บทที่ 5 คุณคนนั้น

1542 คำ
“มึงรีบไสหัวมึงออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำประกาศกร้าวอย่างเอาเรื่อง ดวงตาคู่คมมองคนที่เขาพึ่งประทับรอยเท้าลงไปบนสีข้างของมันอย่างน่ากลัว ขณะที่มันล้มหน้าคะมำลงไปนอนกองอยู่ข้าง ๆ คนที่มันกล้าพามาทำเรื่องต่ำตมในร้านของเขา “หน็อย! มึงเป็นใครวะถึงกล้ามาไล่กู” นายนิกที่พาตัวเองจนตั้งหลักได้แล้ว หันไปมองหน้าคนที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัว แถมยังทำให้รู้สึกเสียหน้าไม่เบา ที่เขาต้องโดนถีบจนกระเด็นไปต่อหน้าต่อตาของฐานิตาแบบนี้ “ถ้าเกิดมึงยังไม่รีบออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวมึงจะได้รู้แน่ว่ากูเป็นใคร” ติณณภพพูดขู่ แต่สายตาที่เขามองนายนิกนั้นเอาจริงเสีย ทำให้อีกฝ่ายที่ถูกมองก็แอบเสียวสันหลังวาบขึ้นมาเหมือนกัน จนไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวที่เกือบจะเป็นของเขาได้ลุกขึ้นมาแล้ว “คะ คุณช่วยหนูด้วยนะคะ” ฐานิตาพยุงตัวขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล เธอประคองร่างกายที่เจ็บระบมไปหมดทั้งตัวเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอีกคนอย่างที่ไม่ต้องคิดไตร่ตรองเลยสักนิดว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าเขาช่วยทำให้เธอเป็นอิสระจากนายนิกก็เพียงพอแล้ว ติณณภพตวัดสายตามองหญิงสาวที่ลนลานเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังของเขา ในเสี้ยววินาทีหนึ่งที่นัยน์ตาสีนิลของเขาได้สบประสานเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของฐานิตาเข้าพอดี แม้จะเพียงแวบเดียวแต่ก็มาพอที่จะทำให้เขาเห็นความหวาดหวั่นในดวงตา ที่มีประกายจากหยาดน้ำตาและยังคงเปียกชื้นจับอยู่กับแพรขนตางอนหนาของเธอ “โห น้องแยมนี่ก็เหลือเกินจังเลยนะคะ ทำมาเป็นกลัวพี่ แต่พอเห็นผู้ชายเข้าหน่อยก็รีบวิ่งแจ้นเข้าไปหาเขาเลยซะงั้น” นายนิกแสยะยิ้มร้าย เขาพูดจาแดกดันฐานิตาเมื่อเห็นว่าเธอรีบเดินไปหาผู้ชายคนใหม่ อย่างที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกในความผิดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย “สมแล้วที่เป็นเด็กเอ็น...ให้ท่าเขาไปทั่วแล้วมาทำเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อ” “มึงจะหยุดพล่ามได้หรือยัง” ติณณภพเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาดุดัน แต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ แต่มันกลับเป็นสีหน้าที่เห็นแล้วกวนอารมณ์ของนายนิกได้ดีเลยทีเดียว “กูจะพูดแล้วมึงจะทำไม จะทำอะไรกูเหรอ” นายนิกพูดท้าทาย ริมฝีปากยกยิ้มย่องตั้งใจจะกวนประสาทของติณณภพ พร้อมกลับยื่นหน้าเขาไปท้าทาย แบบที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองที่กำลังจะเกิดขึ้นเลย “ไหน! มึงจะทำอะไรกู” ผลัวะ! “โอ๊ย!” “คุณ!” ฐานิตาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอเผลอเรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเสียงดัง เพราะยังไม่ทันที่นายนิกจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำ ติณณภพก็เหวี่ยงหมัดใส่หน้าของนายนิกเข้าอย่างจัง โดยที่ไม่ต้องพูดพร่ำอะไรให้เสียเวลา อีกฝ่ายก็หน้าหันไปตามแรงที่ปะทะลงบนผิวหน้าเสียแล้ว “ละ เลือด! มึงกล้าต่อยกูเหรอวะ!” นายนิกถามทั้งที่เขาเป็นคนท้าทายเอง ก่อนที่จะใช้นิ้วลูบไปที่มุมปากและแตะออกมาดูก็พบว่ามันมีของเหลวสีแดงเปื้อนนิ้วติดมาด้วย ความเจ็บผสมกับความอายก็ทำให้เขาโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า วิ่งเข้าใส่ติณณภพทันทีเหมือนคนขาดสติ ผลัวะ! โครม! “โอ๊ย! อั๊ก!” แต่ยังไม่ทันได้เอาคืนก็โดนติณณภพที่เร็วกว่าต่อยเข้าที่หน้าอีกหมัดหนัก ๆ อีกรอบ แถมครั้งนี้นายนิกก็ยังโดนฝ่าเท้าใหญ่ที่สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวถีบซ้ำลงไปที่ท้องน้อยอีกด้วย และแรงถีบที่ว่านั่นก็แรงพอที่จะทำให้เขาร่างของเขากระเด็นล้มหงายหลังลงไปชนเข้ากับประตูห้องน้ำอย่างจัง “โอ๊ย พะ พอแล้ว...