[4]
ผิดไหมที่ฉันไม่หย่า
เสียงอาเจียนดังเล็ดลอดออกมาจากรั้วของเรือนไม้หอม เรือนที่สร้างเพื่อละอองดาวโดยเฉพาะ นางวิภานิ่วหน้าสงสัย เพราะจำได้ว่าลูกสะใภ้ป่วยไข้ตั้งแต่วันก่อน มดหมอหรือก็หามารักษาแล้ว แต่เหตุใดเล่าสาวเจ้ายังไม่ทุเลา
“เสียงดังเชียวค่ะคุณ” นางเจรียงที่ยืนอยู่ด้านหน้าผู้เป็นนาย ท้วงทักพลางผลักรั้วไม้เตี้ยๆ ที่กั้นระหว่างสองบ้านออก เพื่อให้นายของตนได้ก้าวเข้าไป
“ฉันว่ามันชักยังไงๆ แล้วนะ ยัยดาวนี่อาการแปลกๆ เหมือน...”
“ท้องแน่ๆ เลยค่ะคุณภา”
นางเจรียงต่อประโยคนั้นของเจ้านายด้วยสิ่งที่นางกำลังคิดอยู่
“จริงหรือพี่!” วิภาถามกลับอย่างดีใจ นางเจรียงพยักหน้าว่าต้องจริงแท้แน่นอน วิภาจึงเร่งฝีเท้าเพื่อก้าวเข้าไปในอาณาเขตเรือนไม้หอม เรือนหอของลูกชายคนโต นางอยากรู้เหลือเกินว่าสิ่งที่นางเจรียงคิดอ่านนั้นจะเป็นจริงหรือไม่
สาวใช้นามว่านกเอี้ยงรีบเดินออกมารับหน้าคุณผู้หญิงของบ้านจตุรศิลป์ หล่อนมีถาดสำรับอาหารที่นายสาวเจ้าของเรือนยังไม่ได้รับประทาน ถือติดมือมาด้วย
“ยัยดาวเป็นอะไรฮึแม่นก ไม่สบายยังไม่หายอีกรึ”
“สงสัยจะหายยากค่ะ นกว่าคุณผู้หญิงไปดูคุณดาวเถอะค่ะ เธอไม่ยอมกินอะไรเลย บ่นแต่ว่าเหม็น อันนั้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่เอา นกวิ่งไปห้องครัวรอบที่สามแล้วแต่ยังหาสำรับที่ถูกใจมาให้คุณดาวไม่ได้เลยค่ะ”
นกเอี้ยงเอ่ยเสียงอ่อย วิภาเลยสั่งเจรียงให้ไปเอาข้าวเปล่ากับยำอะไรก็ได้ที่รสออกเปรี้ยวสักหน่อยมาให้ลูกสะใภ้
นางเจรียงรับคำแล้ววกกลับไปตึกใหญ่เพื่อจัดการตามที่เจ้านายสั่งทันที
“แล้วตาโยไปไหน ไปทำงานเหรอ” วิภาถามนกเอี้ยงอีกครั้ง เพราะตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นลูกชายที่ตึกใหญ่ เลยสงสัยว่าเขาอาจจะนอนที่นี่และบางทีอาจเข้าบริษัทแล้ว
“ไม่ทราบค่ะ เมื่อคืนคุณโยค้างบนตึกค่ะไม่ได้ค้างที่เรือนนี้กับคุณดาว แต่หนูว่าคงไม่ได้ไปทำงานมั้งคะ เพราะวันนี้วันเสาร์”
นกเอี้ยงตอบเสียงแผ่วกว่าเดิม นางวิภาพยักหน้าเข้าใจ บางทีเขาอาจจะไปบ้านโน้น ไม่รู้ว่าลูกชายจะทำร้ายลูกสะใภ้นางไปถึงไหน เมียเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่เคยมาดูแลกันบ้างเลย
นายกับบ่าวเดินตามกันขึ้นเรือนไม้หอม ละอองดาวนอนซมอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าอิดโรย แม่สามีเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ ยิ่งรู้ว่าลูกชายไม่ได้สนใจไยดีลูกสะใภ้ นางก็นึกโกรธขึ้นมาครามครัน
“แม่ดาว หล่อนยังเป็นไข้หวัดไม่หายรึ”
“คุณแม่...ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ” ละอองดาวยันกายขึ้นมานั่งอย่างทุลักทุเล รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย อาการที่เป็นตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ยิ่งหนักกว่าเดิมหลายเท่า บางทีอาจเป็นผลมาจากแอลกอฮอล์ที่เธอดื่มตอนอยู่สิงคโปร์ ถึงจะเล็กน้อยก็จริง แต่เธอรู้ทั้งรู้ว่าดื่มไม่ได้ ก็ยังจะดื่ม สมควรแล้วที่ร่างกายจะประท้วง
