จ้าวยวี่เสียงหงุดหงิดใจเมื่อต้องมาพบหน้าบุรุษและสตรีที่ทำให้เขาพลัดพรากจากมารดา ภาพที่มารดาถูกเหล่าทหารจับขังไว้ในกรงเหล็กแขวนเหนือพื้น พร้อมคำถากถาง เสียดสี ก่นด่าว่ามารดาใช้เวทมนตร์ทำให้ฮ่องเต้หลงใหล อีกทั้งยังเสกสรรลวดลายต่างๆ บนท้องฟ้าได้ แม้มารดาและเขาจะอธิบายว่าเป็นเพียงมายาและการแสดงจากคณะละครที่สอนนางเมื่อครั้งยังเยาว์ แต่ทว่าก็ไม่มีผู้ใดเชื่อ
แต่เมื่อเขาพิจารณาให้ถ้วนถี่ก็เป็นการดีเพราะบุรุษที่มารดาไปอยู่ในฐานะสตรีบรรณาการก็ยังให้เกียรติมารดาของตนมากเสียกว่า หากครั้งนั้นเขาไม่คิดถึงมารดามากจนแอบลอบเข้าวังแคว้นเจี้ยนอิ่ว คงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วฮ่องเต้ผู้นั้นจะเคยเป็นพระราชโอรสของอดีตรัชทายาทของแคว้นหนานจื้อ หากจะให้กล่าวอย่างถูกต้องก็คือบุรุษผู้นั้นมีฐานะเป็นพระปิตุลา เพียงเพราะอำนาจของฮองไทเฮาต้องการให้สกุลจ้าวเป็นใหญ่ในแผ่นดินจึงคิดผลัดเปลี่ยนแผ่นดินได้สำเร็จ แต่ไม่คิดว่าทั้งอดีตองค์รัชทายาทและพระราชโอรสที่ถูกกำจัด จะเป็นใหญ่ขึ้นครองแคว้นเจี้ยนอิ่วได้ หากไม่เพราะมารดาไม่คิดจะมีใจอยู่ที่นั่น เขาคง...
"เหนียนอ๋อง" เสียงฟ่านกุ้ยเฟยเอ่ยทักระหว่างเดินสวนกัน
"คารวะฟ่านกุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ" เขาโค้งคำนับเต็มพิธีการ "สนทนากันหน่อยสักครู่จะได้หรือไม่"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ตำหนักฟ่านกุ้ยเฟย
"เหนียนอ๋อง เมืองหลวงเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าตอนที่เจ้าจากไปไหม"
"กระหม่อมเพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวง ยังไม่เห็นสิ่งใดปกติเลย
พ่ะย่ะค่ะ" ฟ่านกุ้ยเฟยส่ายหน้า ในใจนึกตำหนิเหนียนอ๋องว่าเขาไม่ใส่ใจหรือไม่อยากตอบคำถาม "นางเป็นอย่างไรบ้าง? " ฟ่านกุ้ยเฟยเอ่ยถามถึงสหายสนิท ซึ่งบัดนี้ได้ไปอยู่ยังแคว้นอื่นแล้ว "เสด็จแม่ทรงเกษมสำราญดีพ่ะย่ะค่ะ"
"เหนียนอ๋อง ฮ่องเต้เริ่มชราลงทุกวัน ภายในวังเริ่มแตกเป็นหลายฝ่าย ข้าเกรงว่า? "
"ฝ่าบาทยังอยู่อีกนาน ฟ่านกุ้ยเฟยอย่าทรงเป็นกังวล"
"เจ้ากลับมาคงไม่คิดที่จะ? "
"ไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรักความสงบเฉกเช่นมารดา ไม่เข้าฝ่ายใด ถึงแม้ผู้ใดจะขึ้น ฟ่านกุ้ยเฟยก็อยู่ได้ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ" นางยิ้มรับ
"ข้าไม่มีบุตรไยต้องกังวล เฮ้อ! ข้าถึงวัยอันควรสวดมนต์ขอพรพระโพธิสัตว์แล้วสินะ เหนียนอ๋องข้าขอเตือนเจ้า อะไรวางได้ก็วาง หากยังกำก้อนหินอันแหลมคมก็รังแต่จะเจ็บ หากปล่อยก็จะสบาย อีกไม่นานผลกรรมจะทำงานเอง"
"ขอบคุณที่ฟ่านกุ้ยเฟยทรงชี้แนะ กระหม่อมจะจำใส่ใจ กระหม่อมขอลาก่อน" ฟ่านกุ้ยเฟยมองตามร่างแกร่งที่โตเป็นหนุ่ม นางยังจำเด็กหนุ่มวัยสิบสองที่ร้องไห้ยามที่พระมารดาของเขาอยู่ในกรงเหล็ก หรือแม้แต่ช่วงที่พระมารดาของเขาไม่อยู่แล้ว เขามีนางคอยปลอบประโลมและเตือนสติ นางกลัวเหลือเกินว่าเหนียนอ๋องจะกลับมาล้างแค้นฮองเฮา เมื่อครั้งที่ฮองเฮาเคยแอบให้คนเอายาพิษใส่ไปในอาหารเขากินเพื่อคิดปลิดชีพ ดีที่เขากินไปไม่มากและหมอหลวงช่วยไว้ทัน ไม่เช่นนั้น...