กูขอโทษ” “ทีนี้มึงรู้หรือยังว่ากูทำอะไรมึงได้บ้าง” ติณณภพก้าวสามขุมเดินเข้าไปนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าของนายนิกที่นอนพับขอร้องเขาอย่างหมดสภาพ แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับง้างหมัดขึ้นมา เตรียมที่จะเหนี่ยวใส่อีกครั้ง “คุณพอแล้ว!” แต่ยังไม่ทันได้ซัดกำปั้นลงไปตามตั้งใจ ฐานิตาก็ได้วิ่งเข้ามาคว้าท่อนแขนแกร่งของเขาเอาไว้ก่อน ทำให้เขาต้องหยุด...หยุดลงแม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก “พอแล้วค่ะ” ฐานิตาก้มมองนายนิกที่ตอนนี้สภาพดูไม่จืด ทั้งปากแตก คิ้วแตก จนเธอคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเธอไม่เข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อน ไอ้ผู้ชายสารเลวนี่จะมีสภาพเป็นยังไงบ้าง “.....” ติณณภพขบกรามแน่น ลมหายใจร้อนผ่าว แววตาที่เขามองคนชายตรงหน้าน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาและยอมคลายกำปั้นออก พร้อมหันมองไปที่มือเล็กที่ยังจับแขนของเขาแน่นเพื่อส่งสัญญาณญาณบอกให้เธอปล่อยเขาได้แล้ว “ขอโทษค่ะ” ฐานิตารีบปล่อยมือออกจากแขนของติณณภพ และเดินถอยหลังออกห่างจากเขาไประยะหนึ่ง ฐานิตาเฝ้ามองติณณภพที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เธอมองเขาอยู่นิ่ง ๆ จากด้านหลัง ในขณะที่เขาล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องแพงออกมา ก่อนที่จะต่อสายไปหาใครบางคนอย่างไม่รีรอ “มาเอาหมาที่ห้องน้ำหญิงออกไปที” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสายเพียงแค่ไม่กี่ประโยค มองไปที่นายนิก ก่อนที่เขาจะวางสายและหันหาฐานิตาที่ยืนนิ่งอยู่เงียบ ๆ “เป็นอะไรหรือเปล่า” ติณณภพเดินเข้าไปหาเธอ เขาเอ่ยปากถามฐานิตา สายตามองพื้นที่มีกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือกระจัดกระจายอยู่ ช่วยให้ฐานิตารู้สึกตัวและรีบก้มลงไปเก็บของทั้งหมดขึ้นมาเอาไว้กับตัว แม้จะยังเจ็บระบมไปทั้งตัวอยู่ก็ตาม “ขอบคุณนะคะ” ฐานิตาสะพายกระเป๋าเรียบร้อย ก่อนที่จะยกมือไหว้และเอ่ยขอบคุณติณณภพจากใจ เธอรู้สึกขอบคุณเขาจริง ๆ เพราะถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้ ป่านนี้เธอคงจะเสร็จไอ้โรคจิตที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างชักโครกนั่นไปแล้วก็ได้ “แขนเธอ...เป็นอะไรหรือเปล่า?” ติณณภพถาม เขาสังเกตเห็นรอยช้ำที่แขนเล็กของฐานิตา ในตอนที่เธอยกมือไหว้ขอบคุณเขาเมื่อครู่ “เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ” ฐานิตาตอบ เธอรีบก้มมองไปที่แขนของตัวเองและพบว่ามันช้ำเป็นจ้ำจริง ๆ เธอเลยรีบสางผมยาว ๆ มาปิดมันเอาไว้ ราวกับว่าไม่อยากโชว์มันให้ใครได้เห็น “ยังไงก็ขอบคุ...” “คุณติณครับ” ยังไม่ทันที่ฐานิตาเสียงจะพูดจบประโยค จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ เรียกความสนใจไปจากสายตาของฐานิตากับติณณภพให้หันไปดูพร้อมกันเป็นตาเดียว “หมาที่คุณติณให้พวกผมมาจับ...อยู่ไหนเหรอครับ” ชายในชุดสูทสีดำ ดูก็รู้ว่าเป็นบอดี้การ์ดของร้านเอ่ยถาม แต่ว่าชื่อที่เขาใช้เรียกชายหนุ่มตรงหน้ากลับทำให้ฐานิตาต้องดึงสายกลับไปที่เขา “นั่น ลากคอมันออกไปแล้วจำหน้ามันไว้...อย่าให้มันมาเหยียบที่นี่ได้อีก” ‘คุณติณ...อย่าบอกนะว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของแกคนนี้คือคุณติณณภพเจ้าของผับที่นี่’ ฐานิตาคุยกับตัวเอง สายตาที่มองติณณภพประหลาดใจเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับตกใจ “ครับคุณติณ...ไปพวกมึงไปเอาตัวมันมา” ใช่จริง ๆ สินะ...ฐานิตาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะได้เจอกับเจ้าของผับที่เคยได้ยินชื่อมาจากหลาย ๆ คนที่พูดถึงเขาในฐานะ ชายหนุ่มหน้าหล่อ บ้านรวย แต่ไม่มองหญิง...ติณ ติณณภพ ฐานิตาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้เจอเขาตัวเป็น ๆ เพราะมาใช้บริการที่ผับของเขาก็บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเจอได้ยินแต่ชื่อ แต่วันนี้เธอกลับเจอ...แถมยังเจอเพราะเขาเข้ามาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วยนี่สิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม