“เพชฌฆาตที่สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วนเช่นตัวข้านี้ แปดเปื้อนคาวเลือดมากยิ่งกว่าทหารวาร์ดิกันทุกนาย เห็นจะมีเพียงเทพีแห่งไฟนิรันดร์เท่านั้นที่ชำระบาปให้แก่ข้าได้”
อาเธอร์เดินเข้าไปใกล้ร่างบาง
“ท่านไม่ควรทำลายพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์”
แอนนาอีสก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ สีหน้าตื่นตระหนก ดวงตาเจิดจรัสคู่งามเจือประกายหวาดหวั่น
ทว่าความงามอันพิสุทธิ์ไร้เดียงสาของหญิงสาว มิได้ทำให้แม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกันเวทนาสงสาร
อาเธอร์ยิ่งรู้สึกฮึกเหิมในอำนาจแห่งความเป็นชายชาตรี เขารวบร่างอรชรเข้าสู่อ้อมแขน ก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็ก
“ศรัทธาความเชื่อใดๆ ล้วนซ่อนเร้นแอบแฝงกลอุบาย บนแผ่นดินไพศาลอันแปดเปื้อนโสมมนี้ มีบุรุษหน้าซื่อตาใสคนไหนบ้าง ที่ไม่ปรารถนาเสพกามกับสุดยอดโฉมสะคราญเล่า”
แม่ทัพใหญ่แห่งวาร์ดิกันต้องมนตร์เสน่ห์เทพีแห่งไฟนิรันดร์เสียแล้ว เขาไม่ปรารถนาจะข้ามสะพานแห่งปรโลกไปสู่การกำเนิดใหม่
อาเธอร์อยากขึ้นสวรรค์ตอนที่ยังมีลมหายใจและปลดปล่อยน้ำรักในความสาวของแอนนาอีสมากกว่า
เขาจับนางกดลงบนตั่งยาวบุพรมขนกระต่าย อาเธอร์ใช้เรี่ยวแรงมหาศาลตรึงหญิงสาวเอาไว้ แล้วปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างอรชรอย่างง่ายดาย
“ท่านอาเธอร์... ได้โปรด อย่าทำอะไรข้าเลย”
แอนนาอีสวิงวอนทั้งน้ำตา
“กล่าวกันว่านักบวชหญิงแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์จักต้องพลีกายให้กับบุรุษที่ไม่ซ้ำหน้ากันอย่างน่อยหนึ่งพันคน ร่างมนุษย์ของเทพธิดากามาจึงจะได้รับการยกย่องให้เป็นนักบวชหญิงระดับสูงและเป็นที่เชื้อเชิญในทุกสังคม หากเจ้ายอมเป็นภรรยาของข้า ภายหลังจากกองทัพวาร์ดิกันรบชนะสงครามครั้งนี้ เจ้าจะได้รับการยกย่องและมีเกียรติยิ่งกว่าเทพีแห่งไฟนิรันดร์”
อาเธอร์พยายามใช้คำพูดปลอบประโลมโน้มน้าวหญิงสาว เพราะใจจริงเขาก็อยากครอบครองแอนนาอีส โดยความยินยอมของนางเช่นเดียวกัน
“เราสองคนอาจจะถูกกุดหัว เพราะทำผิดจารีต”
“วางใจเถิด บนแผ่นดินไม่มีผู้ใดสามารถแตะต้องหรือกล่าวโทษจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งวาร์ดิกัน”
อาเธอร์ยิ้มเยื้อนอย่างเจ้าเล่ห์ หลังจากเสร็จสิ้นการทำสงครามกับชาวเวียนนา เขาคิดจะช่วงชิงอำนาจจากจักรพรรดิ
“ท่าน หมายความว่า...”
แอนนาอีสช้อนตามองบุรุษผู้ทรงอิทธิพลอย่างขลาดกลัว แววตาคล้ายลังเลสับสน
ทว่าในที่สุด นางก็มิอาจต้านทานอำนาจของเขา
อาเธอร์กวาดสายตามองทั่วร่างงามด้วยความลุ่มหลง ขณะลงมือกำจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ออกจากกายตนเอง
แอนนาอีสเป็นสตรีที่มีความงามเหนือสตรีทั้งปวง ดวงตาและริมฝีปากของนางเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้ผู้ชายอย่างอาเธอร์ยอมจำนนต่อทุกข้อแม้เพื่อให้ได้ครอบครองนาง
ร่างหนาของแม่ทัพหนุ่มใหญ่คร่อมเหนือร่างอรชร มือหยาบแข็งลูบไล้ผิวขาวนุ่มนวลเนียนอย่างเสน่หา
“เจ้าช่าง... งดงามเหลือเกิน”
เขาพร่ำชมนางไม่ขาดปาก
พลางก้มลงจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม ลิ้นสากชื้นสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากของนางอย่างหิวโหย ฝ่ามือทั้งสองกอบประคองเต้าสล้าง บีบเคล้นความนุ่มหยุ่นเต่งตึงแห่งวัยสาว อย่างเมามัน จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอหอมละมุน วนเวียนสูดดมกลิ่นเนื้อสาวราวกับภมรเพิ่งรู้จักความหอมของดอกไม้
อาเธอร์ใช้ประสบการณ์ชั้นเชิงกาม ปลุกเร้าจนร่างบางอ่อนระทวย เสียงครางแผ่วเบากระเส่าสยิวของนางทำให้เขายิ่งเหิมเกริมในอำนาจความเป็นบุรุษ
อาวุธกลางกายของอาเธอร์แข็งชูชัน ส่วนปลายมีน้ำกามไหลซึมออกมา เขาอยากกระแทกความเป็นชายเข้าไปในตัวนางใจจะขาด
ทว่าแอนนาอีสช่างตัวเล็กและบอบบางนัก ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของหญิงสาว ทำให้เขายิ่งรู้สึกปรารถนาในตัวนางแทบคลั่ง
“ท่าน... ท่านอาเธอร์ ข้ากลัว” น้ำเสียงสั่นแบบเด็กสาวไม่ประสีประสา
แอนนาอีสจ้องเขม็งที่ลำลึงค์ซึ่งผงาดแข็งชูชันอยู่ตรงระหว่างขาของนาง
หญิงสาวเนื้อตัวสั่นสะท้าน อารมณ์ปั่นป่วน จุดเร้นลับเอ่อล้นด้วยของเหลวแห่งความปรารถนาที่ซึมออกมา เปียกปอยขนจนชุ่มฉ่ำ
“ธรรมชาติสร้างชายหญิงมาคู่กัน ไม่มีสิ่งใดที่ต้องเจ้าหวาดกลัว ดูสิ... ดอกไม้ของเจ้าชุ่มฉ่ำผลิบานพรั่งพร้อมต้อนรับข้าแล้ว”