“ถ้าค่อยยังชั่วจริงๆ แล้วทำไมหล่อนยังนอนแบ็บอยู่อย่างนี้ล่ะ ปกติเห็นยืนเถียงกับฉันฉอดๆๆ”
นางค่อนขอดจริงจังทำเอาละอองดาวอดคลี่ยิ้มเซียวๆ ส่งให้ไม่ได้
“ยัยนกเอี้ยงเอ๊ย ไปดูพี่เจรียงให้ฉันที มัวไปปลูกข้าวอยู่หรือไงนะ นานจริงเชียว”
นกเอี้ยงรีบไปตามคุณป้าเจรียงในทันที นึกดีใจที่จะได้เอาสำรับกับข้าวที่ถืออยู่ชุดนี้ไปเก็บในครัวเสียให้เรียบร้อย
วิภาหันมามองใบหน้าซีดเซียวของคนป่วยอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยบางอย่าง
“ตาโยไม่ได้มาดู สงสัยจะยุ่งเรื่องงานที่บริษัท”
มารดาผู้แสนดีเอ่ยเข้าข้างลูกชายให้ลูกสะใภ้ฟัง ละอองดาวน้ำตาซึม เมื่อคิดได้ว่าแม่สามีจงใจเอ่ยเช่นนั้นเพื่อทำให้เธอสบายใจ
“คุณโยไปบ้านคุณนุตค่ะ”
เธอเป็นฝ่ายแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นให้นางวิภาเข้าใจ และก็ได้รับอารมณ์บูดๆ ของนางตอบแทน เมื่อเช้านี้ สามีที่ไม่เคยรักใคร่ อุตส่าห์แวะมาดูอาการเธอและช่วยให้กำลังใจด้วยการแจ้งว่า ไม่อาจอยู่ดูแลจนถึงเวลาอาหารเช้าของเธอได้ เพราะต้องรีบไปกินมื้อเช้ากับสาวคนรัก ช่างมีน้ำใจจริงๆ
“นั่นไง! ฉันว่าแล้วเชียว ลูกหนอลูกไม่มีหัวคิดบ้างเลย!” มารดาผู้แสนดีประชดประชันลูกชายอย่างเต็มที่ สีหน้าท่าทางเอาเรื่องจริงจัง
“คนเขารักกันนี่คะคุณแม่ อย่าโมโหเพราะเรื่องดีๆ อย่างนี้เลย ดาวอยากให้คุณแม่ปล่อยวางแล้วยอมรับความรักของพวกเขานะคะ”
ละอองดาวเอ่ยออกมาจากใจจริง เธอพร้อมจะไปทุกเวลาหากว่าเขาต้องการ แต่นั่นก็ต่อเมื่อวาโยให้ในสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน
“ฉันก็ปลงแล้วนะแม่ดาว แต่จะทำยังไงได้ ตาโยคงโกรธฉันจนไม่ยอมให้อภัยแล้ว เฮ้อ...” นางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายในทิฐิของลูกชายคนโต หลายปีมานี้นางอยู่กับความรู้สึกผิดมาตลอด ถ้าไม่ขัดขวางการแต่งงานของคู่รักตั้งแต่แรก นางคงไม่ต้องทรมานเพราะความหมางเมินของวาโย และที่สำคัญก็คือ สะใภ้โสเภณีที่นางรังเกียจก็คงไม่ได้มาเหยียบบ้านนี้เป็นแน่แท้ แต่ก็นั่นละนะ ละอองดาวไม่ผิด นางต่างหากที่ผิด ผิดมาตั้งแต่ต้น
“อุ๊บ!”
วิภาหลุดจากภวังค์เมื่อลูกสะใภ้ยกมือปิดปากกลั้นบางอย่างที่คงพุ่งขึ้นมาจากช่องท้อง นางแลหาถังขยะ เมื่อพบก็ส่งมันให้เจ้าหล่อนอย่างไว
ละอองดาวโก่งคออาเจียนอีกระลอก คราวนี้มันเล่นงานจนเธอไร้เรี่ยวแรงจะตะเกียกตะกายไปอาเจียนในห้องน้ำ เดือดร้อนแม่สามีต้องหาน้ำหาท่ามาให้บ้วนปาก
“ดีขึ้นไหมแม่ดาว...นี่น้ำ บ้วนปากอีกหน่อย”
นางรินน้ำในเหยือกให้ลูกสะใภ้ ละอองดาวทำตามที่แม่สามีสั่ง ฝ่ามือเหี่ยวย่นยังเพียรลูบหลังให้คนเจ็บไข้ไม่หยุดหย่อน เธอซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ต้องปล่อยให้มันรินไหลออกมา