“หม่อมฉันขอบพระทัยที่พึงใจหม่อมฉัน แต่ฐานะทางบ้านหม่อมฉันไม่ได้ขัดสนเงินทอง พวกเราทำธุรกิจค้าขายทองคำและเครื่องเพชร ไม่มีความจำเป็นต้องรบกวนเงินท่าน ได้โปรดปล่อยเถอะนะเพคะ ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงองค์ราชินี เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะเพคะ”
“นี่เจ้า! กล้ายกชื่อท่านแม่มาขู่เราอย่างนั้นหรือ!”
“ท่านเป็นคนบอกหม่อมฉันเอง ว่าจะขอหม่อมฉันมาอยู่ในฮาเร็มได้ก็ต่อเมื่อหม่อมฉันเต็มใจ ซึ่งหม่อมฉันก็ตอบไปแล้ว หม่อมฉันไม่ต้องการเป็นของเล่นทางเพศให้ใคร แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นท่านก็ตาม หม่อมฉันมีศักดิ์ศรี ใช้ความสามารถที่มีทำงานแลกเงินได้ ไม่เคยหวังสุขสบายด้วยรอขอเงินจากใคร”
“ถ้าเจ้าเป็นคนของเรา เราสั่งแขวนคอเจ้าไปแล้ว!”
“ถ้าท่านทำเช่นนั้น ประเทศคาโนเรอาก็คงจะโด่งดังด้านลบ ว่าองค์รัชทายาทอันดับหนึ่งสั่งแขวนคอผู้หญิง เพียงเพราะหล่อนไม่สมยอมเป็นของท่าน! ถึงตอนนั้นก็จะมีนักสิทธิมนุษยชนมากมายยกย่องหม่อมฉัน แม้หม่อมฉันจะสิ้นชีพ”
“อินทุอร! เจ้าช่วยอ่อนหวานให้ได้ครึ่งหน้าตาไม่ได้หรือ ก็ได้ ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจ เราก็จะไม่ฝืนใจ เจ้าจะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมาให้เราเห็นหน้าอีก ถ้าเราเจอเจ้าเราไม่เอาเจ้าไว้แน่!”
นัยน์ตาวาวโรจน์อัดแน่นไปด้วยลูกไฟที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งมองผู้หญิงอวดดี อยากบีบแขนนางให้แหลกคามือ แต่ด้วยความที่ไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน จึงจำใจยอมปล่อยมือทั้งสองข้าง ให้นางเป็นอิสระและถอยไปให้ไกลจากท่าน
สาวหน้าหวานทว่าฝีปากเก่ามีท่าทางลังเล ว่าจะกลับมาเอากระเป๋าดีหรือเปล่า สุดท้ายหล่อนก็ไม่กล้าเฉียดเข้ามาใกล้ท่านที่กำลังโกรธ กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
อิยาสเฝ้ายามอยู่ไม่ไกลเปิดประตูให้นาง ย้อนกลับเข้ามาท่านที่อารมณ์เสียขั้นสุด “กระหม่อมจะเอากระเป๋าออกไปให้นาง พระองค์จะได้ไม่ต้องเห็นหน้านางอีกเป็นครั้งที่สอง”
“ก็เห็นหลายครั้งแล้วไม่ใช่รึ! ทิ้งไว้ตรงนี้! ถ้านางอยากได้ก็ให้นางกลับมาคุกเข่าขอร้องเรา!”
“กระหม่อมไม่คิดว่านางจะกล้าตีฝีปาก เอ่อ... กระหม่อมจะกำชับทหารเวรทุกคนไม่ให้นางเฉียดมาใกล้”
“อยากสั่งอะไรก็สั่ง แต่ตอนนี้เจ้าออกไปก่อนได้ไหม เราอยากอยู่คนเดียว!” โกรธอินทุอร พาลไล่ตะเพิดองค์รักษ์
อิยาสโค้งกายน้อมรับคำบัญชารีบออกไปจากห้อง หลังจากประตูบานนั้นปิดลง ท่านชีคกระชากกระเป๋าสะพายเทของทุกอย่างลง จนกระทั่งเห็นว่ามีโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินหล่นลงมา อารมณ์เดือดราวกับน้ำร้อน ก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็น
ดี อยากรู้นักว่าหากขาดสองสิ่งนี้จะอยู่ได้หรือเปล่า
ช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน อินทุอรรับประทานอาหารเย็นร่วมกับคุณฟาอิด ก่อนจะเข้ามาจัดเรียงเอกสารในห้องทำงานพระราชินี ทว่าก็ทำไม่เสร็จเพราะเอกสารสำคัญอยู่ในกระเป๋าใบนั้น
อินทุอรขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสวมชุดนอนผ้าลื่นตัวยาว แต่หล่อนไม่สามารถเข้านอนได้จนกว่าจะหาวิธีเอากระเป๋ากับโทรศัพท์คืน พรุ่งนี้เช้ามีนัดเพื่อนร่วมมหาวิทยาที่เป็นคนท้องถิ่น จะไปเที่ยวด้วยกันและจะไปดูอพาร์ทเม้น
ดานาเป็นบุตรสาวพ่อค้า ต้องทำงานช่วยครอบครัวกว่าจะมีเวลาว่างไม่ใช่เรื่องง่าย อินทุอรไม่อยากพลาดนัด
“พรุ่งนี้มีนัดดานา ถ้าไม่ได้เงินกับโทรศัพท์คืนต้องแย่แน่ ไม่น่าปอดแหกวิ่งหนีออกมาทั้งอย่างนั้นเลยยัยอินเอ๊ย”
อินทุอรบ่นเป็นภาษาไทย กระวนกระวายใจเดินวนไปวนมาในห้องนอนเกือบครึ่งชั่วโมง นางข้าหลวงหน้าตาจิ้มลิ้มอายุแค่สิบเจ็ดปีมองตามซ้ายขวาคอแทบเคล็ด ภาษาอังกฤษเด็กสาวยังฟังไม่เข้าใจ ไม่ต้องพูดถึงภาษาไทยฟังไม่ออกสักคำ
“จริงสิ” อุทานขึ้นมาราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
อินทุอรนั่งลงปลายเตียงเรียกเด็กสาวเข้ามาหา
เด็กสาวแสนซื่อจะนั่งลงบนพื้นหน้าเตียง แต่อินทุอรคว้าแขนไว้ก่อนดึงมานั่งข้างๆ เด็กสาวน่าจะไม่เคยนั่งบนเตียงราคาแพงมาก่อน หรือไม่ ที่บ้านก็อาจจะไม่มีเตียงด้วยซ้ำ ทำตาใส วางฝ่ามือบนผ้าปูที่นอน ลูบสลับกับกดลงทดลองว่านุ่มหรือเปล่า
“ชอบเหรอจ๊ะ”
เด็กสาวพยักหน้า เข้าใจภาษาอาหรับสั้นๆ คำว่า ชอบ และชี้นิ้วลงไปบนเตียงที่อินทุอรพยายามสื่อสาร
“ถ้าชอบ ตอนเย็นจะมานั่งด้วยกันกับพี่ทุกวันก็ได้นะ”
เด็กสาวส่ายหน้าไปมาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ อินทุอรเห็นทีว่าพรุ่งนี้จะต้องแวะร้านหนังสือ ซื้อหนังสือภาษาอาหรับมาเรียนรู้ เพื่อจะได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นที่ทำงานในรั้ววัง หรือต่อให้ย้ายออกไปอยู่เองข้างนอก อินทุอรมั่นใจว่าจะไม่เสียเปล่า
“พี่อยากพบคุณฟาอิด รู้หรือเปล่าจ๊ะว่าคุณฟาอิดอยู่ที่ไหน” ย้ำชื่อคนดูแลวังหลวงชั้นในถึงสองครั้ง เด็กสาวถึงเข้าใจและตอบรับ อินทุอรโล่งอก “ช่วยพาไปหาคุณฟาอิดได้ไหมจ๊ะ”
“ได้ค่ะ” ฟังไม่ออก แต่น่าจะหมายความว่าอย่างนั้น
อินทุอรเช็คตัวเองในกระจก สวมใส่เสื้อคลุมหนาทับร่างต้นคอจรดข้อเท้า อีกทั้งยังถือผ้าคลุมใบหน้าติดมือมาด้วย
ห้องนอนฟาอิดอยู่ด้านหลัง เขาเป็นชายที่ผ่านกระบวนการผ่าตัดนำอวัยวะส่วนนั้นออกจากร่างกาย สามารถพักอาศัยในวังหลวงชั้นในที่มีเพียงแค่สตรี ยกเว้นองค์ราชา
อินทุอรรอไม่นาน ฟาอิดก็ตามนางข้าหลวงเข้ามา เขาอยู่ในชุดนอน สวมชุดคลุมทับแบบเดียวกัน เขายิ้มแย้มแจ่มใสแม้ว่าจะอยู่นอกเวลางาน สะบัดมือไล่เด็กสาวถอยออกไป