Chapter 6 เป็นเช้าที่แตกต่างไปจากเดิม

3020 คำ
“อื้อออ...” ผมครางในลำคอเมื่อรู้สึกเหมือนโดนอะไรกัดปาก แถมยังดูดดึงๆ อยู่นั่นแหละ มันเจ็บนะเฮ้ย! ดวงตาของผมลืมขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกตื่นไม่เต็มตาดีนัก สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาคู่สวยสีเขียวอมเหลืองกำลังจ้องหน้าผมอยู่ เนื่องจากมันอยู่ใกล้มาก ผมที่แม้ไม่ใส่แว่นก็มองเห็นได้ชัดเจน ใบหน้าได้รูปราวเทพเจ้าไม่มีอะไร จะทำแล้ว เลยมานั่งปั้นแต่งมันทีละส่วนๆ ด้วยตนเองนี่ ดูดีจนน่าอิจฉา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากที่อิ่มเอิบวาวไปด้วยน้ำ คงเป็นเพราะเรียวลิ้นสีชมพูนั่นกำลังตวัดเลียมันอย่างช้าๆ ผมรู้สึกว่าภาพที่เห็นช่างดูเย้ายวนใจนัก อืมมม งานดีจริงๆ นี่ฝันอยู่หรือเปล่านะ ทำไมคนหล่อขนาดนี้ไม่ใช่ผมกันล่ะ... ทั้งสงสัย ทั้งมึนงง ปนอยากสัมผัส ผมยกมือขึ้นลูบใบหน้าของคนคนนั้นอย่างแผ่วเบา ไม่กล้าแม้แต่จะออกแรงมาก เพราะกลัวว่าถ้าเผลออกแรงมากไปมันจะแตกสลายคามือของตัวเอง นิ้วมือค่อยๆ ไล้ไปทีละส่วนอย่างชื่นชมปนอิจฉา ก่อนจะยื่นริมฝีปากของตัวเองไปดูดปากที่ระเรื่อนั้นเสียงดังจ๊วบ พอสมใจก็หัวเราะคิกคักแล้วหลับไปอีกรอบ “คร๊อกกก” “หึหึ ละเมอได้ดี” เสียงทุ้มๆ ข้างหูไม่ได้ทำให้ผมตื่นจากความฝัน ผมยังคงนอนหลับอย่างสบายใจเพราะได้ปล้นจูบคนงามในฝันด้วยล่ะ แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวเหมือนโดนสัมผัสไปซะทุกจุด ผมพยายามไม่คิดอะไรแล้วปล่อยให้ตัวเองหลับต่อไป แม้จะเริ่มรู้สึกเจ็บปากขึ้นมานิดๆ แต่มันก็รู้สึกเคลิ้มดีมากเช่นกัน “Morning kiss” “ตื่นๆๆ พีพีตื่นได้แล้ววว วันนี้มีหิมะด้วย ไปดูหิมะกัน!!” “ไม่เอา ผมจะนอน ผมหนาว...” “ไม่ได้ๆ ไปปั้นหิมะกัน ตื่นนนนน” “อ๊ากกกกก...ตื่นแล้วครับท่าน ตื่นแล้ววว!” ผมที่นอนขดใต้ผ้าห่มถึงกับสร่างเลยทีเดียวเมื่อโดนโลเวลกระโดดทับลงมา ตามมาด้วยท่าดัดขา ผมยกมือตบลงบนที่นอนป้าบๆ อย่างยอมแพ้ นี่เตียงนอนนะเฮ้ย ไม่ใช่เวทีมวยปล้ำ แงๆ หลังพวย เห็นผมทุรนทุรายจนพอใจแล้วโลเวลจึงยอมลามือ ผมลุกขึ้นมานั่งก่อนจะคว้าแว่นตาที่จำได้ว่าวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาใส่ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เจอกับอะไรขาวๆ หล่นลงมาจากฟ้า... หิมะตกล่ะ อ๊าก...หิมะโตกกกกก สองขาของผมวิ่งไปเกาะหน้าต่างทันที รู้สึกตื่นเต้นกับหิมะแรกยิ่งกว่าโลเวลเสียอีก ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเว้ย! “เป็นไงๆ ออกไปเล่นกันเถอะ” โลเวลวิ่งมาเกาะหน้าต่างข้างผม มือเล็กๆ กระตุกแขนผมไม่หยุด “แต่ว่า...