“เสร่อโทรมาทำไม” ว่าจะไม่รับแล้วนะ แค่มีสายเข้าตอนหกโมงเช้าก็หงุดหงิด แต่พอเห็นชื่อคนโทรมาก็เลยรับจะได้ว่าให้รู้ว่าไม่ควรเสร่อโทรมาหาฉัน
“กลับเมืองไทย ผมจองตั๋วเครื่องบินส่งให้ในอีเมล์แล้ว”
“อะไรนะ?”
“คุณต้องกลับเมืองไทย ไฟล์วันนี้ตอนหกโมงเย็น”
“นี่นายคิดว่านายเป็นใครถึงกล้ามาสั่งฉัน ไปเป่าหูอะไรคุณพ่อให้เรียกตัวฉันกลับไทยใช่ไหม!”
“กลับมาไอริส...คุณอาเสียแล้ว”
“...อะไรนะ”
“คุณอาพิธานเสียแล้ว”
“ไม่จริง! นายพูดบ้าอะไรของนาย!”
“ตั้งสติ ตอนนี้คุณต้องตั้งสติแล้วกลับมางานศพท่าน”
“ไม่จริง! นายโกหกฉัน คุณพ่อ...คุณพ่อฉันท่านสบายดี อย่าโทรมาอีกนะ อย่าโทรมาพูดจาสกปรกใส่ฉันอีก!”
ติ๊ด!
“...” ฉันไม่เชื่อคำพูดนายนั่น ไม่จริง มันไม่ใช่เรื่องจริง
ไอ้ดินมันแกล้งฉัน มันแกล้งฉันมาตลอด แต่ครั้งนี้มันแกล้งฉันมากเกินไป! มันกล้าเอาคุณพ่อมาล้อเล่นคอยดูฉันจะให้คุณพ่อจัดการมัน!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ฉันพยายามต่อสายทางไกลหาคุณพ่อแต่ท่านไม่รับสายเลย ไม่ว่าจะพยายามโทรไปกี่ครั้งก็ไม่รับเลย แต่ตอนนี้ที่เมืองไทยเพิ่งจะเที่ยง บางทีคุณพ่ออาจจะยังติดประชุมหรือมีนัดทานข้าวกับลูกค้าเลยไม่สะดวกรับสายก็ได้
ตั้งสติไอริส ตั้งสติอย่าบ้าไปกับคำพูดของไอ้ดินคนนั้น!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
“คุณพ่อ รับสายริสสิคะ” ฉันกระวนกระวายใจ ไม่อยากคิดตามคำพูดทุเรศ ๆ ของไอ้นั่น แต่คุณพ่อหายไปไม่รับสายแบบนี้ก็ทำฉันนั่งไม่ติดเหมือนกัน
ฉันหยุดโทรหาท่าน ขอเว้นระยะเวลาไว้ก่อนแล้วค่อยติดต่อไป เผื่อท่านไม่ว่างไงคะ แต่รู้ไหมว่าระหว่างที่รอเวลาฉันกลับไม่กล้าหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูโซเชียลมีเดียเลย
ฉันไม่อยากเชื่อคำพูดไอ้ผู้ชายคนนั้น แต่ฉันก็กลัว...ฉันกลัวจริง ๆ นะ
“ฮึก! คุณพ่อสบายดีใช่ไหมคะ คุณพ่อแค่ติดธุระเลยรับสายไม่ได้ใช่ไหมริสรู้” ฉันมองรูปคู่ของฉันกับท่านที่วางอยู่หัวเตียง ในใจได้แต่ภาวนาให้วันนี้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับฉัน
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
“...” ฉันคิดว่าเป็นคุณพ่อโทรกลับถึงได้รีบคว้าโทรศัพท์แต่พอเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามาสติฉันก็หลุดไปเลย
...คุณอาทนาย
“ไม่จริง~ ไม่จริง ไม่จริง! กรี๊ด!!!”
#IRIS END
#DIN TALK
“ไม่รับสายเหรอครับคุณอา”
“อื้ม ไม่รับเลย”
“อ่าส์! สติหลุดไปแล้วมั้งครับ”
“อาเป็นห่วงหนูไอริส อยู่ที่นั่นคนเดียวด้วยจะแบกรับเรื่องนี้ยังไง จะเดินทางมาไหวรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ ไอริสต้องโตได้แล้ว ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณอา”
“ตามสบายดิน อาจะไปดูเรื่องเอกสารก่อนจะได้พาท่านออกจากโรงพยาบาล”
“ครับ” ผมก้มหัวให้อาทนายแล้วเดินเลี่ยงไปโทรหาใครคนหนึ่ง
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ติ๊ด!
“คะดิน”
“แพรวว่างรึเปล่า”
“ว่างค่ะ วันนี้วันหยุด”
“ครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนหน่อย”
“มีอะไรคะ แล้วเป็นอะไรทำไมเสียงฟังไม่ดีเลย”
“...คุณอาพิธานเสียแล้ว” กว่าผมจะพูดคำนี้ออกมาได้มันโคตรลำบาก มันบีบหัวใจจนผมแทบทนไม่ไหวกับเรื่องกระทันหันที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น
“อะไรนะคะ”
“ผมมีเรื่องสำคัญจะขอให้แพรวช่วยผมหน่อยได้ไหม”
“อย่าบอกนะคะว่า...”
“ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ไอริสเป็นยังไงบ้าง แพรวไปดูให้ผมหน่อยได้ไหม”
“ดินคะ แพรวเห็นใจดินนะที่สูญเสียคุณอา แต่อย่าให้แพรวไปทำธุระเรื่องนี้ให้เลยนะ แพรวไม่อยากเจอหน้าเด็กคนนั้นที่ทำให้แพรวกับดินอยู่ด้วยกันไม่ได้”
“แต่ไอริสไม่มีใคร ผมรู้ว่าเธอแบกรับเรื่องนี้ไม่ไหว อย่างน้อยก็อยากให้มีใครพาเธอไปส่งที่สนามบิน”
“แพรวขอโทษนะดิน แพรวทำให้ไม่ได้จริง ๆ อย่าห่วงเลยค่ะเด็กคนนั้นเก่งจะตาย แต่ถ้าไม่มีปัญญากลับไปงานศพพ่อก็ไม่ต้องมีลูกสาวคุณอาพิธานอยู่ในงานศพก็ได้นะคะ”
“แพรว”
“ขอโทษค่ะที่แพรวพูดแรงไป แต่ถ้าเข้าใจความรู้สึกของแพรวดินจะไม่สงสัยเลยว่าทำไมแพรวไม่ช่วย”
“โอเคครับ ขอโทษนะที่ผมโทรมากวนแต่เช้านะแพรว”
“ดินโทรมาได้เสมอค่ะ แพรวคิดถึงนะคะ เสียใจด้วยนะเรื่องคุณพิธานท่านเป็นคนดีมาก”
“ครับ”
ติ๊ด!
“อ่าส์!” ผมไม่ได้โกรธแพรวเลยที่ไม่ช่วยเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเธอ มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอด้วย มันหน้าที่ของผมต่างหากที่จะทำให้ไอริสมีสติมากพอในการเดินทางกลับมา
Din : ถ้าคุณว่าง โทรกลับมาหาผม
ผมไม่อยากเซ้าซี้เธอ ปกติก็ไม่ได้ลงรอยกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมอยากพากลับมาและต้องพากลับมาให้ได้เพื่อคุณอา
ติ๊ง!
Iria : อย่าให้ใครยุ่งกับคุณพ่อฉันจนกว่าฉันจะถึงเมืองไทย!
Din : ครับ
Iris : โดยเฉพาะนาย ไอ้ดินโคลน!