สองวันนี้ทางการเทียวเข้าเทียวออกที่หอหอมหมื่นลี้ เพื่อนำตั๋วเงินของคนสกุลหนิงมามอบให้พร้อมแจ้งข่าวเรื่องการส่งคนเข้ามาสร้างโรงเรือนที่ถูกเผาไป ส่วนจวนสกุลหนิง ทางด้านหนิงเหนียนอาน ไม่สามารถนำเงินมาไถ่ถอนได้ จวนสกุลหนิงจึงตกเป็นของจื้อซิ่งเหมี่ยนไปโดยปริยาย
ข่าวบุตรสาวที่เกิดจากอดีตฮูหยินสกุลกู้โจษจันไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือไม่ทว่าชื่อเสียงของนางก็ทำให้เหล่าสกุลน้อยใหญ่อยากจะผูกมิตรไมตรี หากชายใดได้แต่งนางเข้าสกุลคาดว่าสินเจ้าสาวคงมากมายจนนับไม่ถ้วน อายุไม่สิบแปดปีเต็มแต่สามารถหาเงินเข้าคลังตนเองได้นับว่าไม่เลว นึกแล้วก็เสียดายแทนเกู้สิ่นไต้ฝู่บุตรสาวที่อดีตจะเคยเกิดมาเป็นลูกเป็ดอัปลักษณ์แต่เมื่อเจริญวัยผลัดขนออกมากลายเป็นหงส์ สง่า งดงามและเป็นที่หมายปองของผู้คน
จื้อซิ่งเหมี่ยนไม่สนใจบรรดาแม่สื่อที่เดินทางมายังหอเพื่อขอทาบทามนางให้แต่งเข้าสกุล นางขึ้นรถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมือง พร้อมของกินของใช้มากมาย
"คุณหนูจื้อ" หัวหน้าหมู่บ้านวิ่งออกมาต้อนรับนาง และเกณฑ์คนให้ช่วยขนของ "สองคนนั้น รบกวนท่านผู้ใหญ่ช่วยตามเขามาพบข้าที่ศาลาด้วยนะเจ้าคะ" นางนอบน้อมยิ่งเมื่อสนทนากับผู้นำหมู่บ้าน แน่นอนที่นางให้ตามเพราะนางต้องขอบคุณสองคนนั้นที่ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
จื้อซิ่งเหมี่ยนเข้าไปยังจวนหลังหนึ่งที่ไม่ใหญ่ไม่โต นางให้คนสร้างขึ้นมาเป็นจวนของตนเอง ภายในเรือนมิได้มีของประดับสูงค่าแค่แจกันประดับดอกไม้ก็นับว่าดีมากแล้วสำหรับนาง
"พี่เนี่ยนจือ" นางเดินเข้ามาสวมกอดด้านหลังอดีตสาวใช้ ที่เวลานี้นางกลายเป็นใบ้ และมีเพียงแค่ดวงตาข้างเดียว เนี่ยนจือคือสาวใช้ที่สละตัวเองเพื่อให้จื้อซิ่งเหมี่ยนหรือกู้หลันอวี้ในอดีตหนีจากหอคณิกาได้ แต่นางกลับตกนรกแทน นางถูกกรอกยาและควักลูกตา ซ้ำร้ายยังถูกตีแขนตีขาให้ได้รับทุกขเวทนา หากไม่เพราะนางเจ็บปวดเจียนตายพวกเดรัจฉานเหล่านั้นเห็นว่าการให้น้ำให้อาหารนางไปก็มีแต่สิ้นเปลือง จึงได้ปล่อยนางให้ออกจากนรก คนสิ้นไร้ไม้ตรอกเช่นนางเกือบเหยียบทะเลเหลืองมาแล้วกลับถูกคนไร้บ้านไร้อาหารช่วยเหลือไว้ นางไม่คิดว่าสตรีใจบุญคุกเข่าโขกศีรษะให้ตนเองคือคุณหนูที่ตนเองเคยช่วยชีวิตเอาไว้
นางยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อรู้ว่าจื้อซิ่งเหมี่ยนกลับมาเยี่ยมตน นางส่งภาษามือและกลัวว่านายของตนจะฟังไม่รู้เรื่องก็เขียนใส่ฝ่ามือ นางยิ้มรับ "ข้าก็คิดถึง พี่เนี่ยนจือเฝ้าที่ประตูให้ข้าหน่อย อย่าให้ใครเข้ามา" นางพยักหน้าแล้วรีบไปยืนเฝ้าที่หน้าเรือน
จื้อซิ่งเหมี่ยนก้มใต้เตียงเตา เปิดผ้าคลุมและมุดตัวเข้าไปใต้เตียง นางนอนราบใช้มือดันใต้เตียงเป็นบานเลื่อนให้เปิดออก นางค่อยๆ ปลดชุดของตนเองออก ด้านในมีชุดหยกที่นางสวมอยู่ นางพลิกตัวซ้ายขวาเพื่อถอดออกมาจนได้ แม้จะรู้ว่าชุดที่สวมใส่ทำให้นางดูตัวเล็กไป แต่จะทำอย่างไรได้ นางมาเพื่อนำมันมาซ่อน
นางมองชุดหยกในใจพลันคิดว่าหากนางคาดไม่ผิด จ้าวยวี่เสียงต้องรู้จักโจรภูเขาผู้นั้นเป็นแน่ และเป็นไปได้ที่ผู้อื่นย่อมจะรู้จักโจรผู้นั้นด้วย ภายหน้าเรื่องร้ายอาจเกิดขึ้นหรือไม่นางก็มิอาจคาดเดาได้ แต่สิ่งที่นางสมควรทำก็คือการป้องกันไว้ก่อน นางไม่เชื่อใจผู้ใด ไม่ใช่ไม่อยากเชื่อใจ แต่เพราะมิอาจเชื่อใจใครได้เท่านั้นเอง!
นางรีบพับชุดหยกเข้าไปในบานเลื่อนที่พอจะเก็บซ่อนเอาไว้ได้ เหลือก็แต่เพียงหยกสีน้ำผึ้งที่อยู่ในร่างของนางหากจะนำมาซ่อนคงต้องกรีดเนื้อและควักมันออกมา นางรีบสวมชุดให้เรียบร้อยแม้ไม่สะดวกนักแต่ก็ดีกว่าร่างเปลือยเปล่าออกจากใต้เตียง
จื้อซิ่งเหมี่ยนเดินออกมานอกเรือนและเข้าไปประคองเนี่ยนจือเพื่อที่จะไปยังศาลาใกล้กับสำนักสถานศึกษา เมื่อถึงที่หมายนางเป็นชายสองคนรูปร่างผอมยืนรออยู่แล้ว จื้อซิ่งเหมี่ยนพยักหน้าพร้อมเดินเข้าศาลาไปพร้อมกับเนี่ยนจือ
"ข้าทำให้พี่ทั้งสองต้องลำบากแล้ว"
"ไม่เลยขอรับคุณหนู คนของทางการก็ไม่ได้ทำอะไรข้าทั้งสองคน ดีที่พี่สุ่ยกำชับว่าไม่ต้องการให้พวกข้าน้อยมีรอยช้ำ" นางยิ้มชื่นชมที่อาสุ่ยไม่ทำให้พวกพ้องของตนเองต้องบาดเจ็บ นางหยิบตั๋วเงินสองใบออกมาแล้วยื่นให้กับคนทั้งสอง
"นี่อะไรหรือคุณหนู? "
"ของตอบแทนน้ำใจจากข้า พวกพี่ทั้งสองรับไปเถิดนะ" นางส่ายหน้าปฏิเสธที่คนทั้งสองจะค*****นจำนวนนี้
"งานที่ข้าไหว้วานพี่มีความเสี่ยง หากทางการไม่ยอมปล่อย
ข้าต้องรู้สึกผิดกับครอบครัวพี่และตัวพวกพี่ทั้งสองไปอีกนาน เงินจำนวนนี้ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับที่ข้าได้มา รับไปเถอะ"
"ขอบคุณคุณหนูมาก" สองคนรับตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งพันตำลึงไปคนละหนึ่งใบ ด้วยความปลื้มปีติ งานนี้เสี่ยงก็จริงอยู่แต่พวกเขาเต็มใจทำเพราะนอกจากจะตอบแทนนางแล้ว ครอบครัวของเขาทั้งสองก็ไม่ต้องอดอยาก
เพราะรู้ว่าอย่างไรจื้อซิ่งเหมี่ยนต้องดูแลครอบครัวของพวกเขาได้ตามที่อาสุ่ยบอก เมื่อทั้งสองคุยธุระกับจื้อซิ่งเมี่ยนจบก็ขอตัวลากลับปล่อยให้นางคุยกับเนี่ยนจือ
"ข้ารู้แล้ว ข้าจะระวังตัว พี่เนี่ยนจือต้องทานยาและให้หมอมาตรวจบ่อยๆ " นางตีที่ฝ่ามือของเนี่ยนจือที่ประกบอยู่บนฝ่ามือนางเบาๆ
"ตอนนี้ข้าทำลายชื่อเสียงของหนิงไช่กวงได้แล้ว เขาอยู่ในคุกแต่ข้าคิดว่ามารดาเขาคงไม่ปล่อยข้าแน่ ข้าคงไม่มีเวลามาเยี่ยมพี่เนี่ยนจือบ่อยนักหรืออาจจะหายไปสักพัก พี่ไม่ต้องห่วงข้า" แม้ในใจของเนี่ยนจือจะห่วงดรุณีวัยแรกแย้มนี้มากแค่ไหน แต่นางก็ไม่คิดที่จะห้ามเพียงแค่เตือนให้นางระวังภัย เพราะความเลวของคนพวกนั้นสมควรที่จะเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง
"รอให้พวกมันตายและชดใช้กรรมในนรกมันช้าไป คนพวกนั้นต้องตกนรกบนดิน ต้องร้องขอชีวิตให้สมกับความคั่งแค้นของข้า"
เนี่ยนจือพยักหน้ารับและจู่ๆ นางก็หยิบบางสิ่งออกมาให้จื้อซิ่งเหมี่ยน นางรับมาจากมือ เพ่งมองสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือ
"ข้ายังไม่ใช้ ขอขอเก็บไว้ก่อนเผื่อมันจะมีประโยชน์ยามโอกาสที่จำเป็นจริงๆ "