ก่อนไปมอร์นิ่งคิสกับเค้าก่อนนะ” เจ้าหนูทำปากจู๋ยื่นมาให้ผม ดวงตาหลับพริ้มเหมือนรอคอยจุมพิตจากเจ้าชาย ผมยิ้มขำๆ ให้แกก่อนจะหอมแก้มนุ่มทั้งสองข้างแทน “เป็นเด็กเป็นเล็กแค่นี้ก็พอ” “ง่าาา เค้าอุตส่าห์จะยกครั้งแรกของเค้าให้เลยนะ” “จุ๊บปากได้แค่ครั้งเดียวนะ แต่จุ๊บแก้มได้ตั้งสองครั้ว ได้เปรียบกว่าเห็นๆ” “โอ๊ะ จริงด้วย งั้นแดดดี๊ก็เสียเปรียบเค้าแล้ว โฮะๆๆ” ผมไม่ได้สนใจจะฟังโลเวลที่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำแทน จัดการธุระส่วนตัวนิดหน่อย ยกเว้นอาบน้ำไว้อย่าง ถึงน้ำในห้องน้ำจะปรับเป็นน้ำอุ่นได้แต่ผมกำลังจะออกไปเล่นหิมะ อุณหภูมิเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ร่างกายจะแย่เอา ในห้องน้ำมีชุดเสื้อแขนยาวขายาวที่คาดว่าเพิ่งจะนำมาแขวนไว้ให้ เพราะเมื่อคืนนี้ไม่ยักมี จับดูแล้วก็เห็นว่าไซส์เท่ากับขนาดตัวผม แถมมีป้ายชื่อเขียนว่า To Mr.PP อีกด้วย เอ่อ...ที่โลเวลเรียกเมื่อเช้าว่าพีพีคือเรียกผมสินะ ทุกคนคงจะหมดความอดทนกับการเรียกแพงพวยจนลิ้นเปลี้ยกันแล้ว... หลังจากใส่กางเกงในแล้วผมก็อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวเดิม เอาแต่ยืนจ้องชุดที่ถูกเตรียมไว้ให้ซึ่งมีหลายชิ้นอยู่เหมือนกัน ผมกำลังลังเลว่าควรจะใส่อะไรก่อนหลังดี มันมีอะไรที่เหมือนชุดว่ายน้ำด้วยอะ นี่จะไปเล่นหิมะนะไม่ได้ไปทะเล! “มันมีอะไรงอกออกมาหรือยัง” “เกือบแล้วครับ แต่ผมว่าผมเห็นเลขมากกว่านะ ที่นี่พอจะมีหวยขายไหมครับ ถ้าถูกสักงวดผมอาจจะรวยแล้วลาออกไปเลย โธ่! คุณลีวอนก็!” เสียงทุ้มๆ ทำให้ผมหันขวับกลับไปทันที เป็นครั้งแรกที่พ่อของเจ้าหนูไม่ได้อยู่ในชุดสูทแต่เป็นกางเกงขายาวกับเสื้อสเวตเตอร์ มาดนักธุรกิจถูกแทนที่ด้วยลุคของผู้ชายอบอุ่นแสนดี... ก็พูดไปนั่น! ใครมันจะดีเท่าผมล่ะจริงไหม ฮี่ๆ “รีบใส่เถอะ โลเวลเริ่มงอแงแล้ว” “คือ...ผมมีปัญหานิดหน่อยกับการใส่เสื้อผ้า คุณอย่าหัวเราะนะ แต่ผมไม่รู้ว่าควรใส่อันไหนก่อนหลัง แล้วไอ้นี่คืออะไร” ผมชี้ไปยังชุดเจ้าปัญหาที่เหมือนชุดว่ายน้ำ อีกฝ่ายมองผมก่อนจะหยิบไอ้ชุดว่ายน้ำนั้นขึ้นมาพาดบนแขนของตัวเอง ผมเห็นนะว่าแอบยิ้ม ตลกอะไรห้ะ! ก็อยู่บ้านนอกอะ ไม่ได้อยู่เมืองนอก ลองมาแข่งพันผ้าขาวม้ากับผมปะล่ะ “มานี่ฉันใส่ให้” ร่างสูงขยับมาประชิดแล้วทำท่าจะถอดเสื้อคลุมอาบน้ำของผมออก เล่นเอาผมตกใจจนถอยหลังกรูดไปติดผนังห้องน้ำ ความรู้สึกเหมือนตอนที่สิงโตไล่ต้อนเหยื่อของมัน สุดท้ายก็ไม่เหลือทางให้ถอย “ผมใส่เองดีกว่า คุณแค่บอกว่าอันไหนใส่ก่อนหลัง” มันแปลกนะที่จะให้ผู้ชายมาใส่เสื้อผ้าให้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นเจ้านายด้วย นี่ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ บ้าปะเนี่ยยย! “ชักช้า มานี่! ยืนอยู่เฉยๆ ก็พอ” “ไม่!” “ขัดคำสั่งฉันหักเงินเดือน” “ได้เลยครับท่าน” “ดี!” เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา ให้สมอุราให้สาแก่ใจ ไม่มีวันที่ฉันจะร้องไห้ ร่ำไร เพราะฉันมิใช่หญิงเจ้าน้ำตา... ฮือออ แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ตอนที่คุณลีวอนกำลังจะถอดเสื้อคลุมอาบน้ำของผมออกอีกครั้ง มือมันก็อดขยุ้มคอเสื้อตัวเองเอาไว้ไม่ได้ แต่เมื่อเจอสายตาดุๆ นั่น ผมก็ยอมปล่อยแต่โดยดี เอ้า! เชิญปู้ยี่ปู้ยำผมเลย เอาเลย! ร่างที่มีแค่กางเกงในตัวเดียวของผมสั่นน้อยๆ เมื่อไม่มีอะไรมาปกปิด แม่งเขินว่ะ ผมจะคิดซะว่านี่คือผู้ชายด้วยกัน ไม่มีความจำเป็นต้องอาย แต่ที่จะอายก็เพราะไอ้ดวงตาประกายนั่นแหละ! เอาแต่มองผมอย่างสำรวจตรวจประเมิน นี่จะหาปานรูปหัวใจในตัวดาวพระศุกร์อยู่รึไงกัน! นัยน์ตาคู่นั้นคล้ายว่าจะไหวระริก เมื่อเห็นรอยแดงเป็นจุดประปรายตามร่างกายผม “เอ่อ...ผมก็เพิ่งมาเห็นตอนเข้าห้องน้ำนี่แหละครับ ไม่รู้ตัวอะไรกัดเหมือนกัน” หรือผมแพ้ของแพงก็ไม่รู้ มันมีด้วยเหรอ แค่ไอ้แพ้แดดของผมนี่ก็อเมซิ่งมากพอแล้วนะ นี่กูยังจะแพ้ของแพงอีกเหรอวะ เพราะว่าผมเป็นโรคแพ้แเดด ตั้งแต่เล็กจนโตต้องคอยหลบเลี่ยงแดดอยู่ตลอด ผิวก็เลยขาวจั๊วะ ทีนี้พอโดนอะไรนิดๆ หน่อยๆ มันก็เลยเห็นได้ชัดมาก ทั้งที่จริงๆ แล้วผมชอบผิวสีแทนสุขภาพดีมากกว่าคาดว่าชีวิตนี้ผมคงไม่มีโมเมนต์นั้นแน่นอน “ไม่หรอก” “คุณรู้ได้ไง” “เชื่อเถอะว่ามันดี” ใบหน้านิ่งขรึมกระตุกยิ้มออกมา ทว่ากลับทำให้คนมองขมวดคิ้วมากกว่าเดิม “งั้นแสดงว่าผมโชคดีมากๆ” “คงจะใช่” “จริงอะ เยี่ยมไปเลยแฮะ ตื่นมาก็ได้ของดี ว่าแต่มันดียังไงล่ะเนี่ย...” แววตาของคุณลีวอนเต็มไปด้วยความขบขัน บางทียังหลุดยิ้มชั่วๆ ออกมาก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งขรึมถูกนำเข้าแทนที่เมื่อตอนที่เขารู้ตัวว่าผมกำลังจ้องเจ้าตัวด้วยความสงสัย แม่งขำอะไรวะ มีอะไรให้ตลก พอยิ้มแล้วก็เปลี่ยนไปขรึม อย่าบอกนะว่าเขา... เขาเป็นไบโพลาร์! ผู้ชายคนนี้ชักจะน่ากลัวเกินไปแล้ว... คุณลีวอนหยิบกางเกงหน้าตาเหมือนชุดว่ายน้ำแบบขายาวที่พาดอยู่บนแขนของเจ้าตัวออกมา