สาเหตุของเรื่องทั้งหมด

1396 คำ
ติ๊ง! ลิฟต์โดยสารหยุดลงที่ชั้นบนสุดของอาคาร ใบหน้าสวยหวานฉายความไม่สบายใจออกมา ก้าวขาออกไปจากลิฟต์ด้วยความหวาดกลัว ทางเดินมืดสลัวทำให้การมองเห็นไม่ดีเลย คนมาด้วยกันก็ไม่มีปฏิกิริยาแปลกๆ ให้เห็น เขานิ่งมาก จนเธอเริ่มคิดหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเอง คงไม่มีอะไรหรอก บางทีแม่เลี้ยงของเธอ อาจจะโชคดีได้สามีใหม่เป็นมหาเศรษฐี ถึงได้นัดเธอมารับเงินในสถานที่ที่มันแพงขนาดนี้ ไม่มีอะไรหรอก เธอได้แต่หวัง ขออย่าได้มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอเลย แอ๊ด! คำขอร้องอ้อนวอนของลลิสาไม่เป็นผล เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกจนมองเห็นด้านใน ใครบางคนนั่งถือแก้วเหล้ามองมายังเธอ ดวงตาคู่หวานฉายประกายวูบไหว ทั้งตกใจระคนหวาดกลัว ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่นั่งจิบเหล้าด้วยท่าทางสบายอารมณ์นั้น คือผู้ชายที่เพื่อนของเธออวดสรรพคุณให้ฟังก่อนจะเดินทางมาที่นี่ เขาคือเจ้าของใหม่ของสถานที่แห่งนี้ ผู้ชายที่ดูดีที่สุดของจังหวัด ร่ำรวยที่สุด และพ่วงความอันตรายที่สุดมาด้วย เขาคือ พ่อเลี้ยงภูมินทร์! พ่อเลี้ยงยังหนุ่มอายุ 30 ปี เธอโดนหลอกหรือเปล่า แม่เลี้ยงที่นัดให้มาเอาเงินวันนี้ ทำไมถึงไม่รออยู่ในห้อง แล้วผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงยกยิ้มแปลกๆ ส่งมาให้ เขาดูไม่ตกใจเลยที่เห็นเธอ ทำท่าทางเหมือนว่า เขากำลังนั่งรอการมาของเธออยู่ ตึก! “ลากตัวมา!” เสียงทุ้มออกคำสั่งทันที เมื่อเห็นว่าผู้หญิงด้านนอกหมุนตัวเตรียมหนี ลลิสารีบก้าวขาให้เร็วขึ้น แม้แสงสว่างตามโถงทางเดินจะน้อยนิด และทำให้ทัศนวิสัยในการมองย่ำแย่ แต่เธอจะต้องหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เผชิญหน้าอยู่ให้ได้ พรึ่บ! “กรี๊ด! ปล่อยนะ! มาจับฉันไว้ทำไม!” ลลิสากรีดร้องเสียงหลง พยายามดิ้นรนหนีจากผู้ชายที่เป็นคนพาเธอขึ้นมา พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด หวังว่าเขาจะพาเธอมาผิดห้อง แต่เมื่อเขาไม่ยอมปล่อย ความหวังที่มีก็เริ่มริบหรี่ลง “อย่าดิ้น! ไม่อย่างนั้นเธอได้เจ็บตัวแน่!” “กะ ก็ปล่อยสิ จะได้ไม่ดิ้น!” แม้จะบอกแบบนั้น แต่ลลิสาไม่มีความคิดที่จะยอมง่ายๆ ความต่างของร่างกายที่มีมากกว่า ไม่ได้ทำให้เธอหยุดดิ้นรน เมื่อดิ้นจนคนตัวโตเริ่มเหนื่อยตาม เธอก็หาจังหวะทำร้ายจุดสำคัญของเขา ปึก! “โอ้ย! เหี้ย! อีเด็กนี่!” พฤกษ์ร้องลั่น เมื่อเข่าแหลมๆกระทุ้งโดนส่วนสำคัญของร่างกายจนต้องคลายมือออก มองคนที่หนีออกไปจากการจับกุม อย่างหวั่นกลัวคนที่นั่งรออยู่ในห้องส่วนตัว