EP3/2สาวใช้ของนายยักษ์

1112 คำ
ความเงียบงันปกคลุมภายในห้องอีกครั้ง วาโยเลี่ยงไปโทรศัพท์สั่งเด็กให้นำข้าวต้มมาให้หญิงสาว และไม่นานหลังจากนั้น นกเอี้ยงก็เข้ามาพร้อมถาดอาหารและน้ำเปล่า สามีหนุ่มไม่ขอให้นกเอี้ยงช่วยป้อนข้าวภรรยา เพราะเขาจะทำมันเอง ตอนนี้เขาป้อนข้าวคนป่วยเก่งยิ่งกว่าพยาบาลเสียอีก “ฉันไม่หิว” ละอองดาวบอกสั้นๆ แล้วหันหน้าหนี ถ้าเป็นเวลาอื่นเธอคงอยากกลืนข้าวที่เขาป้อนลงท้องทุกเม็ด แต่เธอรู้ว่าเขากำลังทำดีกับเธอ เพื่อที่จะหวังผลบางอย่าง “นี่เป็นเหตุผลแรกที่ฉันต้องลงมือป้อนข้าวเธอด้วยมือของฉัน เพราะขนาดฉันป้อนเธอยังดื้อดึงไม่ยอมกิน แล้วถ้าเป็นคนอื่นละก็ อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมกินดีๆ” “คุณทำเพราะหวังให้ดาวใจอ่อนเรื่องหย่า ดาวรู้ดี แต่ดาวขอยืนยันว่ายังไงก็จะหย่าให้ได้” “สิ่งเดียวที่ฉันหวังตอนนี้คือให้เธอกินข้าวกินยาแล้วนอนพัก ด้วยความสัตย์จริง” เขายืนยันอีกครั้งอย่างหนักแน่น หญิงสาวจึงยอมรับเอาข้าวต้มเข้าปากแต่โดยดี ละอองดาวยินยอมให้สามีป้อนข้าวป้อนน้ำจนเกลี้ยงชาม ทว่าปฏิเสธที่จะรับประทานยา วันสองวันมานี้เธอกินยาแก้ปวดลดไข้ไปหลายรอบแล้ว มันต้องไม่ดีต่อร่างกายแน่ๆ เธอนั่งรอให้ข้าวย่อย เพราะขืนนอนตอนนี้มีหวังได้อาเจียนอีกรอบ วาโยห่มผ้าให้ภรรยา การกระทำเล็กน้อยกลับจู่โจมหัวใจของละอองดาวอย่างหนักหน่วง “เมื่อตอนวันเกิดคุณ ดาว...นั่งรอจนสว่าง” ละอองดาวสารภาพ ก้อนสะอื้นตีตื้นขึ้นมาจุกในลำคอ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว เธอนั่งรอฉลองวันเกิดร่วมกับเขา ตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนกระทั่งถึง...เจ็ดโมงเช้า “ฉันขอโทษ ที่ไม่ได้โทรมาบอกว่าไปฉลองกับ...คนอื่น” เขาเลี่ยงถ้อยคำที่คาดว่าจะทำร้ายหัวใจของภรรยา หล่อนรักเขา เขารู้ แต่จะให้พูดว่ารักตอบ มันก็พูดยากเหลือเกิน “ช่างมันเถอะค่ะ ดาวเข้าใจ บนชั้นในตู้เสื้อผ้า มีกล่องสีชมพูวางอยู่ทางขวามือ ถ้าคุณจะเปิดตู้ออกแล้วหยิบมันไปซะ ดาวจะขอบคุณมาก” หญิงสาวยิ้มขมขื่นให้กับความขื่นขมที่ระดมเข้ามาราวห่าฝน เธอล้มตัวลงนอนอีกครั้ง และบังคับเปลือกตาให้ปิดสนิท และก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปจริงๆ ละอองดาวก็เลื่อนมือสองข้างไปวางบนหน้าท้องของตน อย่างต้องการปกป้องและคุ้มภัย วาโยทำตามที่ละอองดาวบอก เขาหยิบกล่องเล็กๆ นั่นออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปจากห้องเงียบๆ ปล่อยให้หญิงสาวได้นอนหลับพักผ่อนจะได้หายป่วยไวๆ วันถัดมา บริษัท จตุรศิลป์ แสงแดดตอนเกือบสายของวันทำงาน ตกกระทบเรือนร่างในชุดสูทแบบสตรีที่ชิ้นบนเป็นสูทพอดีตัวสีครีมอ่อน มีเกาะอกสีนวลซ่อนอยู่ด้านใน ส่วนชิ้นล่างเป็นกระโปรงยาวคลุมเข่า เนื้อผ้าบางพลิ้วคลอเคลียกับน่องเรียวยามเจ้าตัวออกเดิน โดยรวมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สิมันตราดูดีไม่มีที่ติ แต่มันคงดีกว่านี้ หากริมฝีปากงามจะเผยรอยยิ้มละไมให้ชาวบ้านเสียบ้าง “ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย ฉันจ้างนะไม่ได้บังคับมา” ผู้เป็นเจ้านายเริ่มออกคำสั่ง ขณะเดินนำสาวเจ้าเข้าบริษัทในวันนี้ สิมันตราจำต้องแย้มริมฝีปาก แต่มันคล้ายๆ แยกเขี้ยวให้ดูเสียมากกว่า น่าประทับใจเสียนี่กระไรที่เจ้าของบริษัทออกมารอต้อนรับแม่บ้านอย่างเธอด้วยตัวเอง “พวกพนักงานของคุณแอบมองฉัน” สิมันตราทำหน้ายู่อย่างขัดใจ เธอเดินตามเขาเข้าไปในบริษัทโดยมีสายตานับสิบนับร้อยจ้องมองมาราวกับว่าพวกเขาผูกลูกตาติดกับบั้นท้ายเธอ “ก็คงประหลาดใจมั้ง” ที่ฉันออกมาต้อนรับพนักงานอย่างเธอด้วยตัวเอง กุมภัณฑ์เอ่ยอีกประโยคในใจ ยิ้มน้อยๆ แล้วหันมามองคนที่เดินอยู่ข้างหลัง หล่อนน่ารักนี่ ใครๆ ก็อยากมองทั้งนั้นแหละ “อย่ามายิ้ม เรื่องนี้ฉันจริงจังนะ ความจริงคุณน่าจะมีชุดฟอร์มแม่บ้านให้ฉันด้วย” “อืม...เข้าท่าแฮะ แล้วถ้าฉันเมื่อยจนต้องให้เธอนวดให้ เธอก็ต้องมีชุดหมอนวดใช่ไหม หึๆๆ” ชายหนุ่มโคลงศีรษะพลางยิ้มยั่วเย้า “ไม่ต้องค่ะ! ขอบคุณที่กรุณา” สิมันตราโต้กลับด้วยเสียงลอดไรฟัน กุมภัณฑ์ยิ้มสมใจให้กับผนังลิฟต์มันวาว เขากดปุ่มเพื่อให้ลิฟต์ไปส่งยังชั้นบนสุด ก่อนจะจ้องหน้าหล่อนผ่านเงาสะท้อนของผนังลิฟต์ ภาพใบหน้าขุ่นมัวไม่ชัดเจน แต่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อกลับโดดเด่นจนเขาอยากตะโบมจูบให้หนำใจ ใจเย็นๆ โว้ยไอ้ยักษ์ เดี๋ยวกวางตื่น เขาได้แต่เตือนตัวเองในใจ ก้าวขาออกจากตัวลิฟต์เมื่อมันเคลื่อนมาถึงชั้นบนสุด ภายในห้องทำงานของกุมภัณฑ์ สิมันตราเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ผู้ชายเพลย์บอยกินเที่ยวจนดึกดื่น มีผู้หญิงข้างกายไม่ขาด แถมแต่ละคนยังร้อนแรงใช่เล่น ไม่น่าเชื่อว่าห้องทำงานเขาจะตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อน กระดาษบุฝาผนังยังมีลายช่อดอกไม้เล็กๆ เรียงซ้อนกันเหลื่อมล้ำชวนมอง บนผนังด้านหนึ่งมีชั้นวางขวดหรือแจกันอะไรสักอย่างซึ่งมีรูปทรง สีสัน และตราฉลากแตกต่างกัน พอเธอยื่นหน้าเข้าไปอ่านใกล้ๆ เลยได้รู้ว่ามันคือขวดน้ำแร่ยี่ห้อต่างๆ เธอเอื้อมมือไปช้าๆ หมายจะหยิบมัน ใกล้เข้าไปทีละนิด ทีละนิด... “อย่าจับ!” “ว้าย! ตกใจหมดเลย” สิมันตราหน้าซีดเผือด มือน้อยถูกเบรกกลางอากาศ เขาจะเสียงดังอะไรนักหนา เธอแค่จะขอดูขวดน้ำใกล้ๆ เท่านั้นเอง เพราะเคยรู้มาว่าน้ำแร่ดีๆ มีราคาสูงกว่าเพชรเสียอีก “เธอไม่อยากแตะขวดน้ำแร่พวกนั้นหรอกกวาง ถ้ารู้ว่ามันราคาเท่าไหร่” เขาเอ่ยเป็นนัยซึ่งหญิงสาวคงรู้ “จะบอกว่าฉันมันคนจน ไม่มีปัญญาหาน้ำแร่ขวดเป็นแสนกินละสิ” เธอแขวะเล็กน้อย เดินเท้าสะเอวเข้าไปประจันหน้ากับเจ้านาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม