หลังจากเครื่องแลนด์ฉันก็รอผู้โดยสารลงจากเครื่องจนหมด ฉันไม่มีอารมณ์ยิ้มแป้นยกมือไหว้ใคร แต่ยังไงต้องฝืน ฉันอึดอัดมาก ถึงเรื่องที่ฉันโดนเมื่อคืนมันจะสอดใส่ได้ไม่สุด แต่ผู้หญิงที่ไม่เคยแม้กระทั่งช่วยตัวเองแบบฉัน มันเจ็บเจียนตายจริง ๆ
หลังจากผู้โดยลง ฉันก็เขย่งดึงกระเป๋าลงจากที่เก็บสัมภาระ ยิ่งกระโดดยิ่งเจ็บ เจ็บจนอยากจะร้องไห้ ทำไมไฟลท์แรกที่ฉันบินมันถึงนรกแบบนี้ เวรกรรมอะไรวะ!
‘ครืน~’ และอยู่ ๆ ฉันก็เห็นแขนยาว ๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวดึงกระเป๋าฉันลงมา ก่อนที่เขาจะวางกระเป๋าใบนั้นลงข้าง ๆ และดึงที่ลากกระเป๋าขึ้นมาให้
“เตี้ยแบบนี้ เป็นแอร์ได้ไง” กัปตันต้นไม้!
“เลวแบบนี้ ผ่านแบบทดสอบจิตวิทยามาได้ไง” เขาจับหมวกที่ใส่ แล้วจ้องหน้าฉัน
“ขอบคุณฉัน” ขอบคุณ? จะบ้ารึไง เมื่อคืนเขาข่มขืนฉัน และไม่รู้ที่เขาบังคับสอดไอ้บ้านั่นเข้ามา ทำเส้นพรหมจรรย์ฉันขาดไปรึยัง ให้กูขอบคุณ! บ้าป่ะ!
“ไม่... ฉันขอบคุณ คนที่ทำระยำกับฉันไม่ได้หรอก”
“แอร์รุ่นพี่เธอกำลังมอง ทำตัวปกติ ถ้าไม่อยากฉาว ขอบคุณฉันซะ” ฉันยืนกำมือแน่นและค่อย ๆ หันไปมองข้างหลัง ก่อนจะหันกลับมากัดฟันและยิ้มให้เขาอย่างจำใจ
“ขอบคุณ!”
“ไปเถอะไอ้ไม้ กูหิวเหล้า พอสักทีมึงกับผู้หญิง” กัปตันไคล์ลากกระเป๋าออกมาพูดไม่สบอารมณ์ แล้วเดินเข้างวงช้างไป จนอีผู้ชายมักมากตรงหน้ารีบเดินไปสบถตามหลัง
“ไอ้คนดี”
แล้วฉันก็ลากกระเป๋า เดินตามลูกเรือคนอื่นออกมา จนรถบัสของสายการบินมารับไปที่โรงแรม ดีอย่างที่เป็นแอร์โฮสเตสรูทต่างประเทศ ก็เหมือนได้เที่ยว ที่พักฟรี มีพ็อกเก็ตมันนี่ติดตัวให้ แต่ฉันจะไปไหนได้ ฉันไม่สนิทกับใครเลย เที่ยวคนเดียวหลงตาย!
“เธอ ๆ เจแปน นอนด้วยกันไหม?” อยู่ ๆ แอร์ที่ทำงานครัวหน้ากับฉัน เธอก็เกาะเบาะยื่นหน้ามาถาม ฉันจึงยิ้มให้เธออย่างกับนางงาม เพราะรู้สึกดีใจมากที่มีเพื่อนสักที
“เอาสิ ขอบใจที่ชวนนะ”
“ขอบใจอะไรเล่า แนะนำอีกที เราชื่อกวางนะ สองวันนี้ไปตะลุยนิวยอร์กกัน”
“โอเคเลย หาเพื่อนพอดี เราจะไม่หลงใช่ไหม”
“ไม่หลง ฮ่า ๆ”
“นี่! เงียบ ๆ หน่อยได้ไหม เหนื่อยค่ะ จะนอน ไม่มีมารยาท” ตามเคย อีแอร์แก่ตามเคย พอกวางได้ยินก็รีบลุกมานั่งข้าง ๆ ฉัน ดูเธอกลัว ๆ นะ แต่ฉันไม่กลัวนางหรอก แค่ไม่อยากมีปัญหา
“ขอโทษค่ะ” กวางพูดเบา ๆ แล้วนั่งนิ่ง
“ตื่นเต้นอย่างกับบ้านนอกเข้ากรุง”
ปึก! เท่านั้นแหละ เราทุกคนในรถบัสถึงกลับสะดุ้งเมื่ออยู่ ๆ ก็มีคน กระแทกส้นเท้าลงพื้นเสียงดัง
และเสียง... ก็มาจากข้างหน้าสุด กัปตัน!
“เงียบสักที ปวดหัว” แล้วทั้งรถก็เงียบกริบเป็นป่าช้า หน้าแอร์รุ่นพี่ที่ด่าฉันกับกวางซีด และหดเหลือแค่สองนิ้ว
เรามาถึงโรงแรม ก็แยกย้ายไปอาบน้ำพักผ่อน ที่นี่ก็ประมาณทุ่มกว่า ๆ บางคนไปดื่มเบา ๆ ที่ร้านข้างล่าง แต่ฉันกับกวางขอพัก เพราะฉันเจ็บและแสบตรงนั้น แสบจนต้องเดินไปสำรวจดูในห้องน้ำหลายครั้งและมันก็บวมเปล่งขึ้นเรื่อย ๆ
บ้าจริง ต้อง... ขนาดไหน ถึงทำฉันเจ็บแบบนี้
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“เจแปน เราลงไปซื้อข้าวนะ” ฉันรีบใส่กางเกงแล้วล้างมือ กะจะลงไปพร้อม ๆ กับกวางทีเดียว แต่ได้ยินเสียงกวางเปิดประตูออกไปแล้ว เอ๊ะ ทำไม่ได้ยินเสียงปิดประตู หรือกวางยังไม่ไป?
“กวาง ๆ รอด้วย” ไม่ตอบ...
เมื่อฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมาไม่เจอกวาง ฉันก็รีบหยิบกระเป๋าตังค์ จะวิ่งตามออกไป แต่ประตูห้องที่แง้มไว้ อยู่ ๆ ก็ถูกดันเข้ามา
กัปตันต้นไม้! ทำไมกวางไม่ปิดประตูให้สนิท!
“คุยกันหน่อยสิ” ฉันรีบดันประตูปิด แต่ทว่ามือเขาข้างเดียวมันเหมือนแรงช้างทั้งบาง แค่เขาดันประตูปุ๊บปับด้วยมือหนึ่งข้าง แค่พริบตา เขาก็เข้ามายืนในห้องฉันแล้ว
‘ปึก’
‘แกร๊ก’ ล็อคประตู!
ฉันกำมือแน่น ถอยหลังกรูไปมุมห้อง พยายามหาของที่พอดีมือมาถือป้องกันตัว
“ออกไป อย่าเข้ามานะ!”
“ฉันอยากคุยกับเธอดี ๆ”
“ไม่คุย! ฉันจะแลกไฟลท์กับคนอื่น ไม่บินกลับพร้อมนาย ไอ้กัปตันโรคจิต” ฉันด่าไปเหวี่ยงโคมไฟไป แต่เขาไม่มีทีท่าจะกลัวเลยสักนิด กลับเดินเข้ามาชิดตัวฉันเรื่อย ๆ และ... กระชากโคมไฟไปจากมือฉัน!
“ฮือ! เอามานะ!” ฉันคว้ามือตาม จนเขาโยนมันลงที่เตียงข้าง ๆ และหันมาพูดกับฉัน
“ขอโทษ”
“ห้ะ!” หูฉันฝาดไปใช่ไหม?
“ขอโทษ” ฉันเบิกตากว้าง คลายมือที่กำเตรียมชกออกช้า ๆ ก่อนที่จะมองกัปตันต้นไม้ ที่แววตาไม่เหมือนที่ฉันเห็นเมื่อคืน และกลิ่นเหล้าเขาก็หึ่งจนฉันสัมผัสได้
“ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้? กัปตันทำแบบนี้กับแอร์ทุกคนที่ครัวหน้ารึป่าว?”
“ไม่ กับครัวหลังก็ทำ แต่ทุกคนยอม และมาเสนอให้ถึงห้องนักบิน” ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนกัน ที่ต้องยืนคุยในห้องสองต่อสองกับเขาแบบนี้
“ออกไปข้างนอกเถอะ เราคุยตรงนี้ไม่เหมาะ” ฉันพยายามเบี่ยงตัวหลบเขาออกไป แต่โดนเขาดึงมือไว้ ให้หันไปเผชิญหน้าอีกครั้ง
“หยุดพูดจา ที่ทำให้ตัวเองดูไร้ค่า...”
“อะไรของกัปตัน ปล่อยค่ะ! เดี๋ยวกวางมาเห็นจะเป็นเรื่อง”
“ที่เธอพูดกับแอร์รุ่นพี่ มันทำฉันเข้าใจเธอผิด และคนอื่น ๆ ก็เข้าใจเธอผิดด้วย ฉะนั้นหยุดพูดจาแบบนั้นซะ”
ฉันพยายามแกะมือเขาออก และรีบสะบัดอย่างแรงจนเซ แต่ไหวพริบนักบินที่ไวอย่างกับจรวด เขารีบโอบฉันไว้ทัน!
และฉัน ก็สบตากับเขาอีกครั้ง มันไม่เหมือนเมื่อคืน ที่สบตาและฟาดฟันด้วยคำพูด ตอนนี้มันเป็นแววตาแปลก ๆ ที่ฉันก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
“ละ แล้วจะให้ทำไง ในเมื่อแอร์รุ่นพี่ดูถูก เจแปนก็ทำได้เท่านั้นล่ะ ปล่อยค่ะ!” ฉันเอี้ยวไปเกะมือเขาที่โอบหลังออก แต่เขากลับดันฉันเข้าไปชิดตัว และโน้มลงกระซิบ...
“ก็ไม่ต้องบินกับพวกนั้นสิ”
“ปะ ปล่อย! กัปตัน... มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ แล้วไม่ต้องบิน มันเลือกได้ที่ไหน!”
ฉันตีอกแกะมือเขาพัลวัน แต่ยิ่งแกะยิ่งตี เขายิ่งรั้งตัวฉันชิดขึ้น ๆ หน้าจะติดกันอยู่แล้ว!
“ฉันเขียนรายงานเอง ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ ทำเธอเมื่อคืน” ฉันหยุดมือที่ตีอก และเงยขึ้นไปมองเขา ก่อนที่จะเจอสายตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น ที่ทำฉันเผลอหลับตาลงช้า ๆ และเหมือนกำลังหลุดเข้าไปในภวังค์
ไม่... ไม่ได้ เขาจะข่มขืนแกเมื่อคืนนะเจแปน และที่เขาทำ บางทีคำพูดที่ดูน่าฟังสายตาหวาน ๆ เขาแค่อยากฟันแกเท่านั้น!
“ปล่อยค่ะ” ฉันเปิดตาขึ้น แล้วพลักเขาออกไป จนริมฝีปากที่จะประทับจูบฉันเมื่อกี้เม้มแน่น
“ถ้าจะไถ่โทษก็ได้ค่ะ แต่ไม่ขอบคุณนะคะ เชิญ” ฉันเดินดุ่ม ๆ ไปเปิดประตู และผายมือเชิญเขาออกไป จนกัปตันต้นไม้เขาเดินตามมา แล้วดันประตูปิดอีกครั้ง
‘ปึก’
“เจแปน...”
“ฉันอยากได้เธอ...”
“อะไรคะกัปตัน? ออกไปค่ะ!”
“อยากเป็นเพอร์เซอร์ไหม? นอนกับฉัน” ฉันถอยหลังจนชน ‘ปึก’ กับประตู จะบ้าเหรอ? พูดและขอแบบนี้ รู้จักฉันเมื่อวาน เมื่อคืนจะข่มขืนฉัน วันนี้ขอนอนกับฉัน!
สารเลวมาก ที่ขอโทษฉัน มันมาจากใจรึป่าว?
“ไม่กัปตัน ออกไป!”
“คิดใหม่... เพอร์เซอร์เจแปน” ฉันกัดฟันกรอด ๆ มองหน้าเขา
“ไม่ค่ะ ออกไป! อย่าดูถูกฉัน!” พูดจบ ฉันก็ฮึดใจสู้ผลักเขาออกห่าง ๆ ก่อนจะได้จังหวะเอื้อมไปเปิดประตูอีกครั้ง และวิ่งออกไปยืนข้างนอกทันที
จนเขาดึงประตูเปิด และเดินล้วงกระเป๋าตามออกมามองฉันนิ่ง ๆ
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงพันธุ์นั้นจริง ๆ ของดีแบบนี้ ฉันอยากเก็บไว้ใช้ส่วนตัวมาก”