ก่อนจะคุกเข่าลงให้ผมสอดขาเข้าไปในกางเกง “นี่เป็นชุดตัวในสุดหรือลองจอห์น มันจะช่วยให้นายอบอุ่นและเก็บความร้อนของร่างกาย ในฤดูหนาวให้ใส่ตัวนี้ก่อน” ผมยื่นขาสอดเข้าไปประหนึ่งตัวเองเป็นลูกผู้ดีมีความเป็นง่อยต้องมีคนคอยสวมชุดให้ เมื่อขาทั้งสองข้างเข้าไปอยู่ในกางเกงแล้ว คนรับใช้ เอ้ย! เจ้านายคนดีของผมก็ดึงกางเกงขึ้นมาให้จนถึงเอวบางเฉียบของผม ที่บางไม่ใช่รักษาหุ่นเหมือนพวกผู้หญิงหรอกครับ แต่บังเอิญจนมากจนไม่มีเงินกินข้าว เวทนาตัวเองเหลือเกิน... ชุดที่ใส่อยู่เป็นชุดแนบเนื้อ ทำให้ผมสัมผัสได้ว่าข้างในกางเกงเหมือนบุด้วยขนอะไรสักอย่างที่ให้สัมผัสนุ่มๆ พอใส่แล้วก็อุ่นขึ้นมาก “หึหึ ลิตเติลพี” “อะ...อะไร” “นี่ไง” อีกฝ่ายพยักพเยิดมาที่เจ้าหนูน้อยของผม “...” บร๊ะ! หยาบคายที่สุด ดูถูกกันมาก ผมไม่เล็กนะครับ! มันแค่หดเพราะหนาวเหอะ ให้ตายสิ เดี๋ยวรอมันผงาดจะจับฟาดหน้าให้ดู ถึงตอนนั้นก็อย่ามาร้อง อู้ววว ว้าววว แล้วกัน! หลังจากใส่กางเกงเขาก็จับผมใส่เสื้อแบบเดียวกันต่อ พอตอนที่ดึงเสื้อลงมาถึงหน้าอก นิ้วมือก็ปัดโดนจุกนมของผมไปด้วย เล่นเอาหวาดเสียวไปหมด ผมรู้ว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจก็เลยไม่ได้ว่าอะไร แต่น้องนมของผมนี่สิ จะตั้งยอดแข็งทำไมนะ ผมละอ๊ายอาย “ทำแบบนี้จะช่วยให้อุ่นขึ้น” มือหนายื่นมาลูบๆ ตรงหน้าท้องของผม “คุณ! คุณคิดว่าผมเป็นเด็กรึไง ถึงจะมาหลอกกันง่ายๆ แบบนี้” “ฉันไม่ได้ จะ...” “มันต้องลูบแบบนี้ต่างหากครับ” ผมพ่นลมฮาๆ ใส่มือของตัวเองก่อนจะถูมันไปมาแล้วว่างลงบนท้องของเขา “แบบนี้อุ่นกว่า คุณว่าไหม” “อื้ม จริงของนาย เป็นฉันที่ผิดมาตลอด” มุมปากได้รูปกระตุกนิดๆ เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ช่างดูแปลกประหลาดเหลือคน ส่วนผมนั้นยิ้มรับอย่างดีใจที่สามารถทำให้เขาบรรลุความจริงได้ กางเกงยีนและเสื้อแขนยาวคอเต่าสีดำถูกสวมให้ผมเป็นชั้นที่สอง ตามด้วยเสื้อโค้ตแบบมีฮู้ด “ถ้าไม่ออกไปข้างนอกไม่ต้องใส่เสื้อโค้ตก็ได้ แต่ถ้าออกไปให้ใส่ดาวน์แจ็กเก็ตอีกชั้น” “ขอบคุณครับ เดี๋ยวที่เหลือผมใส่เอง” ผมรีบแย่งถุงเท้ามาจากมือของเขาแล้วใส่มันอย่างรวดเร็ว ตามด้วยถุงมือสองข้าง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย! พร้อมลุย เย้ๆ อีกฝ่ายมองผมขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาถอดแว่นสายตารุ่นคุณทวดของผมออก ทีนี้ก็ตาบอดสมใจล่ะ... “แบบนี้...ดูดีกว่า” “ผมมองไม่เห็นครับ” คุณลีวอนทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนขัดใจ ก่อนเดินกลับมาใส่แว่นให้ผมดังเดิม แล้วดึงข้อศอกของผมให้เดินตามออกไป “Go Go...” โลเวลวิ่งนำหน้าเราไปอย่างร่าเริง สร้างรอยยิ้มให้แก่เหล่าสาวใช้และพ่อบ้านที่พบเจอได้เป็นอย่างดี เด็กน้อยเมื่ออยู่ในเสื้อโค้ตก็เหมือนก้อนแหนมดีๆ นี่เอง ส่วนผมจะเหมือนอะไรได้อีกนอกจาก ยางมิชลิน… ตอนแรกก็ใส่แค่โค้ตธรรมดาๆ ส่องกระจกแล้วดูเท่ระเบิดระเบ้อยังกับพระเอกเกาหลี ว่าจะไปยืนทำเอ็มวีสักหน่อย แต่พอเปิดประตูออกสู่โลกกว้างเท่านั้นแหละครับ วิ่งกลับมาขอเสื้อเพิ่มอีกตัวแทบไม่ทัน หนาวยันไส้ติ่ง หนาวสะใจผมมาก! เอย่าเมดโลลิเอาดาวน์แจ็กเก็ตมาให้ใส่เพิ่มอีกชั้น หลายคนอาจไม่เคยได้ยิน มันก็คือเสื้อขนห่านที่เป็นปล้องๆ นั่นแหละครบ เหมือนยางมิชลินแค่ไหนล่ะถามใจมันดูเหอะ ผมวิ่งตามโลเวลไปติดๆ รองเท้าที่ใครก็ไม่รู้จัดหามาให้ยึดเกาะพื้นได้เป็นอย่างดี แม้ที่พื้นจะมีชั้นน้ำแข็งบางๆ อยู่ก็ตาม “Do you want to build a snowman~” อันนาก็มาครับ ฮี่ๆ ผมกับโลเวลตกลงกันว่าจะทำตุ๊กตาสโนว์แมน ตั้งโชว์หน้าประตู เราสองคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในที่สุดก็ได้เจ้ามนุษย์หิมะตัวพอๆ กับคนมาหนึ่งตัว “เค้าจะตั้งชื่อมันว่าโอลีฟ จะได้เป็นภรรยาของโอลาฟ” โลเวลทำหน้าจริงจังขณะที่มือป้อมปักกิ่งไม้แห้งลงไปเพื่อทำเป็นแขนให้กับตุ๊กตาหิมะ ฟังแล้วผมก็อดหันไปมองคุณพ่อของเจ้าหนูที่ยืนกอดอกพิงประตูมองพวกเราอยู่ไม่ไกลทันที ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพบว่าเขากำลังมองมาที่ผมอยู่เช่นกัน ไม่ใช่อะไรนะ ผมแค่อยากดูหน้าคนที่เปิดการ์ตูนเจ้าหญิงให้ลูกดู เด็กผู้ชายต้องดูเบ็นเท็นสิเฮ้ย! แต่จะว่าไปผมเองก็ดูเอลซ่าเหมือนกันแหละ แหะๆ แถมยังไปนั่งดูหน้าทีวีที่เขาวางขายแล้วทดลองเปิดหนังเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพของหน้าจอและระบบเสียงด้วย อยากบอกว่าชุดโฮมเธียเตอร์นี่อย่างแหล่ม ภาพเสียงคมชัดสุดๆ ตอนนั้นถ้าไม่ติดว่าเกรงใจผมก็กะว่าจะดูราพันเซลต่อ… “อะ! คุณคริส อรุณสวัสดิ์คร้าบบบ” ผมโบกไม้โบกมือ ฉีกยิ้มไปถึงติ่งหูให้คุณคริสที่อยู่ในชุดสูทสีดำตามแบบฉบับของพ่อบ้าน ชายหนุ่มกำลังหอบเอกสารกองโต เดินมาตามระเบียงข้างตัวคฤหาสน์ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมายิ้มตอบอย่างสุภาพให้ผม ฟุ่บ! “อุ๊ก!!” ครับ...หิมะเต็มหน้าพวยเลยครับ ในขณะที่กำลังจะถามว่า ‘คุณคริสไม่หนาวเหรอ’ อยู่ๆ ผมก็โดนก้อนหิมะก้อนเท่ากำปั้นปาเข้าหน้ามาเน้นๆ อร่อยเต็มๆ คำเลยทีเดียว หน้าผมชาไปหมดเพราะโดนหิมะกระแทก ไม่ต้องพูดถึงแว่นตงแว่นตานี่ขึ้นฝ้าไปแล้ว สะ...สารเลวตัวไหนมันทำร้ายคนหล่อ! หลังจากเช็ดแว่นตาให้กลับมาใสกิ๊งเหมือนเดิมผมก็สอดส่องหาตัวการ โลเวลอยู่ใกล้สุดยกมือสองข้างขึ้นยักไหล่ ส่ายหัวด๊อกแด๊กไปมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ไม่วายพูดแบบไม่ออกเสียงบอกใบ้ให้ว่า ‘แดดดี๊’ ผมเลิกคิ้วหันหน้ามองพ่อของเจ้าหนู ทันได้เห็นอีกฝ่ายกำลังปัดหิมะออกจากถุงมือแล้วกอดอกทำตัวเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพอดี เกือบเนียนแล้ว แต่ยังไม่ดีพอ ด้ายยยยย จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม มึงตายยยยย ฟุ่บ! “ขอโทษครับท่าน พอดีมือมันลื่น” ก้อนหิมะที่ผมปั้นขึ้นถูกปาไปเข้ากลางหน้าผากของคุณลีวอนเต็มๆ ฟุ่บ! “อ้อ ไม่เป็นไร มือลื่นเหมือนกัน” ฟุ่บ! “อุ๊ย ลมพัดแรงปลิวไปนู่นเลย” ฟุ่บ! “หิมะตรงนั้นตกแรงดีเนอะ” ฟุ่บ! “เหอๆ อันนี้ไม่ลื่นครับผมตั้งใจ” “หึหึ...” “...” “นาย แน่ มาก” อ้อ แน่อยู่แล้วครับ นี่ใคร ก็พวยไง (อันนี้พูดในใจ) รอยยิ้มเหี้ยมๆ ถูกส่งมาให้ผม เหมือนจะเห็นความคุโชนของไฟในดวงตาคู่นั้น ผมยิ้มเหยไปให้ ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเจ้านาย พวยก็กลัวใจนิดหนึ่ง ก็แบบว่าเมื่อกี้ผมลืมตัวอะ แง แต่ถามว่าเป็นเจ้านายแล้วผมจะปล่อยให้อีกฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวละก็ ไม่มีทางว้อย! ดังนั้นเราทั้งสองจึงยืนกันอยู่คนละฟาก ก่อนจะปาหิมะใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้! “ย้ากกกกก” โลเวลถูกพ่อบ้านอุ้มออกไปให้ห่างจากเราสองคนที่เริ่มเหมือนหมาบ้ากัดกันเข้าไปทุกที คนตักหิมะถอยไปหลายเมตรหลังจากที่โดนลูกหลงไปหลายครั้ง และทุกครั้งที่ผมปาโดนตัวของคุณลีวอน โลเวลก็จะปรบมือชมเสียยกใหญ่ เล่นเอาคุณพ่อหน้าตึงเพราะลูกไม่เข้าข้างสักนิด ส่วนคุณคริสวาร์ปหนีตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แม่งเร็วชะมัด ‘ สุดท้ายสงครามจบลงเพราะโลเวลโดนลูกหลง เด็กน้อยร้องไห้จ้าทันทีเพราะความเจ็บปนตกใจ พ่อบ้านที่อุ้มเจ้าหนูอยู่แทบจะเป็นลมล้มพับหลังจากถูกสายตาคุณลีวอนตวัดมองคล้ายกับมีคำพูดว่า ‘ทำไมถึงพานายน้อยหลบไปไม่ทันห้ะ!’ ผมได้แต่ทำสีหน้าขอโทษขอโพยพ่อบ้านคนนั้น เพราะหิมะที่ปาไปอัดหน้าโลเวลเป็นฝีมือผมเองแหละ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม