกไม่ฝึกประสานงานลูกค้า แกจะบริหารงานยังไง เป็นผู้บริหารต้องทำได้ทุกหน้าที่นะ แกจริงจังหน่อยสิ” ฉันพยักหน้า ทั้งที่ตายังมองออกไปนอกหน้าต่าง
“งั้นเจ๊ก็เป็นสิ หนูไม่อยากเป็น” เจ๊ปลายฟ้าพึดฟัดใส่ฉันทันที
“เออ ๆ ฉันไปก็ได้ ไปเที่ยวภูเก็ต เหอะ ๆ”
ฉันไม่ตอบ นั่งฟังเสียงรองเท้าส้นสูงของเจ๊แก จนมันค่อย ๆ เงียบไป และเสียงประตูที่ปิดใส่ ก็ไม่ได้ทำฉันหันไปมองสักนิด เพราะฉันมัวแต่คิดถึงเขา
ไคล์...