บทที่ 1
กล่าวกันว่า ในยุคก่อนคริสตกาล เหล่าวาร์ดิกันทหารกล้าต้องทำพิธีบูชากามชำระบาป ในราตรีกาลสุดท้าย ก่อนย่างเท้าเข้าสู่สมรภูมิรบ น้ำรักสีขาวจากลำลึงค์ซึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ช่องทางสวรรค์ของเทพธิดากามาในร่างมนุษย์ จักนำพาวิญญาณชายชาตินักรบข้ามสะพานแห่งปรโลกไปสู่การกำเนิดใหม่
ทว่าศรัทธาความเชื่อใดๆ ล้วนซ่อนเร้นแอบแฝงกลอุบาย บนแผ่นดินไพศาลอันแปดเปื้อนโสมมนี้ มีบุรุษหน้าซื่อตาใสคนไหนบ้าง ที่ไม่ปรารถนาเสพกามกับสุดยอดโฉมสะคราญเล่า...
การมาเยือนของนักบวชหญิงแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ เปรียบเสมือนสัญญาณแห่งความตาย ซึ่งคืบคลานเข้ามาใกล้เต็มที
ทว่าทหารวาร์ดิกันทุกนายกลับนับวันคืนเฝ้ารอพวกนางด้วยหัวใจจดจ่อ พวกเขาเตรียมพร้อมให้การต้อนรับเหล่าเทพธิดากามาในร่างมนุษย์ด้วยความกระตือรือร้นยินดี
“นางผู้นั้นคือใคร”
‘อาเธอร์' แม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกันเอ่ยถาม ‘โนอาร์’ ทหารเอกของเขา
“บุตรสาวคนเดียวของเสนาบดีฮาเดส นางชื่อ ‘แอนนาอีส’ เป็นนักบวชพรหมจรรย์แห่งวิหารศักดิ์สิทธ์” โนอาร์ยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ใบหูของเจ้านาย
สตรีพรหมจรรย์ผู้นี้คือสุดยอดหญิงงามที่ได้รับเลือกจากสาวสวยวัยเจริญพันธุ์จำนวนสองร้อยคน ซึ่งมีความงามเป็นอันดับหนึ่งของแต่ละเมือง เพื่อทำหน้าที่เทพีแห่งไฟนิรันดร์ และคอยตักน้ำมันหล่อเลี้ยงแสงสว่างให้แก่คบเพลิงนำทาง ระหว่างพิธีการชำระบาป
“แอนนาอีส ชื่อนี้ช่างเหมาะสมกับนาง” อาเธอร์พึมพำเสียงเบา เหมือนกำลังพูดกับตัวเองมากกว่า
สายตาของอาเธอร์ตรึงอยู่ที่ร่างอรชรของแอนนาอีส เสื้อคลุมผ้าไหมสีแดงขับผิวขาวละออราวกับน้ำนมของหญิงสาว ส่งเสริมให้นางยิ่งดูโดดเด่นงามสง่าและน่าหลงใหล
เมื่อเหล่าเทพธิดากามาในร่างมนุษย์ทั้งสองร้อยนางที่ห้อมล้อมเทพีแห่งไฟนิรันดร์ เดินแยกย้ายไปยังกระโจมพำนักของเหล่าทหารวาร์ดิกัน เพื่อทำพิธีชำระบาป
ภายในกระโจมแห่งนั้นจึงเหลือเพียงแค่ แอนนาอีส อาเธอร์ และโนอาร์ทหารเอกของท่านแม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกัน
“ตอนนี้เหล่าเทพธิดาได้เริ่มพิธีชำระบาปแล้ว”
แอนนาอีสหันไปกล่าวกับแม่ทัพอาเธอร์และโนอาร์
นัยน์ตาสีฟ้าสว่างใสดั่งอัญมณีแห่งเวทย์มนตร์ สะกดให้อาเธอร์หลงเข้าสู่ภวังค์เคลิบเคลิ้มลุ่มหลง ทำให้เขาเกิดความโลภอยากครอบครองหญิงสาว
บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกำยานกระตุ้นกามารมย์ได้ทำลายสำนึกและความเกรงกลัว
“โนอาร์ เจ้าไปได้แล้ว”
อาเธอร์ไล่ทหารเอกคู่ใจ
“ท่านแม่ทัพอาเธอร์ มีสิ่งใดต้องการให้ข้าช่วยอย่างนั้นหรือ” แอนนาอีสไถ่ถาม
น้ำเสียงของหญิงสาวใสกังวาลไพเราะดุจนกไนติงเกล ยามนางเอื้อนเอ่ย ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดดั่งกลีบกุหลาบยิ่งดูเชิญชวนให้อยากลิ้มลอง
“เพชฌฆาตที่สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วนเช่นตัวข้านี้ แปดเปื้อนคาวเลือดมากยิ่งกว่าทหารวาร์ดิกันทุกนาย เห็นจะมีเพียงเทพีแห่งไฟนิรันดร์เท่านั้นที่ชำระบาปให้แก่ข้าได้”
อาเธอร์เดินเข้าไปใกล้ร่างบาง
“ท่านไม่ควรทำลายพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์”
แอนนาอีสก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ สีหน้าตื่นตระหนก ดวงตาเจิดจรัสคู่งามเจือประกายหวาดหวั่น
ทว่าความงามอันพิสุทธิ์ไร้เดียงสาของหญิงสาว มิได้ทำให้แม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกันเวทนาสงสาร
อาเธอร์ยิ่งรู้สึกฮึกเหิมในอำนาจแห่งความเป็นชายชาตรี เขารวบร่างอรชรเข้าสู่อ้อมแขน ก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็ก
“ศรัทธาความเชื่อใดๆ ล้วนซ่อนเร้นแอบแฝงกลอุบาย บนแผ่นดินไพศาลอันแปดเปื้อนโสมมนี้ มีบุรุษหน้าซื่อตาใสคนไหนบ้าง ที่ไม่ปรารถนาเสพกามกับสุดยอดโฉมสะคราญเล่า”
แม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกันต้องมนตร์เสน่ห์เทพีแห่งไฟนิรันดร์เสียแล้ว เขาไม่ปรารถนาจะข้ามสะพานแห่งปรโลกไปสู่การกำเนิดใหม่