ถ้าหากพาผู้หญิงคนนั้นไปให้พ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาต้องโดนพ่อเลี้ยงไล่ออกแน่ๆ เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็ฝืนวิ่งทั้งที่เจ็บช่วงล่าง ลลิสารีบก้าวขาต่อเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมา แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอเลย ตอนที่เธอวิ่งจนเกือบจะถึงบันไดลงไปชั้นล่าง ก็มีกลุ่มคนกรูเข้ามาจับตัวเธอไว้ “กรี๊ด! ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!” “แม่ง! ฤทธิ์เยอะชิบหาย! ลากตัวไปห้องส่วนตัวนาย!” พฤกษ์พูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด และไม่เกรงใจ แม้เธอคนนี้จะถูกลากตัวไปเป็นผู้หญิงของเจ้านาย ด้วยนิสัยของพ่อเลี้ยงนั้นเป็นคนขี้รำคาญ ได้แล้วทิ้ง ผู้หญิงแบบเธอคนนี้โดนไปเยอะ “ใครเหรอพี่พฤกษ์?” “ของนาย!” พฤกษ์รีบบอกลูกน้อง ที่ทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่หญิงสาว ก่อนที่พวกมันจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ และคำว่า ‘ของนาย’ ก็ทำให้หลายมือที่จับอยู่คลายออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแน่นหนาพอ จนลลิสาหาทางรอดให้ตัวเองไม่เจอ ยิ่งโดนลากกลับไปใกล้ห้องริมสุดทางเดินเท่าไหร่ หัวใจยิ่งเต้นระรัว เนื้อตัวสั่นเทาจนยากจะควบคุม แกร๊ก! ปึ่ง! พลั่ก! ร่างบางเถถลาไปด้านหน้า ล้มลงบนพื้นหินอ่อน เพราะแรงผลักจากมือใครสักคน ดวงตากลมโตตวัดไปมองคนด้านหลังอย่างเกลียดชัง พฤกษ์ไหวไหล่ขึ้นลงช้าๆ แต่เมื่อมองไปเห็นสีหน้าของเจ้านาย ไหล่ทั้งสองก็ลู่ลงต่ำด้วยความหวาดกลัว ภูมินทร์มองสำรวจคนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างละเอียด ไล่ตั้งแต่ไรผมบริเวณหน้าผาก คิ้วโก่งโค้งตามรูปของดวงตา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากกระจับ และปลายคางแหลมคม แม้โครงหน้าจะใกล้เคียงกับรูปถ่าย แต่ทำไมให้ความรู้สึกแตกต่างได้ขนาดนี้ ไม่ตรงปกสุดๆ เขาโดนหลอกอีกแล้วเหรอ? “คุณทำแบบนี้ทำไมคะ?” ลลิสาเอ่ยถามเสียงห้วน แม้จะคงความสุภาพไว้ในถ้อยคำ แต่คนฟังไม่ได้รู้สึกถึงความสุภาพเลย น้ำเสียงที่เหมือนหาเรื่องอยู่กลายๆ และเหมือนคนไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ทำให้ภูมินทร์เหยียดยิ้ม สองแม่ลูกเล่นตลกกับเขาอยู่แน่ๆ คนแม่โคตรจะหลอกลวง ส่วนคนลูกก็ตีหน้าซื่อ ทำเหมือนตัวเองไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มันน่าหงุดหงิดจริงๆ สาเหตุที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ มันจะเป็นอะไรได้ล่ะ ไม่ใช่ว่าเขาพิศวาสเธอจนอยากได้หรอกนะ แต่มันเป็นเพราะแม่ของเธอต่างหาก แม่เธอยกเธอให้เขาแล้ว เมื่อสองวันก่อน ตอนที่เขาตรวจสอบธุรกิจเงินกู้อยู่ ก็พบว่ามีลูกค้ารายหนึ่ง ค้างจ่ายทั้งเงินต้นทั้งดอกเบี้ยนานเกือบหกเดือน รวมเป็นเงินทั้งหมดเกือบหกล้าน ซึ่งมันไม่ใช่น้อยๆเลย แถมยังทำเหมือนจะหนีหน้าหายไปอีก เขาเลยสั่งให้คนไปลากตัวมาคุย ผลสรุปก็คือ ผู้หญิงคนนั้นยกลูกสาวให้เขา เป็นหลักประกันหนี้เพื่อให้ตัวเองหาเงินมาจ่ายในครั้งหน้า “เธอชื่ออลิสหรือเปล่าล่ะ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เจ้าของชื่อได้ยิน เกิดอาการตัวสั่นจนยากจะควบคุม แม้จะเงยหน้าอยู่ก่อนแล้ว กลับต้องเงยขึ้นไปอีก เพราะระดับความต่างของร่างกาย เมื่อผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาฉายสีหน้าแสนอันตราย เธอก็ขยับตัวเพื่อหนี “กรี๊ด!” ความเร็วของเธอยังช้ากว่าคนที่มองเธออยู่มาก ทันทีที่เห็นว่าเธอจะหนี ภูมินทร์ก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา เดินปรี่มาคว้าท่อนแขนเรียวเล็กไว้ ออกแรงบีบมากๆ จนใบหน้าไร้เครื่องสำอางบิดเบี้ยว “ปล่อยนะ! ช่วยด้วย! กรี๊ด!” มือใหญ่อีกข้างยกขึ้นทาบริมฝีปากจิ้มลิ้มไว้ได้ทัน ใช้สายตาสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดออกไปจากห้อง ประตูที่ถูกปิดสนิท ทำให้ความหวังของลลิสามอดดับ หญิงสาวมองคนตรงหน้าตาขวาง ดิ้นรนหนีทั้งๆที่ไม่มีความหวัง “อึก! อื้อ!” “อยากร้อง? ลองร้องดูสิ ร้องดังๆนะ” ภูมินทร์ก้มหน้าลง พูดชิดกับผ่ามือของตัวเองที่แนบสนิทอยู่บนริมฝีปากได้รูป ใช้แผ่นอกหนันแน่นกักขังคนตัวเล็กไว้ ยิ่งเธอดื้อรั้นดิ้นรนมากเท่าไหร่ เขายิ่งกดทับแผงอกลงไปพร้อมกับบีบท่อนแขนแรงๆ มองสบดวงตากลมโตด้วยแววตาที่เหนือกว่า ลลิสาลืมแม้กระทั่งวิธีการหายใจ เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลอันตรายที่ใครๆต่างหมายครอบครอง แม้ร่างกายจะตอบสนองตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่หัวใจเธอกลับถูกดวงตาสีดำแช่แข็งไว้ มันเหมือนกับหยุดเต้นไป และไม่นานก็เต้นระรัวขึ้น เต้นเร็วพร้อมกับการไหลเวียนของเลือด ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด “อื้อ!” “ไม่ร้อง?” “อื้อ!” ลมหายใจร้อนจากจมูกโด่งสวยรดลงบนผิวแก้ม ลลิสารีบดึงสติกลับมา ก่อนที่มันจะหลุดลอยไปอีกจนไร้สิ้นสติ ยกมือที่ว่างขึ้นดันใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อเผลอคิดไปว่า ถ้าหากไม่ยกมือขึ้นมา ริมฝีปากได้รูปนั้น อาจจะแนบลงบนแก้มของเธอ อันตราย! ผู้ชายคนนี้อันตรายอย่างที่เพื่อนบอกจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม