บทที่ 4

944 คำ
4.ตกกล้า หลังงานบุญสงกรานต์ผ่านไปได้ไม่นาน เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝน ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อ้ายจารย์คำและอ้ายจารย์ธงช่วยกันไถฮุดนาลุ่มเสร็จแล้ว นาลุ่มคือนาแปลงใหญ่ที่มักจะโดนน้ำโพงไหลท่วมทุกปี เพราะอยู่ในที่ลุ่ม เวลาน้ำโพงเอ่อถึงตลิ่ง มันจะล้นคันคูนาพ่อครูจูม พ่อใหญ่ขันตี และนาของแม่ใหญ่วันดี จากนั้นสายนำโพงอันมหาศาลก็จะหลากไหลเข้าท่วมนาลุ่มของแม่ใหญ่ผมจนกลายเป็นทะเลน้ำจืด ดังนั้น อ้ายจารย์คำจึงต้องเร่งรีบไถฮุดนาลุ่มให้แล้วเสร็จก่อนที่น้ำโพงจะไหลหลาก ส่วนอ้ายจารย์ธงและพี่สาวของคำปันจะนอนอยู่ที่หมู่บ้าน กว่าจะลุกตื่นมานาวังโกในแต่ละวัน ตะวันก็สายโด่งจนแสงแดดครอบคลุมไปทั่วท้องทุ่งนาวังโกแล้ว เมื่อคืนฝนตกหนักมาก ทำให้ข้าวเปลือกที่แช่น้ำเอาไว้ในหนองโดนสายน้ำที่ไหลเอ่อในแปลงนาพัดลอยไปไกล อ้ายจารย์คำจึงตัดสินใจตกกล้า การตกกล้าคือการหว่านข้าวเปลือกที่ใช้ทำพันธุ์แช่ไว้ในน้ำจนเมล็ดข้าวงอกออกจากเปลือกข้าว เรียกว่าการตกกล้าข้าวเปลือกตม แต่บางกรณี ชาวนาจะตกกล้าแบบแห้งหรือแบบดินผง โดยการหว่านเมล็ดข้าวเปลือกและใช้คราดคลุกเคล้ากับดินที่แตกละเอียด เพื่อรอฝนที่จะตกลงมา การตกกล้าแบบนี้มีโอกาสสุ่มเสี่ยงมากกว่าการตกกล้าแบบข้าวเปลือกตม ชาวนาวังโกบางคนก็ตกกล้าผงไว้รอน้ำฝน แต่อ้ายจารย์คำจะใช้คันโซ่วิดน้ำจากลำน้ำโพงขึ้นมาใส่ในแปลงนา การตกกล้าผงกับการตกกล้าน้ำจะแตกต่างกัน เวลาถอนกล้าผงจะถอนยากเพราะดินแน่น รากต้นกล้าชอนไชในดินลงลึกทำให้ต้นกล้าขาด การตกกล้าน้ำหรือตกกล้าแบบข้าวเปลือกตมต้องระบายน้ำออกให้หมดหลังจากคราดดินให้ร่วนซุยแล้วจึงลงมือหว่านข้าวเปลือกลงไป ถ้าปล่อยให้น้ำท่วมเมล็ดข้าวจะเน่าเสีย วันนี้ คำปันกับอ่อนจันทร์ สองพี่น้องพากันจูงเอาวัว ควายออกจากคอก นำไปผูกล่ามไว้กับต้นไม้ใกล้ๆดอนป่าจิกเหมือนทุกวัน แม่ใหญ่กงปิ้งเขียดอีโม่ที่อ้ายจารย์คำไปจับมาเมื่อคืน เวลาฝนตกตอนกลางคืน กบ เขียดจะออกมาหากินแมลง และไส้เดือนบนคันนา อ้ายจารย์คำหากินเก่ง แกใช้ตะเกียงแก๊สส่องหากบเขียดตามคันนาในท้องทุ่งนาวังโก บางครั้งโชคร้ายไปเจองูเห่า งูปล้องทอง แกจะรีบเดินหนีขึ้นมายังเถียงนาทันที กลิ่นหอมของปิ้งเขียดอีโม่ทำให้คำปันกับอ่อนจันทร์ต้องรีบล้างหน้า สีฟันด้วยการอมเกลือและขี้ถ่านไฟ บางครั้งรีบเร่งทำให้มีเลือดไหลออกมาจากเหงือก คละเคล้ากับน้ำลายและน้ำที่ใช้ม้วนปากจากโอ่งมังกร แม่ใหญ่กงเตรียมพาข้าวไว้รอแล้ว นอกจากปิ้งเขียดแล้ว ยังมีแจ่วปลาแดกไว้จ้ำอีกด้วย พร้อมกับข้าวเหนียวร้อนๆ แต่งตัวเสร็จจึงลงมือกินข้าวอย่างแซบนัวเลยทีเดียว แม่ใหญ่กงแบ่งปิ้งเขียดโม่ใส่กระติ๊บข้าวให้คำปันกับอ่อนจันทร์ห่อเป็นกับข้าวไปกินที่โรงเรียนอีกด้วย ครั้นแล้ว สองศรีพี่น้องก็ก้าวเดินลงจากเถียงนาด้วยชุดนักเรียนตัวเดียวกับที่เคยใช้เลี้ยงควายนั่นแหละ ชุดนักเรียนของสองพี่น้องเป็นผ้าฝ้ายทอมือ ฝีมือของแม่ใหญ่กงกับแม่ทองออน ส่วนการตัดเย็บชุดนักเรียนนั้นเป็นฝีมือของแม่ทองถม ซึ่งเป็นเมียครูใหญ่ แกเป็นช่างเย็บผ้าของหมู่บ้าน เมียของครูใหญ่เปิดร้านค้าและตัดเย็บเสื้อผ้าให้ชาวบ้าน ลูกสาวของแม่ทองถมเรียนห้องเดียวกันกับคำปัน หน้าตาสวย น่ารัก ใครๆก็อยากเป็นเพื่อนกับเธอ กางเกงนักเรียนต้องย้อมครามหรือย้อมหมากเกลือเพื่อจะได้ไม่เปื้อนเร็ว ส่วนเสื้อผ้าฝ้ายก็ซักล้างให้สะอาดก็เพียงพอแล้ว คำปันกับอ่อนจันทร์มีเสื้อผ้านักเรียนคนละชุด ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ พวกเขาจะช่วยกันซักผ้าในลำน้ำโพง คำปันกับน้องชายพากันเดินไปโรงเรียนด้วยกันอย่างอารมณ์ดี เพราะอากาศรอบๆบริเวณทุ่งนาวังโกเย็นสบาย ท้องทุ่งกว้างใหญ่ ชาวนากำลังลงมือปักดำข้าวกล้าอย่างขมักเขม้น ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังเดินบนคันนาอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น เท้าของเด็กชายอ่อนจันทร์น้องรักของคำปันก็พลันลื่นไถล หงายหลังตีลังกาเพราะเหยียบขี้ตมที่เปื้อนเปรอะบนคันนานั่นเอง อ่อนจันทร์ลื่นล้มหงายหลังไปนอนแอ้งแม้งบนคันนาข้าวที่เพิ่งเสร็จจากการปักดำจนเสื้อผ้าของเขาเปื้อนขี้ดินโคลนเปียกปอน เลอะเทอะ อ่อนจันทร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น และพาลโกรธตัวเองที่เดินไม่ระมัดระวัง เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับเหตุสุดวิสัยของเช้าอันรื่นรมย์ ในขณะที่คำปันอดที่จะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เขาส่งเสียงหัวเราะอย่างสมเพชกับชะตากรรมของน้องชาย อ่อนจันทร์เดินร้องไห้กลับไปยังเถียงนา วันนี้เขาขาดเรียนอีกตามเคย ******
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม